โปรรัสเซียทุกคนโปรดทราบ ล่าสุดประธานาธิบดีปูติน ผู้นำรัสเซียเผย รัสเซียจะต้องเสริมความแข็งแกร่งให้แก่กองทัพอย่างต่อเนื่อง เพราะมีความเป็นไปได้ที่กองทัพมีความเสี่ยงถูกคุกคาม ซึ่งรายละเอียดเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร เรามาติดตามกันเลย
สรุปรายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับประเด็นนี้ ได้ดังนี้
- ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย กล่าวปาฐกถาเนื่องในวันจบการศึกษาของนักเรียนทหารเมื่อวานนี้ (21 มิถุนายน) โดยย้ำว่า รัสเซียจะเอาชนะความยากลำบาก และจะมีความแข็งแกร่งมากขึ้น พร้อมกับจะยกระดับศักยภาพของกองทัพ เพื่อลดความเสี่ยงถูกคุกคาม
- ปูตินบอกว่า ในประวัติศาสตร์ของรัสเซีย ไม่เคยมีช่วงเวลาใดเลยที่ “ประชาชนจะรู้สึกว่า พวกเขาไม่จำเป็นต้องทำอะไร เหมือนกับบางประเทศ ที่แม้จะมีความรุ่งเรือง แต่ก็แทบมองไม่เห็นในเวทีโลก”
- “แต่รัสเซียก้าวผ่านบททดสอบ และความทุกข์ยากมานับไม่ถ้วน และเพื่อที่จะไปให้ถึงเป้าหมาย เราต้องก้าวผ่านความยากลำบากนั้น แต่ก็อย่างที่คุณรู้ การเดินทางหลายหมื่นไมลส์ต้องเริ่มที่ก้าวแรกเสมอ” ปูติน กล่าว
- ผู้นำรัสเซียชี้ว่า ปฏิบัติการของกองทัพในทุกวันนี้ มีขึ้นเพื่อปกป้องภูมิภาคดอนบาสจาก “นีโอนาซี” และเป็นการต่อสู้เพื่อความสงบและความมั่นคงของประชาชนของพวกเรา และเป็นสิทธิของรัสเซียในการต่อสู้เพื่ออธิปไตย
- “เราภาคภูมิใจในปฏิบัติการทางทหารของเรา ต่อความกล้าหาญของนักรับของเรา พวกเขาเป็นฮีโร่ที่แท้จริง”
- และรัสเซียจะเดินหน้าเสริมศักยภาพ และความแข็งแกร่งของกองทัพ เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือกับภัยคุมคามและความเสี่ยงต่าง ๆ ซึ่งกองทัพบกและกองทัพเรือของรัสเซีย กำลังได้รับการปรับปรุงในส่วนสำคัญทั้งหมดแล้ว พร้อมเสริมว่า เราจะต้องแข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีก
- อีกประเด็นที่ต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่งคือการติดอาวุธกองทัพด้วยอาวุธที่ทันสมัย เช่น ระบบต่อต้านขีปนาวุธ S-500 ที่ตอนนี้นำออกมาปฏิบัติการแล้ว ขณะที่ได้ทำการทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) รุ่น Sarmat เรียบร้อยแล้ว และคาดว่าระบบดังกล่าวจะถูกนำมาใช้ก่อนถึงสิ้นปีนี้
- ขณะที่ทางฝั่งยูเครน มีรายงานว่า เยอรมนีได้ทำการส่งอาวุธปืนใหญ่ howitzers และอาวุธหนักอื่น ๆ ชุดแรกไปยังยูเครนแล้ว
- โอเลกซี เรซนิคอฟ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมยูเครน เปิดเผยเมื่อวันอังคาร (21 มิถุนายน) ว่า อาวุธหนักจากเยอรมนีชุดแรก เดินทางไปถึงยูเครนแล้ว หลังจากที่เคียฟได้ร้องขอให้มีการจัดส่งอาวุธหนักและลูกกระสุนที่ดีกว่ามาให้
- สำหรับปืนใหญ่ howitzers ที่ส่งไปเป็นรุ่น Panzerhaubitze 2000 ซึ่งถือเป็นอาวุธปืนใหญ่ที่ทรงพลังที่สุดในกองทัพเยอรมนี โดยสามารถยิงไปได้ไกล 40 กิโลเมตร
- เมื่อเดือนพฤษภาคม เยอรมนีให้คำมั่นจะส่งระบบปืนใหญ่ 7 ชิ้นให้กับยูเครน รัฐมนตรีกลาโหมยูเครน กล่าวขอบคุณเยรอมนี และระบุว่า การส่งอาวุธมาให้ นับเป็นตัวอย่างของความร่วมมือของนานาชาติในการให้การสนับสนุนยูเครน
- ก่อนหน้าที่ปืนใหญ่ howitzers นี้จะเดินทางถึงยูเครน รัฐบาลเยอรมนีได้ส่งทุ่นระเบิดต่อตานรถถัง 14,900 ชิ้น, ขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศ Stinger 500 ลูก และขีปนาวุธต่อต้านเครื่องบิน 2,700 ลูก / รวมถึงกระสุนปืนพก 16 ล้านลูก และระเบิดมือ 100,000 ลูก
- ส่วนอุปกรณ์อื่น ๆ ยังมี รถ 175 คน (มีทั้งรถบรรทุก, บัส และอ๊อฟโร้ด), หมวกนิรภัย 23,000 อัน, ถุงนอน 10,000 ถุง, เตียงสนาม 1,200 เตียง และเต้นท์ 100 อัน
- สิ่งของต่าง ๆ (ที่ไม่ใช่อาวุธ) ที่ส่งไปก่อนหน้านี้ ทำให้รัฐบาลเยอรมนีถูกวิจารณ์อย่างมาก ทำให้โอลาฟ โชลซ์ ต้องกลับนโยบายครั้งประวัติศาสตร์ของประเทศ ในการส่งอาวุธให้กับยูเครนในพื้นที่ขัดแย้ง แต่ก็ถูกวิจารณ์ว่าดำเนินการไม่รวดเร็วเพียงพอ
- ล่าสุด โชลซ์ เปิดเผยต่อสมาคมอุตสาหกรรมเยอรมนี เนื่องในวันอุตสาหกรรมว่า เยอรมนีจะส่งอาวุธให้ยูเครน ตราบเท่าที่ต้องการ และว่า สิ่งที่ชัดเจนคือ เยอรมนีจะให้การสนับสนุนยูเครนอย่างต่อเนื่อง ตราบเท่าที่ยูเครน ยังต้องการการสนับสนุนจากเยอรมนีและพันธมิตร อีกทั้งตั้งแต่เขาเดินทางเยือนกรุงเคียฟเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีความชัดเจนแล้วว่า ยูเครนเป็นสมาชิกของยุโรป
- นายกรัฐมนตรีเยอรมนี กล่าวย้ำว่า เยอรมนียืนเคียงข้างลิธัวเนีย และชาติพันธมิตรในยุโรปตะวันออก
และนี่ก็คือข่าวความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจล่าสุดเกี่ยวกับวิกฤติการณ์ความขัดแย้งระหว่างยูเครนกับรัสเซียที่เราอยากแจ้งให้เพื่อนๆ ได้ทราบในครั้งนี้ ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคน ส่วนบทสรุปของความขัดแย้งนี้จะเป็นเช่นไร เราก็คงต้องรอติดตามกันต่อไป