เป็นการเริ่มเดินทางแบบงงๆ เพราะว่าไม่คิดว่าจะต้องออกไปเที่ยว พี่สาวบอกว่าไปส่งที่นครนายกหน่อย นัดเจอกับ The Gang ที่โน้น ก่อนวันเดินทางก็กดจองห้องไปแบบไม่รู้ด้วยซ้ำว่าห้องพักอยู่หากจากที่ท่องเที่ยวประมาณ 20-30 กิโลกันเลยทีเดียว
เช้าวันเดินทางเก็บเสื้อผ้าแค่เพียงแค่คืนเดียวกับเช้าอีกวัน แต่ที่เยอะๆ คืออุปกรณ์ถ่ายรูปและวิดีโอของผมนี้เหละ นานๆไปอุปกรณ์ยิ่งเยอะขึ้นทุกวัน จุดนัดส่งเหล่าบรรดาชาวแก๊งส์ของพี่ก็คือที่วัด วัดพราหมณี พระอารามหลวง หรือที่รู้จักกันในชื่อวัดหลวงพ่อปากแดงนั้นเอง บรรยากาศวัดหลวงพ่อปากแดงในยามเช้าก็ยังไม่ค่อยวุ่นวายมาก คนยังไม่พลุกพล่าน และแน่นอนว่าที่นี่หลายๆคนรู้จักในเรื่องของตัวเลข ใครศรัทธาก็ลองมากราบไหว้ขอพรกันดูครับ
วิดีโอแนะนำเที่ยว “นครนายก”
ต่อจากวัดหลวงพ่อปากแดงได้เลขเด็ดกันไปแล้วก็มาแวะที่อ่างเก็บน้ำน้ำห้วยปรือ บรรยากาศใกล้เที่ยงแต่เป็นวันที่แดดไม่เยอะ ให้ความรู้สึกเหงาๆได้อยู่เหมือนกันนะเนี้ย ความธรรมดาของบรรยากาศมันก็สะท้อนให้เห็นตัวเองมากขึ้น การเป็นคนธรรมดาที่มีความสุข มันก็ต้องดีกว่าการเป็นคนพิเศษที่ไม่มีความหมายนะครับ
ต่อจากวัดหลวงพ่อปากแดงได้เลขเด็ดกันไปแล้วก็มาแวะที่อ่างเก็บน้ำน้ำห้วยปรือ บรรยากาศใกล้เที่ยงแต่เป็นวันที่แดดไม่เยอะ ให้ความรู้สึกเหงาๆได้อยู่เหมือนกันนะเนี้ย ความธรรมดาของบรรยากาศมันก็สะท้อนให้เห็นตัวเองมากขึ้น การเป็นคนธรรมดาที่มีความสุข มันก็ต้องดีกว่าการเป็นคนพิเศษที่ไม่มีความหมายนะครับ
และเป็นเวลาเที่ยงอีกแล้ว ความหิวมาทักทายกันอีกเช่นเคย Search ร้านยอดฮิตในโซนนี้ก็มาเจอร้าน กลางนาคาเฟ่ เป็นร้านที่มีบรรยากาศกลางทุ่งนา มีบริเวณริมสระน้ำและทางเดินเลียบริมสระ บรรยากาศดีให้ความรู้สึกผ่อนคลาย พร้อมกับเมนูอาหารหลากหลาย และที่สำคัญสายคาเฟ่ไม่ควรพลาดเพราะมีมุมสวยๆให้ถ่ายรูปกันหลายจุดเลย
ต่อด้วยอีกหนึ่งที่นั้นคือ เขาหล่น เป็นสถานที่ให้เราได้ผจญภัยกันบนภูเขา ตอนผมขับรถขึ้นไปก็ตกใจว่าทำไมมันดูเงียบๆ อาจจะเป็นผลมาจากช่วงโควิดที่ทำให้คนเดินทางมาเที่ยวยังไม่เยอะ ที่นี้ให้บรรยากาศสงบและลึกลับ ก็คงเหมือนชีวิตของเราที่บางที่ก็ดูง่ายๆค่อยเป็นค่อยไป แต่ในบางครั้งอาจจะรู้สึกว่าทำไมชีวิตเรามันยากจังนะสำหรับการก้าวเดินต่อไป ชีวิตมันลึกลับเกินกว่าที่จะจริงจังกับมันเกินไป เราคงทำได้เพียงแค่ใช้ชีวิตเท่านั้นเอง!
