แม่จันวัลเล่ย์ Mae Chan Valley คือชื่อที่โดดเด่นที่สุดในปี พ.ศ. นี้ก็ว่าได้ เพราะนอกจากบรรยากาศจะแสนคลาสสิกแล้ว รางวัลกินนรีประเภทแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ประจำปี 2551 คือสิ่งที่รับประกันว่าที่นี่มีมากกว่าการเป็นแค่ที่พัก มีผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์หลายท่านที่เคยไปเยี่ยมแม่จันวัลเล่ย์ ต่างบอกตรงกันว่า ที่นี่คือ ไร่องุ่นสวยที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย เลยทีเดียว ภายในหุบเขาอันงดงามด้วยแปลงองุ่นเรียงรายลดหลั่นจังหวะลงมาตามไหล่เขา บรรยากาศคล้ายไร่ไวน์ในแคว้นโรนของฝรั่งเศส มิได้มีแต่เพียงเฉพาะไวน์เนอรี่ให้ชมเท่านั้น หากแต่ยังมี ไร่ชา และโรงงานผลิตพลอย คุณภาพเยี่ยมด้วย
การเดินทางไปยังรีสอร์ทแห่งนี้ ใช้เส้นทางถนนสายเอเชีย ห่างจากสนามบินเชียงราย 30 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายไปดอยแม่สลอง แล้วแยกเข้าถนนย่อยไปอีก 7.8 กิโลเมตร ผ่านถนนลูกรัง สองข้างทางเป็นป่าไผ่ สุดท้ายก็ไปถึงหมู่ 9 บ้าน ป่าเมี่ยง ต.ป่าตึง อ. แม่จัน อันเป็นที่ตั้งของรีสอร์ท ไปไร่แม่จันแวลเล่ย์ มีเนื้อที่ประมาณ 1,300 ไร่ มีพื้นที่เข้าชม 5 ส่วน ประกอบด้วย 1.ไร่องุ่น และโรงงานผลิตไวน์ 2.ไร่ชาและโรงงานผลิตชาอู่หลง 3. โรงงานเจียระไนพลอย 4. นาข้าวแปลงเพาะชำ 5. แปลงปลูกผักผลไม้ และส่วนห้องพักสำหรับบริการนักท่องเที่ยวมีชื่อว่า ดอยห่มฟ้ารีสอร์ท
พื้นที่ปลูกองุ่นของไร่แม่จันแวลเล่ย์ แบ่งเป็นสองส่วนคือ พื้นที่ปลูกองุ่นเพื่อทำไวน์ และองุ่นทานสด โดยมีพื้นที่ปลูกองุ่นทำไวน์มีประมาณ 80 ไร่ พันธ์ซีล่าเป็นพันธ์หลัก นอกจากนี้ยังมีพันธ์เมโล เทมปานิลโย คาบิเน่ย์ เป็นต้น โดยองุ่นที่ปลูกในไร่จะนำไปผลิตไวน์ของบริษัทแม่จันไวน์เนอร์รี่ทั้งหมด โดยภายในโรงงานได้มีการจัดพื้นที่ และจัดแสดงกระบวนการผลิต เพื่อให้ผู้มาเยี่ยมชมได้เข้าชม โรงงานผลิตไวน์ของบริษัทแม่จันไวน์เนอร์รี่ เป็นโรงงานผลิตที่ได้มาตรฐานสากล และเป็นโรงงานผลิตไวน์องุ่นแห่งเดียวในภาคเหนือที่ได้รับมาตรฐานจากทางสมาคมผู้ประกอบการไวน์ไทย นอกจากนี้ทางไร่ยังแบ่งพิ้นที่สำหรับปลูกองุ่นทานสดประมาณ 10 ไร่ มีพันธ์มาลู ซีสเลส เป็นพันธ์หล้ก และยังมีพันธ์แบล็กควีน แบล็กโอปอล ฯลฯ อีกมากมาย เพื่อให้ผู้มาเยี่ยมชมสามารถเข้าไปตัดองุ่นเพื่อรับประทานได้
