นายยงยุทธ ไชยชนะ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจศูนย์การค้าไอที บริษัท ทิพย์พัฒน อาร์เขต จำกัด ในกลุ่มบริษัท ทีซีซี แลนด์ กล่าวว่า การซื้อขายสินค้าไอทีในตลาดไทยช่วงนี้ยังคงมีดีมานด์และกำลังซื้อต่อเนื่อง แต่ภาพรวมอุตสาหกรรมทั้งปีมีแนวโน้มจะเติบโตได้ไม่ถึง 10% อย่างที่เคยเป็นมา ทั้งนี้เป็นผลต่อเนื่องจากการซื้อขายช่วงต้นปีที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัดเจนจากวิกฤติน้ำท่วมและเศรษฐกิจโลก ประกอบกับโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ที่รัฐบาลปล่อยออกมา เช่น โครงการรถคันแรกทำให้ผู้ซื้อบางส่วนตัดสินใจซื้อสินค้าอื่นๆ ที่ไม่ใช่อุปกรณ์ไอที อย่างไรก็ตามผู้บริหารพันธุ์ทิพย์ประเมินว่า การเปิดตัวระบบปฏิบัติการวินโดว์ส และอุปกรณ์ใหม่ๆ โดยเฉพาะสมาร์ทโฟนและแทบเล็ตเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นการซื้อสินค้าไอทีให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง แต่เชื่อว่าต้องอาศัยการกระตุ้นตลาดจากผู้ค้าอย่างต่อเนื่อง “จากการคุยกับผู้ค้าและข้อมูลตลาดมองว่าปีนี้ต้องระมัดระวัง และจะต้องวางแผนเพื่อกระตุ้นตลาดค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อตลาดไตรมาสแรกและไตรมาส 2 ของปีหน้าด้วย เพราะเทรนด์สินค้าหลายอย่างดูแล้วจะมีผลแรงไปถึงต้นปีหน้า แต่ต้องวางแผนทำตลาดให้ดี จากบรรยากาศการซื้อโดยรวมแม้กำลังซื้อมีอยู่ หากก็มีสินค้าอื่นๆ นอกเหนือจากไอทีเข้ามาดึงดูดความสนใจไป ส่วนของพันธุ์ทิพย์ยังมีเสน่ห์การเป็นไอที มอลล์ชัดเจนเหมือนเป็นดัชนีของสินค้าไอทีที่คนจะคิดถึงเป็นอันดับแรกๆ” นายยงยุทธเผยว่า ปัจจุบันพันธุ์ทิพย์ยังคงมียอดคนเดินสูง หรือราว 30,000 คนต่อวัน และในจำนวนนี้เฉลี่ย 90% จะซื้อสินค้าด้วย เพราะเป็นสถานที่จำหน่ายสินค้าเฉพาะทางที่ผู้มาเดินมีเป้าหมายในการซื้อชัดเจน ล่าสุดบริษัทได้ใช้งบกว่า 10 ล้านบาท จัดแคมเปญใหญ่ “พันธุ์ทิพย์ ฮอตเซล 2012” เพื่อสร้างกิจกรรมการตลาดส่งท้ายปีพร้อมกันที่พันธุ์ทิพย์ทั้ง 4 สาขาคือ ประตูน้ำ, งามวงศ์วาน, บางกะปิ และเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 30 พ.ย. – 9 ธ.ค.นี้ โดยคาดว่าจะช่วยทำให้เกิดเงินสะพัดให้แก่ผู้ค้าทั้งหมดมากกว่า 3,000 ล้านบาท นายยงยุทธระบุว่า งานดังกล่าวจะเป็นส่วนหนึ่งของแผนส่งเสริมการขายและสร้างบรรยากาศการซื้อสินค้าให้แก่ผู้เช่าพื้นที่ของพันธุ์ทิพย์ภายใต้งบราว 100 ล้านบาทต่อปี ซึ่งโดยส่วนใหญ่ช่วงปลายปีจะมีทั้งสินค้าใหม่และสินค้าที่มาลดล้างสต็อก และทำโปรโมชั่นลดสูงสุด 50% เช่น เอ็กซ์เทอร์นัล ฮาร์ดดิสก์ และสมาร์ทโฟน ส่วนแผนการปรับปรุงศูนย์การค้าปัจจุบันอยู่ระหว่างการทำวิจัยเพื่อสำรวจความต้องการของผู้บริโภค และดูเทรนด์การปรับตัวในกลุ่มห้างไอที รวมถึงการจัดส่วนผสมของสินค้าใหม่เพื่อรับแนวโน้มของตลาดในอนาคต ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง อย่างไรก็ตามบริษัทคาดว่าปีนี้จะยังคงมีรายได้เติบโตใกล้เคียงกับทุกปีที่ผ่านมาคือ ค่าเช่าพื้นที่จาก 4 สาขาหลักและดิจิทัล เกตเวย์ สยามรวมราว 1,100 ล้านบาท [code]ทีมา : bangkokbiznews http://bit.ly/S9yzkm [/code]