50 ปี หนังสือ The Catcher in the Rye : ชั่วชีวิต ของผม
เดวิด แชปแมน ฆาตกรผู้สังหารจอห์น เลนนอน ด้วยปืน .38 ได้พูดไว้ว่า “แล้วคุณทราบว่าทำไมผมจึงฆ่า จอห์น เลนนอน หากคุณได้อ่านเรื่อง The Catcher in the Rye ของ J.D. Salinger”
ผมได้มีโอกาสศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ นักร้องระดับตำนานอย่าง จอห์น เลนนอน และอยากรู้ทำไมเขาถึงเสียชีวิต! ใครเป็นคนลงมือสังหาร จอห์น เลนนอน และคำกล่าวสุดท้ายของฆาตกร เอ่ยขึ้นก็คือ The Catcher in the Rye ของ J.D. Salinger ผมจึงออกค้นหาตามร้านหนังสือเก่าในที่สุดผมก็ได้มาและไม่รอช้าอ่านทันที
หนังสือเรื่อง The Catcher in the Rye เป็นผลงานของ J.D. Salinger ตีพิมพ์เมื่อปี 1951 (พ.ศ. 2494) นับถึงปัจจุบันก็ครบ 50 ปีพอดี หลังจากพิมพ์เผยแพร่ได้ไม่นาน ก็เกิดกระแสวิพากย์วิจารณ์อย่างรุนแรงในอเมริกา ทั้งจากกลุ่มอนุรักษ์นิยมบางกลุ่ม ที่ออกมาต่อต้านว่าเป็นสิ่งพิมพ์ลามก ใช้ถ้อยคำหยาบคาย กับกลุ่มนักวิจารณ์และปัญญาชน ที่กลับยกย่องว่าหนังสือเล่มนี้เป็น “ตัวแทนของทศวรรษที่ 50 และ 60” ด้วยซ้ำ (ซึ่งผมได้อ่านแล้วมันก็หยาบคายจริงๆ มากด้วย)
หนังสือเรื่องนี้ว่าด้วยเรื่องของ “โฮลเดน คอลฟิลด์” นักเรียนชายวัย 16 ปี ที่หนีออกจากโรงเรียนประจำ ก่อนที่จะเดินทางกลับบ้านในนิวยอร์ก เนื้อหาส่วนใหญ่จะเป็นเหตุการณ์ต่างๆ ที่เขาพบเจอ ระหว่างการหนีโรงเรียน กลับบ้านช่วง 3-4 วัน โครงเรื่องอาจดูธรรมดาๆ ไม่น่าสนใจ แต่แอบแฝงสะท้อนสังคมที่มันมีอยู่จริง สังคมที่เกิดขึ้นจริง เราจะเห็นถึงโลกทัศน์อันน่าทึ่งของเขา รวมทั้งความรู้สึกนึกคิดต่างๆ ที่เขามีต่อคนรอบข้าง โฮลเดนมองเห็นถึงความเหลวแหลกของสิ่งต่างๆ รอบตัว ความโกหกตลบตะแลงของคนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน แฟน ครู หรือแม้แต่พ่อแม่ของเขาเอง ในมุมหนึ่งโฮลเดนก็เป็นเหมือนคนขวางโลก มีอคติกับสังคมรอบข้าง แต่อีกมุมหนึ่งเขาก็พวกที่รังเกียจ ความเสื่อมทรามของสังคม ทั้งยังปรารถนาโลกและสังคมที่ดีกว่าเดิม
ขอบพระคุณที่มา
(โดย ham http://thaimisc.pukpik.com/freewebboard/php/vreply.php?user=september10&topic=406)
ผม Nakamura ได้มีโอกาศอ่านหนังสือเล่มนี้เช่นกันขอสรุปในความเห็นส่วนตัวหลังจากได้อ่านก็คือ หนังสือเล่มนี้มีอิธิพลกับผู้อ่านเป็นอย่างมาก ความรู้สึก นึกคิด จิตนาการตามสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นภายในหนังสือ อาจเป็นไปได้ว่า เดวิด แชปแมน ฆาตกรผู้สังหารจอห์น เลนนอน ได้รับอิธิพลในการอ่านหนังสือเล่มนี้ก็เป็นได้ แต่ก็เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของผมนั่นเอง
ติดตาม บทความรีวิวต่างๆ หนังนอกกระแสที่ควรค่าแก่การดูได้ที่
twitter: @kasemsukklinjun