ตอนเด็กถ้าเจอกับคำพูดแรงๆมันก็อาจจะฝั่งติดอยู่ในความทรงจำได้นะครับชาวไอทีเมามันส์ วันนี้เลยเก็บเกล็ดความรู้สำหรับพ่อแม่เอาไว้ใช้มาฝากกันครับ เพราะเด็ก ๆ ที่อยู่ในช่วงของวัยเรียนรู้ มักจะเป็นคนช่างสังเกตและจดจำรายละเอียด โดยเฉพาะคำพูดของผู้ใหญ่ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ต้องระมัดระวังคำพูดเป็นอย่างยิ่งเพราะอาจจะส่งผลเสียต่อพัฒนาการเด็กได้ วันนี้เลยมีคำต้องห้ามมาฝากกัน ไปดูกันเลยค่ะว่ามีคำอะไรที่ไม่ควรพูดเพราะอาจจะทำให้ปิดกั้นพัฒนาการเด็กบ้าง
“ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง”
คำพูดนี้ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ไม่ชอบกันทั้งนั้นใช่ไหมละคะ ฟังแล้วรู้สึกเสียความมั่นใจ ไม่ว่าคุณพ่อคุณแม่จะโมโหหรือโกรธสักแค่ไหน ก็ไม่ควรเผลอพูดคำนี้ออกมาเด็ดขาด เพราะนั้นจะทำให้เด็กไม่กล้าจะลองทำสิ่งใหม่ๆ พัฒนาการเด็กก็จะย้ำอยู่กับที่ และอาจจะไม่กล้าแสดงออกอีกต่อไป ดังนั้นควรใช้คำพูดในเชิงบวกเข้าไว้ ค่อย ๆ สอน ค่อย ๆ แนะนำและให้กำลังใจจะเป็นผลดีกว่านะ
“หุบปากแล้วอยู่เงียบ ๆ “
เด็กที่อยู่ในวัยที่กำลังหัดพูด มักจะชอบพูดไปตามประสาหรือพูดอยู่ตลอดเวลา หากเด็กพูดคำที่ไม่เหมาะสม คุณพ่อคุณแม่ก็ควรพูดหรือสอนกับลูกดีๆ อย่าแสดงอาการแสดงรำคาญเวลาที่ลูกถามหรือสงสัย เพราะเด็กจะไม่กล้าถาม ไม่กล้าแสดงออก และรู้สึกเก็บกด และพัฒนาการของก็จะช้าลง เด็กก็จะไม่มีความสุขทั้งในการเรียนและเล่นกับเพื่อน ๆ นะ
“ต้องมีความเป็นลูกผู้ชาย”
คำว่าต้องมีความเป็นลูกผู้ชายนั้น ไม่ควรพูดกับลูกนะคะ เพราะจะเป็นการปิดกั้นพัฒนาการเด็ก ลูกของคุณอาจจะสับสนว่า การเป็นลูกผู้ชายนั้นต้องทำอย่างไรบ้าง เด็กอาจจะรู้สึกสับสนและลังเลในสิ่งที่จะทำ และไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำนั้นถูฏหรือไม่ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรที่จะแนะนำพฤติกรรมความเป็นผู้นำให้ลูกได้เห็นป็นตัวอย่างที่ถูกต้อง
“ทำแบบนี้เดี๋ยวไม่รักนะ”
เพราะว่าคำพูดเหล่านี้จะไปกระทบความรู้สึกเบื้องลึกในจิตใจลูก อย่าคิดว่าเป็นแค่คำพูดธรรมดาเอง ไม่มีอะไร ลูกคงรู้อยู่แล้วว่าพ่อแม่รัก แต่ในความเป็นจริง คำพูดเหล่านี้เป็นตัวบั่นทอนความรู้สึก
“ทำไมน่ารำคาญอย่างนี้”
คำพูดนี้ก็เช่นเดียวกันกับคำพูดว่าไม่รักแล้ว เพราะจะบั่นทอนความรู้สึกเชื่อมั่น ความสึกเติมเต็มในใจ อาจจะทำให้เขารู้สึกไม่แน่ใจว่าตกลงพ่อแม่ยังรักเขาหรือเปล่า ซึ่งความมั่นคงทางจิตใจของเด็กเป็นสิ่งสำคัญ และเป็นพื้นฐานของการเรียนรู้ การรู้จักแบ่งปัน การรู้จักตัวเองและคนอื่น
“ทำไมไม่ได้เหมือนลูกคนอื่นๆ”
การเปรียบเทียบลูกกับพี่ๆน้องๆ หรือเด็กคนอื่นๆ จะทำให้เด็กสูญเสียความมั่นใจ ขาดความเชื่อมั่น ไม่ควรพูดจาเปรียบเทียบลูก ถึงแม้จะทำไปโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่เด็กอาจจะเก็บไปคิดน้อยใจ ติดค้างอยู่ในใจได้
“อย่าทำแบบนี้เดี๋ยวตำรวจจับ“
การขู่ด้วยการหลอก เช่น หลอกผี หรือเอาตำรวจมาขู่ การขู่เป็นการใช้คำพูดเพื่อสื่อออกมาว่า เมื่อทำแบบนี้แล้วจะเกิดผลอะไรตามมาบ้าง ซึ่งภาษาที่พ่อแม่สื่อสารกับลูกเป็นสิ่งสำคัญในการลำดับความคิดของเด็ก การบอกเหตุและผลที่สอดคล้องกัน ทำให้เด็กมีพัฒนาการทางด้านภาษาที่ดีกว่า และพัฒนาการทางสมองและการเรียนรู้ก็จะดีตามไปด้วย แต่การขู่ด้วยเรื่องไม่เป็นเหตุผลก็จะทำให้เด็กขาดการเรียนรู้แบบเป็นเหตุเป็นผล และเมื่อโตขึ้นก็อาจจะยิ่งไม่เชื่อฟัง เพราะรู้ว่าไม่ใช่เรื่องจริง
ล้อเลียนเรื่องน่าอาย หรือ ปมด้อย
การนำปมน้อยมาล้อเลียน หรือเรื่องน่าอายของลูกๆ มาเล่า มาล้อให้คนอื่นฟัง พ่อแม่อาจจะไม่ได้คิดอะไร แต่ทราบไหมคะว่า อาจทำให้เกิดความเจ็บปวด เสียใจ เป็นปมที่ฝังอยู่ในใจลูกไปตลอดได้
เชื่อว่าหลายคนคงเคยพูดไปบ้างแล้วก็มี ยังไงก็พยามลดและปรับตัวครับ เพื่อลุกน้อยของเราจะได้ไม่มีปมติดตัว
Reference
- พัฒนาการเด็กและการเลี้ยงดูลูกวัย 3-6 ปี at rakluke