เวลาจะต่อประกันรถยนต์สักครั้ง เจ้าของรถทุกท่านย่อมคำนึงถึงความคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์จึงพยายามมองหาประกันรถยนต์ที่มีความคุ้มครองมากมายในราคาประหยัดที่สุด โดยหารู้ไม่ว่า บางเรื่องเกี่ยวกับประกันรถยนต์เราสมัครไปนั้นอาจจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดที่ทำให้เราได้แบบประกันรถยนต์ที่ไม่ตรงกับไลฟ์สไตล์การขับขี่หรือทำให้เสียเบี้ยประกันรถยนต์แพงกว่าที่ควรจะเป็น วันนี้จึงขอรวบรวมเอาความเข้าใจผิดเกี่ยวกับประกันรถยนต์ที่พบได้บ่อยๆ มาฝากกัน เพื่อให้ทุกๆ ได้ซื้อประกันรถยนต์ที่ “ถูก” และ “ดี” เหมาะสมกับไลฟสไตล์การใช้รถยนต์ของเราจริงๆ กันค่ะ
1) ซื้อที่อื่นทำไม ซื้อกับบริษัทประกันโดยตรงถูกที่สุดแล้ว
หลายคนมักเข้าใจผิด คิดว่า การซื้อประกันรถยนต์ผ่านเว็บไซต์เปรียบเทียบราคาต่างๆ จะถูกคิดราคาค่าธรรมเนียม ค่าคอมมิชชั่น หรือเปอร์เซ็นต์ค่านายหน้าที่บริษัทประกันต้องจ่ายให้เว็บไซต์นายหน้านั้นๆ ดังนั้น การซื้อประกันรถยนต์กับบริษัทประกันโดยตรงจึงจะได้ราคาถูกที่สุด แต่แท้จริงแล้ว เว็บไซต์เปรียบเทียบราคาจะได้รายได้จากการร่วมมือทางธุรกิจกับบริษัทประกันรถยนต์เป็นหลัก ทำให้ราคาเบี้ยประกันภัยบนเว็บไซต์เหล่านี้ไม่ใช่แค่คิดราคาตามปกติเท่านั้น แต่ยังมีการทำโปรโมชั่นพิเศษลด แลก แจก แถมร่วมกับบริษัทประกันจนราคาอาจถูกกว่าเดิมในบางช่วงเวลาอีกด้วย ดังนั้น การซื้อประกันรถยนต์กับบริษัททันทีโดยไม่เปรียบเทียบก่อนก็อาจจะทำให้เราพลาดโอกาสเหล่านี้ก็เป็นได้
2) ต่อประกันรถยนต์กับเจ้าเดิมจะได้ราคาถูกลงทุกปี
บางครั้งการที่เราเป็นลูกค้าที่จงรักภักดีในแบรนด์เดียวมากๆ ก็ไม่ได้แปลว่าบริษัทจะรักเราตอบเสมอไป! โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์อย่างประกันรถยนต์ที่หลายคนคิดว่า ถ้าเราเป็นลูกค้าชั้นดี ต่อประกันเจ้าเดิมทุกปีก็น่าจะได้เบี้ยถูกลงเรื่อยๆ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ คือ บริษัทประกันหลายเจ้าเลือกเก็บแพ็คเกจดีๆ ไว้สำหรับจูงใจลูกค้ารายใหม่ๆ และเอาแพ็คเกจที่แพงกว่ามากินกำไรจากลูกค้าเก่าที่ขี้เกียจหาข้อมูลเปรียบเทียบประกันรถยนต์ก่อนซื้อใหม่นั่นเอง เพราะฉะนั้น ทางที่ดีที่สุดคือ เราควรยอมเสียเวลาหาข้อมูล เลือกและเปรียบเทียบแพ็คเกจต่างๆ ก่อนต่อประกันรถยนต์คราวหน้าสักนิด แล้วถ้าของบริษัทเดิมยังดูคุ้มค่าในราคาน่ารักก็ไม่สายเกินไปที่จะต่อประกันรถยนต์กับเจ้าเดิมค่ะ
3) ต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกเฉพาะเมื่อเราเป็นฝ่ายผิดเท่านั้น
ค่าเสียหายส่วนแรก คือค่าเสียหายที่เราต้องจ่ายเพื่อป้องกันไม่ให้ลูกค้าลักลอบแจ้งเคลมประกันโดยไม่มีอุบัติเหตุจริง หรือเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากความประมาทของผู้ขับขี่เอง โดยค่าเสียหายส่วนแรกจะแบ่งเป็น 2 ประเภทคือ แบบบังคับจ่าย (Excess) ที่ต้องจ่ายต่อเมื่อแจ้งว่ามีคู่กรณี แต่ไม่สามารถระบุรายละเอียดของคู่กรณีได้หรือได้รับอุบัติเหตุที่เกิดจากความประมาทของผู้ขับขี่ และแบบสมัครใจจ่าย (Deduction) จะต้องจ่ายเมื่อเราทำประกันแบบที่ตกลงกับบริษัทให้ลดเบี้ยประกันไว้เบื้องต้น โดยเราจะต้องจ่ายค่าใช้จ่ายส่วนนี้คืนบริษัทเมื่อมีการเคลมในกรณีที่เราเป็นฝ่ายผิดหรือประมาทนั่นเอง