พื้นที่ปลูกชาของไร่แม่จันแวลเล่ย์ มีประมาณ 100 ไร่ โดยมีพันธุ์อู่หลงเป็นหลัก และชาพู่เออ ชาอู่หลงปลูกในไร่ แบ่งเป็นสองประเภท ได้แก่ อู่หลงก้านอ่อน และอู่หลงเบอร์สิบสอง โดยชาอู่หลงได้รับการยอมรับว่าเป็นชาที่ดีที่สุดและเหมาะสมกับสภาพภูมิประเทศและอากาศในแถบดอยแม่สลอง ซึ่งเป็นที่นิยมมากในประเทศไต้หวันและประเทศจีน ผู้มาเยี่ยมชมจะได้ชมการสาธิตการเก็บชา และวิธีตรวจคุณภาพชาโดยภูมิปัญญาของชาวท้องถิ่น นอกจากนี้ ทางโรงงานผลิตชาได้จัดให้มีการสาธิตการผลิตการปรุงชา และมีห้องชิมชา โดยผลิตภัณฑ์ที่ขายภายในโรงงานเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการพัฒนาจากทางไร่ทั้งหมด ได้แก่ ชาเขียว ชาแดง ชาดำ ชามะลิ ชาโสม ชาดอกไม้ ชาพู่เออ
โรงงานเจียระไนพลอยของไร่แม่จัน เป็นการส่งเสริมและสร้างช่างฝีมือท้องถิ่น วัตถุดิบที่ใช้ในโรงงานพลอยเป็นวัตถุดิบที่ได้จากภายในประเทศ เช่น จันทบุรี และกาญจนบุรี นอกจากนี้ยังมีพลอยก้อนบางส่วนที่ได้มาจากพม่า และศรีลังกา ภายในโรงงานได้จัดให้มีส่วนของการสาธิตขั้นตอนการเจียระไนพลอย และเปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมได้ทดลองเจียระไนพลอยด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
นาข้าว แปลงเพาะชำ แปลงปลูกผัก ผลไม้ เนื่องจากทางไร่เล็งเห็นถึงความสำคัญของเศรษฐกิจพอเพียง นอกจากไร่องุ่น และโรงงานผลิตไวน์ ไร่ชา และโรงงานผลิตชาอู่หลง โรงงานเจียระไนพลอยแล้ว ทางไร่แม่จันแวลเล่ย์ ยังจัดสรรพื้นที่สำหรับเพาะปลูกพืช ผัก ผลไม้ชนิดอื่น ๆ อีกด้วย เพื่อใช้ในการบริโภคภายในไร่ และจำหน่ายให้กับผู้มาเยี่ยมเยือนทั้งในรูปแบบแปรรูป และยังไม่ได้แปรรูป พืชชินดอื่นที่ปลูกในไร่ ได้แก่ ข้าว ผักสวนครัวปลอดสารพิษ เป็นต้น ผลไม้ เช่น มะละกอ กล้วย ลูกหม่อน กระเจี๊ยบ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีแปลงเพาะชำแปลงปลูกไม้ดอก และไม้ใบชนิดต่าง ๆ
ไร่แม่จันแวลเล่ย์ มีส่วนบริการนักท่องเที่ยว อาทิ ห้องพัก จำนวน 23 ห้อง ที่มีชื่อว่า ดอยห่มฟ้ารีสอร์ท มีร้านอาหารที่ใช้ผลผลิตทางการเกษตรภายในโครงการ (ห้องกระดาษสาและใบชา ) ห้องสัมมนา และกิจกรรมอื่น ๆ เช่น พายเรือ ล่องแพ เดินป่า ชมหมู่บ้านชาวเขา เป็นต้น
Reference
- ไร่แม่จันแวลเล่ย์ at tourismthailand
- ดอยห่มฟ้ารีสอร์ท หรือ ไร่แม่จันแวลเล่ย์ at noknok1101
- Mae Chan Valley at maechanwinery
- ที่พักในจังหวัด เชียงราย