บริษัท ไรมอนแลนด์ จำกัด (มหาชน) นำเสนอรายงานผลการวิจัยตลาดคอนโดมิเนียม คอนโดฯโฟกัส เดือนสิงหาคม 2555 โดยเก็บข้อมูลแบบทุติยภูมิ จากบทความนักวิเคราะห์ ข้อมูลจากหน่วยงานภาครัฐและรายงานวิจัยอื่นๆ รวมถึงข้อมูลตรงจากการสนทนาทางโทรศัพท์ การบันทึกภาพโครงการ การเยี่ยมชมสถานที่ก่อสร้าง และการสัมภาษณ์บุคลากรในภาคอสังหาริมทรัพย์ ครอบคลุมตลาดคอนโดมิเนียมทุกช่วงราคา ในย่านกรุงเทพฯชั้นใน และพัทยาทั้งหมด รายงานดังกล่าวระบุว่า ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา มีโครงการคอนโดมิเนียมใหม่เปิดตัวออกสู่ตลาดทั้งหมด 35 โครงการ และมีโครงการที่แล้วเสร็จ 34 โครงการ คิดเป็นห้องชุด 16,745 ยูนิต โดยมีพื้นที่สาธร-ธนบุรีและตามแนวรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย สายสุขุมวิทเป็นพื้นที่ที่มีโครงการใหม่มากเป็นพิเศษ ส่วนยอดขายมียอดโดยเฉลี่ย 61% หรือคิดเป็น 10,231 ยูนิต ที่ถูกจับจองไปแล้ว โดยพื้นที่ที่ถือได้ว่าเป็นเสมือนศูนย์กลางของตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ ได้แก่ย่านเพชรบุรี/ปทุมวัน, พญาไท/พหลโยธิน, พระราม 9/รัชดาภิเษก ตามเส้นทางรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสาธร และส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท “ยอดจองคอนโดมิเนียมในปี 2555 น่าจะสูงกว่ายอดรวม 6.33 หมื่นล้านบาทจากปี 2554 นั่นหมายความว่าตลาดยังคงมีฐานลูกค้าขนาดใหญ่อยู่เช่นเคย ถึงแม้ว่าจะต้องเผชิญกับอุปสรรคต่างๆ ในช่วงปลายปีที่แล้วก็ตาม” ทั้งนี้ ตลาดคอนโดมิเนียมในไทย ถือเป็นตลาอสังหาฯที่มีอัตราการเติบโตสูงสุด โดยการเติบโตส่วนใหญ่ อยุ่ที่กรุงเทพฯและพัทยา อย่างไรก็ตามยอดจดทะเบียนอสังหาริมทรัพย์ใหม่ ในกรุงเทพฯ มีสัดส่วนเท่ากันคือ 50/50 ระหว่าง โครงการคอนโดมิเนียม(แนวสูง) บ้านจัดสรร(แนวราบ) ส่วนยอดจองโครงการเปิดใหม่ ครึ่งปีแรก 2555 มียอดจอง 42.2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากครึ่งปีหลัง 2554 ซึ่งมียอดจองที่ 28.8 หมื่นล้านบาท สำหรับราคาขายโดยเฉลี่ย ห้องชุดในกรุงเทพฯ ยังมีราคาถูกกว่าห้องชุดในกรุงปักกิ่ง 2 เท่า และถูกกว่าห้องชุดในสิงคโปร์ 6 เท่า ส่วนตลาดในพัทยา ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมานี้ มีคอนโดมิเนียมก่อสร้างแล้วเสร็จในพัทยาเป็นจานวน 731 ยูนิต ในขณะที่ใน 3 ปีข้างหน้า เราอาจจะได้เห็นห้องชุดใหม่ก่อสร้างแล้วเสร็จรวมถึง 28,000 ยูนิต โดยในกรณีนี้ เราก็ควรจะจับตามองอัตรายอดขายห้องชุดใหม่เหล่านี้อย่างใกล้ชิด เพื่อให้มั่นใจได้ว่าตลาดมีการเติบโตในอัตราที่พอเหมาะพอดี ในช่วงครึ่งหลังของปี 2554 และครึ่งแรกของปี 2555 ตลาดพัทยา มีการเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่ทั้งหมด 31 โครงการ หรือรวมเป็นห้องชุด 14,309 ยูนิต อัตรายอดจองของโครงการเหล่านี้อยู่ที่ร้อยละ 55 ซึ่งถือว่าค่อนข้างต่า ในจานวนนี้ มีห้องชุดถึง 11,621 ยูนิตที่ตั้งอยู่บนทาเลที่ไม่ติดชายหาด ในขณะที่โครงการริมหาดนั้น คิดรวมกันได้เพียง 2,668 ยูนิตเท่านั้น โดยราคาเฉลี่ยของห้องชุดบนทาเลหลักทั้ง 3 แห่งไม่แตกต่างกันมากนัก และก็แน่นอนว่าโครงการประเภทริมหาดยังคงมีราคาสูงกว่าโครงการบนทาเลอื่นๆ