สวัสดีเพื่อนๆ ผู้รักสิ่งแวดล้อมทุกคน วันนี้เรามีเรื่องราวที่น่าสนใจจะมาแจ้งให้ทราบว่า จีนเป็นประเทศที่เป็นกุญแจสำคัญสำหรับการต่อสู้กับสภาวะโลกร้อน ด้วยปัจจัยหลายๆ อย่างที่อยู่ในมือของจีนตอนนี้
รายละเอียดเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร ติดตามหาคำตอบได้ที่ด้านล่างนี้เลย
- แม้ว่าการปล่อยคาร์บอนของประชากรจีนเป็นรายหัวแล้ว ถือว่ามีสัดส่วนเพียงประมาณครึ่งหนึ่งของประชากรในสหรัฐฯ แต่จำนวนประชากรจีนที่มีมากถึง 4 พันล้านคน และการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาลของจีนคือเหตุผลที่ทำให้ในปี 2006 จีนเป็นประเทศที่ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์มากที่สุดในโลก
- และในปัจจุบันจีนเป็นประเทศที่ก่อก๊าซเรือนกระจกมากกว่า 1 ใน 4 ของทั้งโลก
- การปล่อยคาร์บอนเป็นปริมาณมหาศาลและเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ มากกว่าชาติอื่น ๆ ในโลกของจีน ผู้เชี่ยวชาญเห็นตรงกันว่าหากจีนไม่ลดการปล่อยคาร์บอนลง โลกก็จะไม่สามารถแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศได้
- นักวิจัยของมหาวิทยาลัยชิงหัว ในกรุงปักกิ่ง บอกว่าจีนต้องเลิกใช้ถ่านหินในการผลิตไฟฟ้าอย่างสิ้นเชิงภายในปี 2050 และให้หันมาใช้พลังงานนิวเคลียร์และพลังงานทดแทนอย่างอื่น
- แต่แทนที่จีนจะค่อย ๆ ปิดโรงไฟฟ้าที่ใช้พลังงานถ่านหินลง จีนกลับสร้างเพิ่มขึ้นอีกกว่า 60 แห่ง ทั่วประเทศ และในบางพื้นที่มีโรงไฟฟ้าถ่านหินใหม่มากกว่า 1 แห่ง
- ในด้านการเปลี่ยนมาใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าเพื่อลดมลพิษ จีนเป็นชาติที่จำหน่ายรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นอันดับ 7 ของโลก แต่เมื่อเทียบสัดส่วนประชากรแล้ว จีนทั้งผลิตและซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่าชาติอื่นในโลกอยู่มากพอสมควร
- ในปัจจุบันรถยนต์ที่ซื้อขายในจีน1 ใน 20 คัน เป็นรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า จีนยังตั้งเป้าว่าภายในปี 2050 จะผลิตแบตเตอรี่ได้มากกว่าสองเท่าของที่ชาติอื่น ๆ ผลิตรวมกันทั้งหมด
- “หากจีนไม่สามารถลดการปล่อยคาร์บอนลง เราก็ไม่สามารถจัดการปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศได้” ศ.เดวิด ทายฟิลด์ แห่งศูนย์สิ่งแวดล้อมแลงคาสเตอร์ กล่าว
และนี่ก็คือข่าวความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจด้านสิ่งแวดล้อมที่เราอยากแจ้งให้เพื่อนๆ ได้ทราบในครั้งนี้ ก็หวังว่าจะเป็นที่ชื่นชอบถูกใจสำหรับทุกคน สุดท้ายนี้เราก็หวังว่าจะจีนจะประสบความสำเร็จในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยเร็ว เพื่อโลกที่ดีกว่านี้