คนเราจำเป็นต้อนการพักผ่อนให้เพียงพอในแต่ละวันเพื่อให้ร่างกายได้พักจากการทำงานมาทั้งวัน ถ้านอนชาวไอทีเมามันส์นอนไม่เพียงพอก็อาจจะทำให้เกิดโรคอื่นๆตามมาได้
เชื่อว่าบางคนก็พยามจะนอนแล้วนะ แต่ก็นอนไม่หลับผลเสียของการนอนไม่หลับแน่นอนว่าส่งผลเสียเพราะว่าเกิดความเจ็บป่วยไม่สบายทางร่างกายมากกว่าปกติโดยเฉพาะโรคต่อไปนี้ เช่น โรคภูมิแพ้ หอบหืด ความดันโลหิตสูง ต้องเข้าโรงพยาบาลบ่อยกว่าปกติมีปัญหาทางด้านอารมณ์และจิตใจ ตึงเครียด กังวล อารมณ์เศร้าและเปล่าเปลียวใจ มีแนวคิดที่จะฆ่าตัวตายสูง นอกจากนี้แล้วการนอนไม่หลับยังส่งผลต่อการงาน ความสามารถทั่วไป ขาดงานบ่อยๆและประสิทธิภาพในการทำงานลดลง
เวลานอนไม่หลับ อันดับแรกต้องหาสาเหตุก่อน ถ้าจะแก้แบบยั่งยืนต้องแก้ที่สาเหตุ ส่วนใหญ่ไม่แนะนำให้ใช้ยานอนหลับ แต่ถ้าเป็นช่วงสั้นๆ เช่นช่วงนี้จำเป็นจะต้องนอน หรือจะมีผลต่อชีวิตประจำวัน ก็สามารถใช้ช่วงสั้นๆ ได้ แต่ในระยะยาวจะมีปัญหาเรื่องการติดยานอนหลับและต้องเปลี่ยนยาไปเรื่อยๆ
สาเหตุของอาการนอนไม่หลับ
- ปัญหาจากสิ่งแวดล้อม เช่น อุณหภูมิ สว่างเกินไป เสียงรบกวนจากการจราจร โทรทัศน์ พื้นที่นอนแคบเกินไปหรือกว้างเกินไป หรือการนอนต่างที่ ทำให้หลับยาก
- ปัญหาจากร่างกาย เช่น อาการเจ็บป่วย ปวดท้อง ปวดตามเนื้อตัว เป็นโรคเกี่ยวกับการนอนหลับ มีปัญหาเรื่องระบบการหายใจ มีอาการไอ
- ปัญหาจากจิตใจ เช่น ความเครียด อาการวิตกกังวล แรงกดดัน หรือมีอาการซึมเศร้าและท้อแท้ หมดกำลังใจ หมดหวังในการใช้ชีวิต คิดว่าตัวเองไร้ค่า ยึดติดและอยู่กับตัวเองมากเกินไป การทำงานที่ไม่ได้ตามหวัง
- นอกจากนี้ยังเชื่อมโยงไปถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิต ที่อาจส่งผลให้เกิดภาวะนอนไม่หลับได้ เช่นการดื่มแอลกอ ฮอล์ คาเฟอีนในกาแฟ บุหรี่ หรือการใช้ยาบางชนิดนั้นอาจส่งผลเกี่ยวกับการนอนหลับ ท้องว่าง ทำให้เกิดอาการอึดอัด หิวขึ้นมาในช่วงดึก หรืออิ่มมากเกินไป จนทำให้มีอาการแน่นท้องกลางดึก จนนอนไม่หลับ รวมไปถึงหน้าที่การงานบางประเภท
เคล็ดลับไม่ลับสำหรับการนอนหลับที่มีประสิทธิภาพ
- ดื่มน้ำอุ่นๆ ก่อนนอน พยายามผ่อนคลาย หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่กระตุ้นให้ประสาทตื่นตัวหลังมื้อเที่ยง เช่น กาแฟ หรือชา และสูบบุหรี่ เพราะจะทำให้หลับยาก
- เข้านอนและตื่นนอนเวลาเดิมทุกวัน การนอนตื่นสายขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ไม่สามารถชดเชยการอดนอนระหว่างสัปดาห์ได้อย่างสมบูรณ์และทำตื่นยากขึ้นในเช้าวันจันทร์
- พยายามออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาที เป็นประจำเกือบทุกวัน แต่ไม่ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 2 – 3 ชั่วโมงก่อนเวลาเข้านอน
- หลีกเลี่ยงคาเฟอีนและนิโคติน กาแฟ โคล่า ชาบางประเภท และช็อกโกแลต
- หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มมื้อใหญ่ยามดึก อาจทำให้มีอาการอาหารไม่ย่อยซึ่งรบกวนการนอนหลับ ขณะที่การดื่มน้ำมากเกินไปตอนกลางคืนอาจทำให้ตื่นมาปัสสาวะบ่อยครั้ง
- อย่างีบหลังบ่ายสาม อาจทำให้เคลิ้มหลับยากขึ้นตอนกลางคืน
- แช่น้ำอุ่นก่อนนอน ช่วยให้ผ่อนคลายและทำอะไรช้าลงจึงพร้อมจะนอนหลับมากขึ้น
- ทำห้องนอนให้มืดเย็น และปลอดอุปกรณ์ไฮเทค กำจัดทุกสิ่งในห้องนอนที่อาจดึงความสนใจของคุณไปจากการนอนหลับ เช่น เสียงรบกวน แสงสว่างจ้า เตียงที่นอนไม่สบาย หรืออุณหภูมิห้องอุ่นๆ
- สัมผัสแสงแดดในปริมาณพอเหมาะ พยายามออกไปสัมผัสแสงแดดธรรมชาติอย่างน้อยวันละ 30 นาที
- อย่านอนตาค้างอยู่บนเตียง หากพบว่านอนไม่หลับ ลองลุกขึ้นมาทำกิจกรรมที่ช่วยให้ผ่อนคลายจนกว่าจะง่วง
ความผิดปกติของการนอน ที่พบบ่อยที่สุดคือ “อาการนอนไม่หลับ” ซึ่งพบถึง 1/3 ของประชากรที่มีปัญหาเกี่ยวกับการนอนไม่หลับพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายประมาณ 2 ต่อ 1 และพบบ่อยขึ้นตามอายุ ท่านที่เคยนอนไม่หลับ คงทราบถึงความทุกข์ทรมานของภาวะดังกล่าวเป็นอย่างดี ถ้านานๆเป็นครั้งก็ไม่เป็นเรื่องสำคัญๆแต่ถ้าเป็นบ่อยๆ ก็ควรจะต้องแก้ไข การนอนที่ดีต้องนอนให้พอ 7 – 8 ชั่วโมง ต่อวัน นอนน้อยกว่า 7 ชม.ก็ไม่ดี นอนมากกว่า 8 ชม.ก็ไม่ดี 7-8 กำลังดี และดีแก่ทุกวัย ลองมาทบทวนตัวเองว่ามีการนอนแบบไหน ใช้เทคนิคเหล่านี้มาวิเคราะห์ แล้วจะออกแบบการนอนของตัวเองอย่างไร ที่จะทำให้เราสุขภาพดี