พลังงานสะอาดแม้จะสามารถผลิตขึ้นมาได้ไม่ยาก แต่การจัดการในเรื่องเสถียรภาพความต่อเนื่องของการจ่ายพลังงานเป็นปัญหาสำคัญของระบบพลังงานทดแทน และตัวที่จะมาแก้ไขปัญหาดังกล่าวก็คือ “ตัวกักเก็บพลังงาน” ซึ่งตัวกักเก็บพลังงานรูปแบบที่เราใช้กันทั่วไปก็คือ แบตเตอรี่เคมี อย่างไรก็ตาม ล่าสุดบริษัทจีนหัวใส มีแนวคิดใหม่ในการสร้างระบบกักเก็บพลังงานด้วยการใช้ ใช้อิฐ 24 ตัน เป็นแบตเตอรี่แบบใหม่ ดึง “แรงโน้มถ่วง” จัดเก็บพลังงานแทนแบตเตอรี่เคมี ซึ่งรายละเอียดเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร ใครอยากรู้ก็ตามมาอ่านกันเลย
สรุปข้อมูลและรายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ดังนี้
- โครงการนี้เป็นโปรเจ็คต์ยักษ์ของ บริษัท เอเนอร์จี้ วอลต์ (Energy Vault) สตาร์ตอัปด้านพลังงานจากประเทศจีน ที่จะสร้างแบตเตอรี่แรงโน้มถ่วง (Gravity Battery) โดยใช้หลักการเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าให้เป็นพลังงานศักย์ (Potential Energy) หรือพลังงานเชิงกลที่สะสมไว้ซึ่งมีค่าเพิ่มขึ้นตามระดับความสูงวัดจากพื้นโลก มาประยุกต์ใช้กับการจัดเก็บพลังงานส่วนเกิน
-
ในการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานทดแทน จะมีบางช่วงเวลาที่มันผลิตได้มากจนมีพลังงานส่วนเกิน ซึ่งพลังงานส่วนเกินที่ได้จากลมหรือแสงอาทิตย์โดยการผลักดันโครงสร้างวัตถุให้อยู่บนจุดสูงสุดของโครงสร้างนั้น
-
และเมื่อต้องการใช้งาน ก็ปล่อยให้วัตถุนั้นตกลงมา การตกลงมาจะเปลี่ยนพลังงานศักย์ให้เป็นพลังงานจลน์ (Kinertic Energy) ที่แปลงกลับมาเป็นกระแสไฟฟ้าได้ด้วยการอาศัยแรงดังกล่าวดึงรอกปั่นเครื่องกำเนิดไฟฟ้า
-
และเพื่อให้ไอเดียนี้ประสบความสำเร็จจำเป็นต้องสร้างอาคารสูง 8 ชั้น ในเมืองหลูตรง (Rudong) มณฑลหนานทง ที่ภายในจะมีระบบจัดเก็บพลังงานไฟฟ้าจากก้อนอิฐ โดยก้อนอิฐแต่ละก้อนจะมีขนาดกว้าง 3.5 เมตร ยาว 2.7 เมตร และสูง 1.3 เมตร มีน้ำหนัก 24 ตัน
-
เมื่อต้องการใช้ไฟฟ้าในเวลาที่ต้องการ ระบบจะปล่อยก้อนอิฐให้ตกลงตามแรงโน้มถ่วงจากตึกชั้นที่ 8 สร้างความเร็ว 6.8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งแปลงให้เป็นไฟฟ้าได้ประมาณ 1 เมกะวัตต์ (MW) คิดเป็น 80% ของพลังงานที่กักเก็บไว้ โดยจะมีกำลังการผลิตรวมทั้งหมด 25 เมกะวัตต์ (MW)
-
โดยข้อดีสำคัญของแบตเตอรี่ชนิดนี้เมื่อเทียบกับแบตเตอรี่เคมีที่ใช้กันทั่วไปคือมีราคาที่ถูกมากเมื่อเทียบกับขนาดการกักเก็บไฟฟ้าเท่ากัน เปิดทางไปสู่การใช้พลังงานหมุนเวียนเป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าหลักเพราะมีที่กักเก็บต้นทุนต่ำลง
และนี่ก็คืออีกหนึ่งโปรเจ็คต์ดีๆ ด้านพลังงานทดแทนที่เราอยากแจ้งให้เพื่อนๆ ได้ทราบในครั้งนี้ ก็หวังว่าจะเป็นที่ชื่นชอบถูกใจคอเทคโนโลยีกันทุกคน และหากมีข่าวคืบหน้าประการใดเกี่ยวกับโปรเจ็คต์นี้อีก เราจะรีบมาอัพเดทให้ทุกท่านได้ทราบก่อนใครทันที