การนำสายไฟฟ้ามาใช้งานต้อง เลือกให้ถูกต้องทั้งชนิดและขนาด ข้อสำคัญควรใช้สายไฟฟ้าที่มีคุณภาพ เช่น สายที่มีเครื่องหมายรับรองมาตรฐานจากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ มอก. การเลือกใช้สายไฟฟ้าที่มีขนาดเล็กเกินไป จะทำให้สายไฟฟ้าร้อน ฉนวนกรอบแตกหรือหลอมละลาย อันเป็นสาเหตุให้เกิดเพลิงไหม้ได้ รวมทั้งการติดตั้งต้องพยายามให้มีจุดต่อน้อยที่สุด และต้องต่อสายอย่างถูกต้องและพิถีพิถัน สายไฟฟ้า : การตรวจสายไฟฟ้า ในสภาพการใช้งานปกติ สายไฟฟ้าจะมีอายุการใช้งานยาวนานมาก ไม่ต่ำกว่า 15 ปี แต่ถ้าการใช้งานไม่ถูกต้อง เช่น ใช้โหลดมากเกินไป สายได้รับการกระแทรก อยู่ในสถานที่ที่มีสารเคมีหรือสารที่ทำให้เกิดการผุกร่อนสูง (เช่น สัมผัสกับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีความร้อน) ถูกแสงแดดเป็นเวลานานๆ สายไฟฟ้าก็จะมีอายุการใช้งานสั้นลง การตรวจสอบเบื้องต้นสามารถทำได้ดังนี้ 1. ตรวจสอบจุดต่อสาย ต้องแน่นและไม่มีความร้อนขณะที่ใช้งาน ฉนวนที่ห่อหุ้มไม่หลุดออกหรือกรอบแตก 2. สังเกตอุณหภูมิของสาย ถ้ากระแสไหลในสายสูงกว่าขนาดกระแสของสายไฟฟ้า สายจะร้อน รู้สึกได้จากการสัมผัสด้วยมือ 3. สังเกตสีและรอยแตกที่เปลือกของสายไฟฟ้า สายไฟฟ้าที่ใช้ในบ้านอยู่อาศัยทั่วไปจะมีเปลือกนอกเป็นสีขาว (ยกเว้นสายทีเอชดับเบิลยูที่ใช้เดินในช่องเดินสาย) หากมีการใช้ไฟเกินขนาดกระแสของสายไฟฟ้าเป็นเวลานาน เปลือกของสายจะเปลี่ยนเป็นสีเนื้อ หรือเหลืองอ่อน และอาจถึงขั้นมีรอยกรอบและแตก กรณีนี้ต้องเปลี่ยนสายใหม่ แต่ถ้าร่องรอยนี้พบเป็นบริเวณแคบ เช่น เต้ารับ แสดงว่าที่จุดต่อหลวม ทำให้เกิดความร้อน ต้องปรับปรุงจุดต่อให้แน่น และถ้าฉนวนของสายยังไม่ชำรุดก็สามารถใช้งานต่อไปได้ 4. ตรวจสอบฉนวน สายไฟฟ้าในบางจุดอาจถูกกระแทก ถูกของมีคมบาดหรือถูกหนูกัด จึงควรมีการตรวจสอบเป็นประจำ โดยเฉพาะจุดที่อยู่ในมุมอับ เช่น บนฝ้าเพดาน หลังตู้ หรือแม้แต่ในแผงสวิตช์ ซึ่งก็อาจมีสัตว์เข้าไปทำรังได้