หลังจากไปลุยๆหลายๆที่มาแล้ว มานั่งพักเย็นๆแบบผ่อนคลายกันบ้างสำหรับ อุทยานวังตะไคร้ และน้ำตกวังตะไคร้ ภายในร่มรื่นเย็นสบาย ผมเองก็ไม่ได้เตรียมตัวสำหรับลงน้ำมา แต่ก็ลงไปเดินๆสับผัสน้ำเย็นๆเล้กน้อยจะได้ไม่เสียเที่ยวที่เข้ามาทั้งที
แล้วเวลาก็ล่วงเลยมาถึงตอนเย็นจนได้ เดินทางไปที่พักกันครับ ผมเลือกพักที่ จันทรา รีสอร์ท (Juntra Resort) ที่นี่ที่พักสะดวกสบายครับ ดูใหม่และทันสมัยครบครัน และด้วยความที่อยากทานอาหารเย็นแบบอร่อยๆของพื้นที่ ก็เลยหยิบมือถือมาส่องร้านใกล้ๆที่พักและไม่ช้าที่จะออกเดินทางไปหาของอร่อยทานเป็นมื้อเย็นสำหรับวันนี้ที่ ครัวมัจฉา อาหารอร่อยมากครับ ผมเข้าไปทานคนเดียวที่ร้านถามผม 3 รอบว่ามากี่ท่าน คำตอบคือคนเดียว และอาหารที่สั่งก็ดูเหมือนจะเยอะกว่าการนั่งทานคนเดียวสินะ
มาดูวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่ เขื่อนขุนด่านปราการชล เพื่อจะได้มุมและวิวบรรยากาศดีๆผมก็ต้องยอมตื่นเช้าๆออกมาครับ และไม่ผิดหวังผมได้มุมที่คิดไว้ตั้งแต่แรกว่าจะถ่ายมา วิวก็ที่ได้ก็สวยอย่างที่เห็นครับ
หลังจากได้วิวสวยๆแล้วจริงๆอยากไปต่อที่ล่องเรือไปน้ำตกช่องลม แต่ด้วยความที่เช้าอยู่และนักท่องเที่ยว+กับคนขับเรือยังไม่เดินทางมา เลยตัดสินใจที่จะกลับที่พักหาข้าวทานเพื่อจะได้ไปลุยวันนี้กันต่ออีกสักนิด
เติมพลังจนอิ่มเป้าหมายวันนี้ก็จะเป็นวัดมณีวงศ์ เพื่อไปสัมผัสความอลังการสักครั้ง แต่วันที่ผมเดินทางมาถึงก็เป็นวันที่คนเยอะมากเลย เพราะเป็นวันที่ทางวันมีกิจกรรมทอดกระถินใหญ่พอดี ผมก็เลยรีบเก็บบรรยากาศสำหรับภายในวัดและที่นี่ก็เป็นจุดนัดพบพี่สาวเพื่อเดินทางกลับบ้านกัน
ด้วยความคิดที่ว่า จะได้ไม่เหนื่อยกับการเดินทางมากนักเพราะเช้าวันถัดไปจะต้องเข้าไปทำงานที่บริษัทแล้วนั้นเองหลังจาก WFH มาเป็นเวลานาน การเดินทางที่ต้องผจญกับรถติด ผู้คนพลุกพล่าน ชีวิตดูดีในห้องแอร์ติดหรูๆ จ้องหน้าคอม มากกว่าหน้าแม่ แต่เงินเดือนเข้าทุกเดือนแน่ๆ เลยยังแพ้ไม่ได้
บางสิ่งในชีวิต ไม่ต้องดีที่สุด แค่อยู่ได้ แบบไม่ทุกข์ก็สุขแล้ว ทางนั้นสบายดี ทางนี้ก็สบายใจ ขอบคุณที่ติดตามครับ