นางพัชรา ตัณฑยรรยง นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เปิดเผยว่า ตลาดรับสร้างบ้านช่วงไตรมาสแรกปีนี้ มีสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจน หลังจากได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากปัญหาน้ำท่วมปลายปีที่ผ่านมาทำให้ยอดขายชะลอตัว โดยคาดว่าปี 2555 นี้ ตลาดรวมในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล จะมีมูลค่าประมาณ 1.15 หมื่นล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 15% จาก 1 หมื่นล้านบาท ในปี 2554 ที่ผ่านมา “สมาคมมั่นใจว่าตลาดในปีนี้จะเติบโตขึ้นอย่างแน่นอน เพราะมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีจากปริมาณความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น เช่นการจัดงานรับสร้างบ้าน Focus เมื่อ 1-7 มี.ค.ที่ผ่านมาสามารถทำยอดขายได้ถึง 481 ล้านบาท มากกว่าปีที่แล้วที่ทำได้ 420 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้นประมาณ 15%” นางพัชรากล่าวว่า นอกจากนี้ฝ่ายวิชาการของสมาคมได้สำรวจและวิจัยพฤติกรรมการซื้อบ้านของผู้บริโภคพบว่า ค่าเฉลี่ยของมูลค่าบ้านภายในงานอยู่ที่หลังละ 4.8 ล้านบาท ส่วนราคาที่นิยมมากที่สุดคือ 4.6 ล้านบาท ขณะที่บ้านราคาแพงที่สุดหลังละ 19.95 ล้านบาท และราคาต่ำสุดอยู่ที่ 1.5 ล้านบาท ส่วนงบประมาณในการปลูกสร้างบ้านพบว่าระดับ 2.51 – 5 ล้านบาท เป็นราคาที่ลูกค้าจองมากที่สุด 53.61% รองลงมา คือ บ้านระดับราคา 5.1-10 ล้านบาท 27.84% ในด้านขนาดที่ดินที่ผู้บริโภคนิยมปลูกสร้างบ้านมากที่สุด คือ 51-100 ตารางวา สัดส่วน 41.30% รองลงมาคือ 101 – 150 ตารางวา 14.49% รูปแบบบ้านที่นิยมมากที่สุด คือ แนวคอนเทมโพรารี่ 31.16% แบบโมเดิร์น 29.71% ส่วนทำเลที่นิยมมากที่สุด คือ กรุงเทพฯ 49.28% ต่างจังหวัด 34.06% และพบว่าระยะเวลาที่ต้องการปลูกสร้างบ้านภายใน 1 ปี มีผู้บริโภคแสดงความต้องการ 67.94% “ยอดขายที่เติบโตขึ้น เป็นเพราะลูกค้าที่ชะลอการตัดสินใจช่วงน้ำท่วม เริ่มกลับมาปลูกสร้างบ้านอีกครั้ง ขณะเดียวกันผู้ประกอบการต่างก็ปรับกลยุทธ์ในเรื่องการขาย การตลาด รวมไปถึงการปรับการออกแบบบ้านใหม่เพื่อรองรับปัญหาน้ำท่วม เช่น บ้านหนีน้ำ ช่วยให้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น” นางพัชรากล่าว