ทุกวันนี้อะไรๆ ก็ AI ไม่เว้นแม้แต่การวาดภาพในสไตล์ Studio Ghibli ที่หลายคนหลงรัก ล่าสุดกระแสของการใช้ ChatGPT หรือ AI อื่นๆ สร้างภาพแนว Ghibli ก็มาแรงมาก คนเอารูปสัตว์เลี้ยง ตัวเอง หรือแม้แต่ไอเดียแปลกๆ ไปใส่ใน prompt แล้วได้ภาพออกมาสวยเกินคาด ซึ่งเราต้องยอมรับเลยว่า AI เก่งขึ้นทุกวันจริงๆ
แต่สำหรับบางคน อย่าง Daryl Baxter จาก TechRadar กลับออกตัวชัดเจนว่า “เขาไม่ขออินไปกับเทรนด์นี้เด็ดขาด” เพราะมันขัดกับสิ่งที่เขารักในภาพยนตร์ของ Ghibli อย่างแรง และเราก็รู้สึกเห็นด้วยสุดๆ
เหตุผลหลักเลยคือ… Ghibli มันคือศิลปะที่มีหัวใจ
เวลาเราดูหนังอย่าง Spirited Away, My Neighbor Totoro, Princess Mononoke หรือ Howl’s Moving Castle เราจะรู้สึกเหมือนกำลังเดินอยู่ในความฝัน มีความนุ่มนวล ละเมียดละไม และเต็มไปด้วยรายละเอียดที่เล่าเรื่องได้มากกว่าแค่ภาพสวยๆ
AI ไม่สามารถจับความ “มีชีวิต” แบบนั้นได้
การวาดของ Ghibli ไม่ได้แค่ใช้เทคนิคสวยๆ แต่มันมีจังหวะ มีความช้า มีความเงียบ และอารมณ์ที่เต็มไปด้วยความรู้สึก ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยให้ลมพัดใบไม้ไหว หรือช่วงเวลาที่ตัวละครแค่หยุดนั่งนิ่งๆ แต่กลับสื่ออารมณ์ได้ลึกซึ้ง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ AI ยังเลียนแบบไม่ได้
อีกเรื่องคือ ความตั้งใจของศิลปิน
Hayao Miyazaki เองก็เคยพูดชัดว่าเขาไม่อินกับเทคโนโลยีที่มาทำแทนมนุษย์ เพราะเขาเชื่อในฝีมือ ความรู้สึก และ “จิตวิญญาณ” ของผู้สร้างจริงๆ ดังนั้นการที่เราจะให้ AI มาสร้างภาพที่พยายามเลียนแบบ Ghibli มันเหมือนกับการลดคุณค่าของสิ่งที่เขาตั้งใจทำ
แล้วเราควรปฏิเสธ AI เลยมั้ย?
ไม่ใช่แบบนั้นนะ จริงๆ AI ก็มีข้อดี มันช่วยให้คนที่ไม่มีพื้นฐานด้านศิลปะสามารถปลดปล่อยจินตนาการของตัวเองได้ง่ายขึ้น และมันก็สนุกดีเวลาได้เล่นอะไรใหม่ๆ เพียงแค่เราควร “รู้ว่าจุดไหนคือขีดจำกัด” และ “รู้ว่าอะไรควรค่าแก่การรักษาไว้”
ถ้าเราเริ่มปล่อยให้ AI เข้ามาสร้างทุกอย่างแทนคน เราอาจจะได้ภาพที่ดูสวยแต่ไร้ชีวิต เหมือนหุ่นยนต์ที่ร้องเพลงเก่งแต่ไม่มีหัวใจ ซึ่งมันไม่ใช่สิ่งที่ Ghibli เคยสื่อเลยแม้แต่น้อย
สรุปคือ… Ghibli มันไม่ใช่แค่ลายเส้น แต่มันคือความรู้สึก
และนั่นคือเหตุผลที่บางคนเลือกจะไม่เล่นกับกระแส AI วาดภาพแนว Ghibli เพราะมันอาจจะดูเหมือน แต่มันไม่เคย “ใช่” จริงๆ