คงเป็นที่ทราบกันดีว่า “แผ่นวงจรพิมพ์” หรือพีซีบี (Printed Circuit Board: PCB) เป็นหนึ่งในส่วนประกอบสำคัญของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ (Semiconductor) หรืออุตสาหกรรมการผลิตชิปและสารกึ่งตัวนำสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ไอทีทั่วโลก แต่ที่ผ่านมาพบว่าชิ้นส่วนพวกนี้สร้างปัญหาต่อสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก เนื่องจากว่าพวกมันเป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ ข่าวดีคือตอนนี้มีบริษัทหัวใสจากประเทศเยอรมันสามารถคิดค้า PCB ที่สามารถละลายน้ำและย่อยสลายเองตามธรรมชาติได้สำเร็จแล้ว ซึ่งรายละเอียดเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร เรามาติดตามกันเลย
สรุปข้อมูลและรายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ ได้เป็นดังนี้
- ล่าสุด อินฟิเนียน (Infineon) บริษัทด้านเซมิคอนดักเตอร์ชื่อดังจากเยอรมนี จึงได้พัฒนา PCB ที่สามารถย่อยสลายได้ด้วยการละลายน้ำขึ้นมาได้สำเร็จ
-
โดยแผ่นวงจรพิมพ์ (PCB) ดังกล่าวมีชื่อว่าโซลูบอร์ด พีซีบี (Soluboard PCB) หรือแผ่น PCB ที่ละลายน้ำได้ เป็นไอเดียของจีวา แมตทีเรียลส์ (Jiva Materials) สตาร์ตอัปจากอังกฤษที่ขายไอเดีย PCB ที่ตัวแผ่นแผงวงจรสร้างจากใยพืช (Fiber) และผสมกับพลาสติกแบบใหม่ที่เป็นโพลีเมอร์ปราศจากธาตุฮาโลเจน (Halogen-free Polymer) ซึ่งปกติจะใส่เพื่อทำให้โครงสร้างพลาสติกแข็งแรง
-
ซึ่งทางบริษัทได้แสดงการสาธิตการย่อยสลายด้วยการนำ PCB ละลายน้ำได้จากใยพืชไปต้มในน้ำร้อนเป็นเวลา 6 นาที ซึ่งพบว่าแผ่น PCB ส่วนที่เป็นแผ่นนั้นมีการละลายและเปลี่ยนรูปไป หรือถ้าใส่ในน้ำที่อุณหภูมิห้องจะใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง
-
การทำให้แผ่น PCB ละลายน้ำได้จะทำให้ตัวเซมิคอนดักเตอร์อย่างเช่น ชิปประมวลผล สวิตช์ไฟฟ้า หรืออุปกรณ์ในแผงวงจรสามารถนำกลับมาใช้งานได้อย่างรวดเร็ว จากเดิมที่จะต้องนำไปรีไซเคิลทั้งหมดเพื่อสกัดนำแร่กลับมาใช้ใหม่
-
กระบวนการผลิตแบบใหม่ทำให้ทุก 1 ตารางเมตรของแผ่น PCB ละลายน้ำได้จากใยพืช ลดการใช้พลาสติกได้ 620 กรัม และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 10.5 กิโลกรัม ลดรอยเท้าคาร์บอน หรือคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint) ได้ร้อยละ 60 เทียบกับกระบวนการผลิตแบบเดิม
-
อย่างไรก็ตาม ทางบริษัท อินฟิเนียน ยังผลิตแผ่น PCB ละลายน้ำได้แค่ 600 แผ่น เท่านั้น ซึ่งเป็น 1 ใน 3 รูปแบบของแผ่น PCB ที่ย่อยสลายได้ทั้งหมดที่บริษัทคิดขึ้นมาร่วมกับจีวา แมตทีเรียลส์ โดยจะเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อให้ทันเป้าหมายการเป็นบริษัทอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในปี 2030 ต่อไป
และนี่ก็คืออีกหนึ่งข่าวความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจในแวดวงเทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมที่เราอยากนำเสนอให้เพื่อนๆ ได้ทราบในครั้งนี้ ก็หวังว่าจะเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับผู้ที่สนใจทุกคน และหากมีความคืบหน้าประการใดเกี่ยวกับโปรเจ็คต์นี้อีก เราจะรีบมาอัพเดทให้ทุกท่านได้ทราบก่อนใครทันที