ในประเทศไทย, กฎหมายเยาวชนมีการกำหนดเกณฑ์อายุและมาตรการปฏิบัติต่อเยาวชนที่กระทำผิดทางอาญาอย่างชัดเจน โดยเด็กที่อายุต่ำกว่า 10 ปีจะไม่ต้องรับโทษ ส่วนเด็กอายุระหว่าง 10-15 ปีอาจไม่ต้องรับโทษ แต่อาจถูกตักเตือนหรือส่งไปยังสถานฝึกอบรมหรือองค์กรที่ศาลเห็นสมควร สำหรับผู้ที่มีอายุ 15-18 ปี, ศาลอาจลดโทษหรือใช้วิธีเดียวกันกับเด็กอายุ 10-15 ปีขึ้นอยู่กับความร้ายแรงของคดีและดุลพินิจของศาล
ในแง่ของการปรับปรุงกฎหมายเยาวชน, พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 29) พ.ศ.2565 ได้เพิ่มขึ้นเกณฑ์อายุขั้นต่ำในการรับโทษทางอาญาของเด็กจาก 10 ปีเป็น 12 ปี โดยคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นสำคัญ. นอกจากนี้, กฎหมายยังกำหนดให้ศาลเยาวชนและครอบครัวมีอำนาจในการพิจารณาคดีเยาวชน โดยมุ่งเน้นไปที่การแก้ไขและบำบัดพฤติกรรมมากกว่าการลงโทษ.
การออกหมายจับเด็กหรือเยาวชนจะต้องคำนึงถึงการคุ้มครองสิทธิของเด็กหรือเยาวชนเป็นสำคัญ โดยเฉพาะเรื่องอายุ, เพศ, และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตจากการออกหมายจับ.
ประเด็นเรื่องกฎหมายเยาวชนนี้กำลังเป็นที่ถกเถียงในสังคมไทย โดยมีคำถามว่าควรยกเลิกหรือปรับปรุงกฎหมายเยาวชนเนื่องจากความรุนแรงในคดีที่เกี่ยวข้องกับเยาวชน
แนวทางแก้กฎหมายเยาวชนให้ผู้กระทำผิดได้รับบทลงโทษที่เหมาะสม
เพื่อแก้ไขปัญหาในกฎหมายเยาวชนของไทย และให้ผู้กระทำผิดเยาวชนได้รับบทลงโทษที่เหมาะสม, สามารถดำเนินการได้ดังนี้:
- เข้าใจจิตวิทยาการพัฒนา: สำคัญที่จะต้องเข้าใจถึงวัยเจริญเติบโตของเยาวชน โดยเฉพาะการรับรู้ถึงผลกระทบของปัจจัยลบในวัยเด็กและวัยรุ่น เช่น ตัวอย่างที่ไม่ดีจากพ่อแม่หรือเพื่อน, ขาดความอบอุ่น ฯลฯ ซึ่งสามารถนำไปสู่พฤติกรรมที่ต่อต้านสังคม.
- การกำหนดโทษและการฟื้นฟูที่เหมาะสม: กฎหมายไทยปัจจุบันมีการจัดการกับเยาวชนที่มีอายุต่างกันอย่างแตกต่าง การปรับให้โทษและการฟื้นฟูตรงกับความต้องการและสถานการณ์เฉพาะของเยาวชนแต่ละคดีจะช่วยให้การลงโทษมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- แก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ: การทำความเข้าใจและแก้ไขปัญหาสังคมที่เป็นต้นเหตุของการกระทำผิดของเยาวชน เช่น ความยากจน, ปัญหาในครอบครัว, หรือปัญหาสุขภาพจิต.
- การปรับปรุงกรอบกฎหมาย: อาจจำเป็นต้องทบทวนและปรับปรุงกรอบกฎหมายเพื่อให้สอดคล้องกับความเป็นจริงในสังคมปัจจุบันและความเข้าใจในจิตวิทยาการพัฒนา.
- เพิ่มการรับรู้และระบบสนับสนุน: การรณรงค์เพื่อเพิ่มการรับรู้ในสังคมและการสร้างระบบสนับสนุนที่แข็งแกร่งสำหรับเยาวชนที่มีความเสี่ยงจะช่วยป้องกันการกระทำผิดและช่วยในการฟื้นฟูเยาวชนที่กระทำความผิด.