นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในขณะนี้บริษัทได้ชะลอการลงทุนโครงการคอนโดมิเนียม หันมามุ่งขยายตลาดบ้านแนวราบทั้งทาวน์เฮ้าส์และบ้านเดี่ยวเป็นหลัก เนื่องจากปัญหาต้นทุนค่าก่อสร้างซึ่งพบว่าผู้รับเหมาปรับขึ้น 20% ต้องยอมรับว่าปัจจุบันคอนโด เป็นตลาดของผู้รับเหมาก่อสร้าง เพราะมีดีมานด์หรือความต้องการพัฒนาในตลาดสูง โดยเป้าหมายเปิดโครงการรวม 49 แห่งในปีนี้ของพฤกษา จะลดลงเหลือ 35-40 โครงการ จากครึ่งปีแรกเปิดตัวไปแล้ว 14 โครงการ แบ่งเป็น ทาวน์เฮ้าส์ 10 โครงการ บ้านเดี่ยว 2 โครงการ และคอนโด 2 โครงการ รวมมูลค่า 1.1 หมื่นล้านบาท ครึ่งปีหลังเปิดตัว 21-26 โครงการ จะเป็นคอนโดเพียง 2 โครงการเท่านั้น ภาพรวมมูลค่าโครงการในปีนี้จะลดลงจาก 3.4 หมื่นล้านบาทเหลือ 2.9 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ดีแม้จะเปิดตัวเพียง 40 โครงการ แต่สามารถทำยอดขายได้ถึง 2.9 หมื่นล้านบาท และมียอดรับรู้รายได้อยู่ในเป้าหมาย 2.6 หมื่นล้าน “ตลาดคอนโดปีนี้ไม่เหมาะกับการพัฒนาเพราะหากเปรียบเทียบต้นทุนค่าแรง ค่าวัสดุ ผู้รับเหมาปรับราคาก่อสร้างคอนโดสูงขึ้นถึง 20% ขณะที่บ้านแนวราบปรับเพิ่มเพียง 3-5% ส่วนหนึ่งเพราะบริษัทมีโรงงานผลิตชิ้นส่วนสำเร็จรูปเป็นของตัวเอง” นายประเสริฐกล่าว ในปีหน้าคาดการณ์ว่าตลาดคอนโดจะกลับมาดีขึ้น ต้นทุนค่าก่อสร้างน่าจะอยู่ในภาวะคงที่ หรือปรับตัวลดลง ส่งผลให้ผู้รับเหมาก่อสร้างมีแนวโน้มปรับลดราคาค่าก่อสร้างลงด้วยเช่นกันสอดรับแผนกลับมาบุกตลาดคอนโดของพฤกษาในปีหน้า ทางด้านแผนลงทุนต่างประเทศ จะเริ่มการลงทุนโครงการคอนโดในเวียดนามอีกครั้งช่วงปลายปีนี้ นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเวนคืนที่ดินในอินเดีย บริเวณใกล้โครงการเดิมของพฤกษา เพื่อนำมาพัฒนาเป็นโครงการบ้านเดี่ยว ระดับราคาขาย 5-6 ล้านบาท เปิดขายต้นปีหน้า รวมทั้งศึกษาการลงทุนในอินโดนีเซียด้วย สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาฯ ในครึ่งปีหลังหากไม่ปัจจัยลบส่งผลกระทบจะทำให้อุตฯ มีมูลค่ารวม 2.7-2.8 แสนล้านบาท ส่วนยอดขายครึ่งปีแรกของพฤกษาอยู่ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท ยอดรับรู้รายได้ 1.1 หมื่นล้านบาท