ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดสัปดาห์ด้วยแรงเทขายมหาศาล โดยเฉพาะดัชนี Nikkei ที่รูดลงมาแตะจุดต่ำสุดในรอบ 1 ปีครึ่ง สาเหตุหลักมาจากความไม่มั่นใจในหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากที่มีรายงานว่าผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นพุ่งแรง สวนทางกับแนวโน้มผลประกอบการของธนาคารหลายแห่ง
ในวันจันทร์ที่ผ่านมา ดัชนี Nikkei 225 ปิดลบไปกว่า 2% ดิ่งลงแตะระดับราวๆ 36,000 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2022 จุดที่ทำให้นักลงทุนเริ่มเทขายอย่างรุนแรงคือการที่ Bank Index ของญี่ปุ่นร่วงแรงถึง 7% ภายในวันเดียว
หุ้นของธนาคารใหญ่ๆ อย่าง Mitsubishi UFJ Financial Group, Sumitomo Mitsui Financial Group และ Mizuho Financial Group ต่างถูกเทขายต่อเนื่อง โดยหุ้นบางตัวร่วงลงไปถึง 8-9% สร้างแรงกระเพื่อมให้กับกลุ่มการเงินทั้งตลาด
สิ่งที่กระตุ้นให้เกิดแรงขาย คือการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของญี่ปุ่นพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่าทศวรรษ ทำให้ตลาดมองว่าธนาคารอาจเจอปัญหาด้านต้นทุนการเงิน และมีความเสี่ยงด้านการปล่อยสินเชื่อในระยะสั้น
นักวิเคราะห์จาก Nomura Securities ออกมาระบุว่า “ตอนนี้ตลาดกลับมากังวลเรื่องเศรษฐกิจและนโยบายดอกเบี้ยของ BOJ อีกครั้ง โดยเฉพาะการส่งสัญญาณอาจถอนการผ่อนคลายนโยบายการเงินเร็วขึ้น ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อกลุ่มธนาคาร”
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยภายนอกที่กดดันตลาด เช่น ความกังวลเรื่องเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว และแรงเทขายในตลาดหุ้นสหรัฐ โดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยี ส่งผลให้ตลาดเอเชียโดยรวมปรับตัวลดลง
บรรยากาศการลงทุนในช่วงนี้ถือว่า “เหนื่อย” สำหรับนักลงทุนระยะสั้น เพราะความผันผวนสูง และยังไม่มีสัญญาณชัดเจนจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ว่าจะตัดสินใจอย่างไรในการประชุมครั้งถัดไป
สำหรับคนที่ลงทุนในกองทุนรวมที่มีหุ้นญี่ปุ่น หรือกองทุนกลุ่ม Topix และ Nikkei อาจต้องจับตาอย่างใกล้ชิด เพราะหากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น ก็อาจเห็นแรงขายต่อเนื่องในช่วงสัปดาห์นี้
แม้ภาพรวมเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะยังไม่ได้ถึงขั้นถดถอย แต่แรงกระแทกจากตลาดทุนแบบนี้ก็อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นใจของผู้บริโภคและนักลงทุนได้พอสมควร
หลายฝ่ายยังจับตาดูว่า BOJ จะมีการเข้าแทรกแซงหรือไม่ หากตลาดยังคงผันผวนในลักษณะนี้ โดยเฉพาะหากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรยังคงสูงขึ้นต่อเนื่อง
โดยรวมแล้ว เหตุการณ์นี้ถือเป็นสัญญาณเตือนว่าแม้เศรษฐกิจญี่ปุ่นจะฟื้นตัวบางส่วน แต่ความผันผวนในตลาดการเงินยังสามารถฉุดตลาดหุ้นให้แกว่งแรงได้ตลอดเวลา และนักลงทุนควรวางแผนรับมือให้ดี