หลายคนคงรู้สึกรำคาญเจ้าโฆษณาที่แสดงผลบนมือถือเราจริงไหม? ไม่ส่าจะมาจากโฆษณาที่แสดงอยู่บนเว็บไซต์ที่เราเข้าผ่านแอพพลิเคชั่น Web Browser หรือจะเป็นโฆษณาในตัวแอพพลิเคชั่นมือถืออีกก็เช่นกัน ชาวไอทีเมามันส์หลายคนก็รู้สึกรำคาญอย่าแน่นอน แต่ต้องยอมรับว่าอุตสาหกรรมมือถือเป็นสื่อที่ผู้บริโภคเข้าถึงได้อย่างง่ายที่สุดในยุคสมัยนี้ แน่นอนว่าการตลาดผ่านมือถือก็ต้องมีความดุเดือดและโฆษณามากมายบนมือถือก็เลยต้องตามมานั้นเอง
จากที่ได้สำผัสวงการ การทำแอพพลิเคชั่นมือถืออยู่นิดหน่อย มีผู้ผลิตแอพพลิเคชั่นหลายท่านเปลี่ยนแนวทางไปทำแอพที่เป็นแบบหารายได้จากมีการซื้อผ่านแอพ แทนที่การแสดงโฆษณาบนแอพฯแล้วก็มีครับ อาจจะทำให้ผู้ใช้แอพพลิเคชั่นนั้นๆ รำคาญน้อยลองหรือเป็นช่องทางทำงานที่ดีกว่าก็เป็นได้ ใครที่สนใจก็ไปลองดูนะ
เอาละกลับมาเข้าเรื่องการบล็อกโฆษณากันต่อซึ่งว่าด้วยจำนวนนของมือถือหรือสมาร์ทโฟนที่ติดตั้งแอพพลิเคชั่นสำหรับบล็อกโฆษณาได้รายงานข้อมูลออกมาว่าในช่วงปีที่ผ่านมา มีผู้ใช้งานมากกว่าร้อยละ 90 ได้ทำการบล็อกการแสดงผลของโฆษณาจากกลุ่มบุคคลที่เก็บข้อมูลนี้ 420 ล้านคนทั่วโลก แสดงให้เห็นว่าเป็นตัวเลขสัดส่วน 1 ใน 5 ของผู้ใช้งานทั้งหมด โดยตัวเลขนี้ได้รับการเผยแพร่จาก PageFair ผู้ผลิตแอพพลิเคชั่นบล็อกโฆษณาบนมือถือนั้นเอง
รายงานที่แสดงได้หยิบข้อมูลเมื่อเดือนมีนาคมที่เพิ่งผ่านมาว่าอัตราการบล็อกโฆษณาบนมือถือนั้นเป็นที่นิยมมากในจีน อินเดีย และปากีสถาน โดยร้อยละ 60 ของเจ้าของมือถือในภูมิภาคเอเชียแฟซิฟิกในขณะนี้มีการบล็อกการแสดงผลของโฆษณานั้นเอง โดยอเมริกานั้นมีเพียงแค่ 2% จากกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด ตัวเลขประมาณ 14 ล้านคนเป็นคนยุโรปและอเมริกาเหนือที่บล็อกโฆษณาจากประชากรทั้งหมดของชาวอเมริกาแค่ 4 ล้านกว่าคน ซึ่งคนจีนนี้นำสูงลิ่วเป็น 159 ล้านคนไปเลยสำหรับงานนี้
ผู้บริหารระดับสูงของ PageFair ได้ให้ข้อมูลว่าเข้าได้พบผลลัพธ์ที่น่าแปลกใจว่าประเทศที่กำลังพัฒนาจะมี อัตราการปอกกันโฆษณาได้มากถึงเพียงนี้
และจากรายงานนี้มีอัตราที่ส่งผลกระทบที่ทวีคูณความรุนแรงในการบล็อกโฆษณามากยิ่งขึ้นเมื่อทาง Apple ประกาศว่าผู้ใช้งานสามารถปิดกั้นโฆษณาใน Safari บน iOS9 ได้ หรือจะเป็น Opera , Mozilla ก็ได้ออกผลิตภัณฑ์ที่บล็อกการแสดงผลของโฆษณาอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน แน่นอนนี่ส่งผลกระทบการอุตสากรรมการโฆษณา และธุรกิจโฆษณานั้นได้รับผลไปเต็ม โดยทาง PageFair ยังรายงานต่ออีกว่าน่าจะส่งผลกระทบจากการปิดกั้นโฆษณาทั่วโลกเป็นเงินมากกว่า $21.8 ล้านเหรียญในปี 2015 ที่ผ่านมา
แต่การบล็อกโฆษณาบนมือถือนั้นเป็นภัยที่คุกคามสื่อโฆษณาก็ตามที แต่นี้เป็นสิ่งที่ผู้บริโภคเลือกที่จะไม่รับชมโฆษณาต่างๆผ่านมือถือที่สร้างความรำคาญนั้นเอง บางครั้งรูปแบบการโฆษณาก็ควรมีการศึกษาและปรับตัวและยอมรับกับสิ่งที่เป็นอยู่นี้และหาสิ่งที่ตอบกลุ่มผู้บิโภค นี่เป็นเรื่องที่นักการตลาดในธุรกิจโฆษณาคงต้องทำการบ้านกันหนักหน่อยละครับว่าไหมชาวไอทีเมามันส์ทุกท่าน เอาละใครอยากบล็อกโฆษณาเอ๊าขอให้ยกมือขึ้น เฮ้!!
Reference
- Mobile ad blocking rose 90 percent last year, report says at theverge