ผู้ใช้ไฟฟ้าชาวไทยทุกคนฟังทางนี้ ครั้งนี้เรามีข่าวร้ายจะแจ้งให้ทราบว่า เดือนนี้ค่าไฟขึ้นแล้วนะ แล้วมันจะส่งผลกระทบต่อผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าอย่างไร ใครอยากรู้ ตามมาดูกันเลย
สรุปข้อมูลและรายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ ได้ดังนี้
- ตามรายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ที่มีการแจ้งปรับขึ้นค่าเอฟทีอีก 66 สตางค์ต่อหน่วย รวมเป็นค่าเอฟทีทั้งสิ้น 93.43 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้อัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่ 4.72 บาทต่อหน่วย ในงวดเดือนกันยายน-ธันวาคม 2565
- จากค่าไฟฟ้าก็สูงขึ้นนี้เองจะส่งผลกระทบต่อการชาร์จไฟรถยนต์อีวี ที่หลายคนหันมามองเป็นทางเลือกในการเลี่ยงค่าน้ำมันที่สูงขึ้นนั้นให้ประหยัดลงได้ ยังมีอยู่จริงหรือไม่?
- ซึ่งเราได้เจอข้อมูลตัวอย่างจากเมืองบอสตันและเมืองซานฟรานซิสโก ที่ทำการวิเคราะห์ตัวเลขค่าชาร์จรถไฟฟ้าเปรียบเทียบกับน้ำมัน ในพื้นที่ที่มีค่าไฟฟ้ามีแนวโน้มราคาแพงกว่าค่าเฉลี่ยของสหรัฐฯ โดยพบว่าแม้ราคาไฟฟ้าจะสูงในบางภูมิภาคก็ตาม แต่การเติมเชื้อเพลิงน้ำมันก็ยังแพงกว่าการชาร์จแบตเตอรี่รถอีวีอยู่ดี
- ย้อนกลับมาที่ประเทศไทยเราบ้าง ในปลายทางของผู้บริโภคอย่างเราที่จะพอสามารถทำได้ก็คือการวางแผนใช้ไฟฟ้าให้เหมาะสมกับช่วงเวลา เช่น ใช้ฟ้าให้น้อยลงในช่วงกลางวัน แต่ใช้ไฟฟ้ามากขึ้นในช่วงกลางคืน และในวันเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งเราสามารถยื่นขอเปลี่ยนอัตราค่าไฟฟ้าแบบ TOU หรืออัตราค่าไฟฟ้าที่คิดตามช่วงเวลาของการใช้ ก็จะสามารถประหยัดค่าไฟฟ้าให้ต่ำลงได้ หรือหากจะติดแผงโซลาร์ เซลล์ ก็นับว่าเป็นทางเลือกที่ดีเลยเช่นกัน เพราะเมื่อเราสามารถสร้างพลังงานไฟฟ้าเองได้จากธรรมชาติที่มีให้อยู่แล้ว ก็จะช่วยลดผลกระทบจากปัจจัยที่ภายนอกที่เราควบคุมไม่ได้ลงได้อย่างมากเลยทีเดียว
สุดท้ายแล้วสรุปได้ว่า ถึงแม้ว่าค่าไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้น แต่รถยนต์ไฟฟ้าก็ยังเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าที่สุดในระยะยาว เพราะรถยนต์ไฟฟ้านั้นมีความยืดหยุ่นต่อการผันผวนของราคาพลังงานมากกว่า และค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่ประหยัดกว่า ที่สำคัญยังไม่สร้างมลพิษ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อีกด้วย