4) ใช้ชื่อพ่อแม่สมัครประกันรถยนต์แทนเพื่อเบี้ยที่ถูกลงได้
จริงอยู่ที่ยิ่งคนขับที่อายุน้อย ค่าเบี้ยประกันรถยนต์จะยิ่งแพงขึ้น โดยเฉพาะในช่วง 2-3 ปีของการขับขี่รถยนต์ หลายๆ คนเลยเลือกวิธีลดเบี้ยประกันโดยทำประกันรถยนต์ในนามพ่อแม่ และใส่ชื่อตัวเองเป็นผู้ขับขี่รถยนต์แทน จะบอกว่า ถ้าทำแบบนี้นอกจากจะไม่สามารถเคลมประกันได้จริงเมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้ว ยังเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เสี่ยงต่อการถูกบริษัทฟ้องร้องด้วยค่ะ
5) สามารถเคลมของในรถที่ถูกขโมยไปได้
ในยุคเทคโนโลยีแบบนี้ ผู้ขับขี่หลายคนก็เป็นผู้ขับขี่สาย Gadget ที่ทิ้งของมีค่าและอุปกรณ์ล้ำสมัยอย่างแท็บเล็ต มือถือ โน้ตบุ๊คเอาไว้ในรถเพราะคิดว่า ตนเองล็อครถแน่นหนาแล้วก็น่าจะปลอดภัย แต่ในบางครั้ง มิจฉาชีพก็อาจทำได้ทั้งทุบกระจกรถขโมยของมีค่าหรือขโมยรถไปทั้งคัน ส่วนประกันจะคุ้มครองของที่หายไปด้วยหรือไม่? คำตอบคือไม่ใช่ทุกกรณี และถึงสามารถเคลมได้ ก็มีระดับที่สามารถเคลมได้ ทำให้ไม่ได้รับการชดเชยอย่างเต็มที่นั่นเอง เพราะฉะนั้น ทางที่ดีที่สุดก็คือ อย่าเก็บของมีค่าไว้ในรถ ให้นำติดตัวออกไปด้วยย่อมดีกว่าแน่นอน
6) ไม่ต้องทำประกันรถยนต์ภาคสมัครใจก็ได้ถ้าขับรถดี
ถึงแม้ว่า เบี้ยประกันรถยนต์ในแต่ละปีจะไม่ใช่ถูกๆ แถมบางคนขับรถมาทั้งชีวิตก็ไม่เคยต้องเคลมอะไร เพราะเป็นคนขับรถระมัดระวังอยู่แล้ว ทำให้บางปีก็รู้สึกไม่อยากต่อประกันรถยนต์ขึ้นมาเสียดื้อๆ แต่เชื่อเถอะค่ะว่า ประกันรถยนต์สำคัญกว่าที่เราคิด เพราะนอกจากจะชดเชยความเสียหายจากทั้งอุบัติเหตุและการโจรกรรม ที่เราเองก็ไม่อาจรู้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่แล้ว ประกันรถยนต์ยังช่วยแบ่งเบาภาระค่ารักษาพยาบาลแสนแพงในยามที่บาดเจ็บ รวมทั้งช่วยประหยัดเวลาไม่ต้องมานั่งเถียงกันว่าใครถูกใครผิด ใครจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้อีกฝ่ายเท่าไหร่ แถมสุขภาพจิตยังดีทั้งสองฝ่ายอีกด้วย
7) ซื้อประกันรถยนต์ถูกๆ ไว้ก่อนแหละดี
การเลือกซื้อประกันภัย ไม่ควรดูแค่ราคาเพียงอย่างเดียว แต่เราควรดูรายละเอียดการคุ้มครองด้วยว่า เหมาะสมไลฟ์สไตล์การขับขี่ของเราหรือไม่ โดยเฉพาะในยุคที่บริษัทประกันต่างแข่งขันกันสูง หลายบริษัทเลือกที่จะลดทอนความคุ้มครองบางอย่าง เช่น การคุ้มครองกระจกหน้ารถยนต์ ฯลฯ ซึ่งเป็นคุ้มครองตามมาตรฐานที่ควรจะมีไป ทำให้ราคาของเบี้ยประกันลดลง และดึงดูดใจผู้บริโภคมากขึ้น เพราะฉะนั้น ก่อนที่จะสมัครประกันรถยนต์ ก็ควรอ่านข้อมูลอย่างรอบคอบ และเปรียบเทียบความคุ้มครองของประกันจากหลายๆ เจ้าด้วยนั่นเอง
เป็นอย่างไรบ้างคะกับข้อมูลเกี่ยวกับประกันรถยนต์ที่หลายคนมักจะเข้าใจผิด เมื่อผู้อ่านทุกท่านได้เข้าใจข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับการทำประกันเช่นนี้แล้ว ก็อย่าลืมดูแลรักษารถยนต์ให้ดีที่สุดโดยการทำประกันรถยนต์ติดไว้ เพื่อที่คุณได้สามารถเคลมประกันรถยนต์ได้ยามเกิดเหตุไม่คาดฝันกันนะคะ