ปัจจุบันการประกาศขายบ้านเป็น เรื่องปกติที่พบเห็นทั่วไป สาเหตุของการเปลี่ยนทำเลที่อยู่อาศัยมีมากมายทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความจำเป็น ของแต่ละครอบครัว แต่เนื่องจากบ้านเป็นสินค้าเฉพาะ เมื่อจะมีการซื้อขายกันนั้นไม่สามารถ จะใช้การแลกเปลี่ยนกันด้วยเงินตามวิธีปกติที่ทำกันเช่นสินค้าทั่วไป ท่านต้องดำเนินการเปลี่ยนแปลงเจ้าของกรรมสิทธิ์ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ที่ดิน เท่านั้น 1.ก่อนจะขายบ้านสักหลังลองมาสำรวจกันดูว่ามีเรื่องใดที่ควรจะต้องรู้ไว้บ้าง 1.1 ราคาที่เหมาะสม ควรจะซื้อขายกันที่ราคาเท่าไร เรื่องนี้เป็นประเด็นสำคัญ เพราะผู้ขายต้องการขายให้ได้ราคาที่ดีที่สุด สิ่งที่ต้องนำมาประมวลเพื่อใช้ในการตั้งราคาคือ สำรวจราคาคู่แข่ง เปรียบเทียบสภาพบ้านของ เรากับของคู่แข่ง ประเมินดูว่าทำเลที่ประกาศขายอยู่นี้มีกำลังซื้อมากหรือน้อย จะมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นหรือแย่ลงในทำเลที่ประกาศขายนี้ ถ้าจำเป็นอาจต้องเสียเงินจ้างบริษัทประเมินมาทำการประเมินให้ 1.2 ค่าใช้จ่ายในการขายมีอะไรบ้าง สำหรับการขายบ้านนั้นมีค่าใช้จ่ายดังนี้ – ค่าธรรมเนียมการโอน 2% ของราคาประเมินราชการ – ค่าอากร 0.5% ของราคาซื้อขาย – ค่าภาษีเงินได้ ขึ้นอยู่กับจำนวนปีที่ถือครอง และราคาประเมินราชการของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง – ค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3% ในกรณีที่ขายบ้านก่อน 5 ปี (ได้รับการยกเว้นถ้ามีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านครบ1 ปี) – เบี้ยปรับของสถาบันการเงิน 1-2 %ในกรณีที่ไถ่ถอนก่อน 3 ปี 1.3 ค่าใช้จ่ายเหล่านั้นใครควรจะต้องเป็นผู้รับภาระ โดยปกติค่าธรรมเนียมการโอนและค่าอากรจะร่วมกันรับภาระฝ่ายละครึ่งทั้งผู้ ซื้อและผู้ขาย ส่วนค่าภาษีทุกชนิดและเบี้ยปรับเป็นหน้าที่ของทางฝ่ายผู้ขาย แต่ก็มิใช่กฎตายตัวเสมอไปสามารถต่อรองกันได้ 1.4 มีกฎระเบียบอื่นใดที่เข้ามาเกี่ยวข้องในการซื้อขายบ้าง ปัจจุบันจะมีการลดค่าธรรมเนียมการโอนจาก 2% เหลือเพียง 0.01% 1.5 การทำนิติกรรมที่เป็นธรรมกับทั้งผู้ซื้อและผู้ขายควรจะเป็นเช่นไร ต้องกำหนดให้ผู้ซื้อวางเงินมัดจำ กำหนดวันรับโอนกรรมสิทธิ์ที่ชัดเจน กำหนดผู้รับผิดชอบในค่าใช้จ่ายต่างๆ กำหนดวิธีปฏิบัติเมื่อมีการผิดสัญญา ต้องระบุให้ครบถ้วนถึงส่วนควบของบ้านต่างๆที่จะมอบให้แก่ผู้ซื้อ 1.6 การชำระเงินกันนั้นควรจะชำระกันอย่างไร ควรทำเป็นแคชเชียร์เช็ค เพื่อความสะดวกและปลอดภัย 2.จะทำการตลาดขายบ้านอย่างไร 2.1 ติดป้ายหน้าบ้าน ตามซอย หรือถนน 2.2 ลงโฆษณาในสื่อสิ่งพิมพ์ สื่ออินเตอร์เน็ท 2.3 บอกผ่านคนรู้จัก ญาติ เพื่อน 2.4 ใช้นายหน้าที่มีมาตรฐาน 3. การขอสินเชื่อสำหรับผู้ซื้อจะต้องทำอย่างไร ทั่วไปแล้วผู้ขายจะไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องการขอสินเชื่อจะเป็นเรื่องของผู้ซื้อที่จะต้องไปดำเนินการเอง 4. การเตรียมบ้านให้พร้อมก่อนขาย เรื่องนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมากถ้าท่านต้องการขายบ้านให้ได้ราคาดีท่านต้องทำ ให้บ้านของท่านมีสิ่งที่จะให้ผู้ซื้อตำหนิได้น้อยที่สุด เรื่องง่ายๆที่จะแนะนำคือ – ความสะอาด ควรดูแลอย่างสม่ำเสมอ จัดวางของเก็บของที่เหลือใช้ให้เป็นระเบียบ – ปรับปรุงส่วนที่ชำรุดให้อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้เช่น ระบบให้แสงสว่าง ระบบประปา ระบบทำความเย็น ห้องน้ำ ผ้าม่าน มุ้งลวด เป็นต้น – สภาพภายนอกของบ้าน เช่น สีของตัวบ้าน สีของรั้ว สภาพของสวน ต้นไม้ ควรดูแลให้อยู่ในสภาพดีน่ามองที่สำคัญคือเรื่องของความสะอาด ซึ่งเป็นการแสดงให้ผู้ซื้อเห็นว่าบ้านหลังนี้ได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็น อย่างดี