แม้ว่าเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ของโลกเราจะมีความก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดด และช่วยอำนวยความสะดวกกับชีวิตมนุษย์ได้มากขึ้น แต่ก็ยังมีข้อกังวลเรื่องการใช้งานเอไออย่างผิดศีลธรรมและกฎหมาย จนอาจเป็นภัยคุกคามต่อสังคม ดังนั้นในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทำเนียบขาวของประเทศสหรัฐอเมริกาได้เรียกพบ Sundar Pichai ผู้บริหารจากบริษัท Google, Satya Nadella ผู้บริหารจากบริษัท Microsoft และ Sam Altmann ผู้บริหารจากบริษัท OpenAI เพื่อบอกกล่าวถึงหน้าที่ด้านศีลธรรมในการปกป้องสาธารณชนจากอันตรายของปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ (AI) แล้ว ซึ่งรายละเอียดเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร เรามาติดตามอ่านกันเลยครับ
สรุปข้อมูลและรายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ ได้ดังนี้
- ในการถกกันครั้งนี้ ตัวแทนจากทำเนียบขาวให้ความเห็นว่า เทคโนโลยีใหม่นี้อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อความปลอดภัย, ความเป็นส่วนตัวและสิทธิพลเมือง แม้ว่าเทคโนโลยีดังกล่าวจะมีศักยภาพในการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ก็ตาม
- พร้อมกันนี้ทำเนียบขาวก็ได้ประกาศการลงทุน 140 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 4,700 ล้านบาท จากมูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติเพื่อเปิดสถาบันวิจัยปัญญาประดิษฐ์ใหม่ 7 แห่ง
- ในส่วนของแชตจีพีที (ChatGPT) ปัญญาประดิษฐ์ของบริษัท โอเพ่นเอไอได้ก่อให้เกิดมวลความสนใจจากสาธารณชน ส่งผลให้บริษัทด้านเทคโนโลยีอื่นๆ หันมาพัฒนาและใช้ปัญญาประดิษฐ์มากขึ้น
- แม้ปัญญาประดิษฐ์จะถูกนำมาใช้ประโยชน์ในหลายด้านแต่สามารถนำมาใช้ในทางที่ผิดได้ด้วย เช่น การวางแผนโจรกรรม, การปลอมแปลงอัตลักษณ์ในโลกออนไลน์และการโกงข้อสอบ อีกทั้งยังรายงานข้อมูลผิดในบางครั้ง
- ด้วยความกังวลเดียวกันนี้ทำให้ก่อนหน้านี้เคยมีการลงนามร่วมกันระหว่างผู้นำด้านเทคโนโลยีในสหรัฐอเมริกาเพื่อเรียกร้องให้หยุดการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ชั่วคราว ซึ่งรวมถึงอีลอน มัสก์ (Elon Musk) ผู้บริหารจากบริษัท เทสลา (Tesla) และสเปซเอ็กซ์ (SpaceX) ด้วย
- อย่างไรก็ตาม ประชาชนบางกลุ่มในประเทศสหรัฐอเมริกามองว่าการพยายามควบคุมเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ในสหรัฐอเมริกาอาจทำให้ประเทศเสียเปรียบเชิงกลยุทธ์แก่บริษัทเทคโนโลยีในประเทศจีน
จะเห็นได้ว่าข้อกังวลเรื่องเอไอยังไม่เคยหมดไปจากสังคม เพราะไม่มีใครตอบได้ว่าเราจะสามารถควบคุมมันได้หรือไม่ และอย่างไร แต่ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม ผมคิดว่าการพัฒนาด้านเอไอคงยังไม่หยุดลงเร็วๆ นี้ มีแต่จะแข่งขันกันพัฒนา เพราะผลประโยชน์ที่จะได้รับจากเทคโนโลยีนี้มหาศาลเหลือเกิน ส่วนภัยข้างหน้านั้นยังไม่มีใครมองเห็น และยังไม่มีใครใส่ใจอย่างจริงจัง