สวัสดีคอไอทีทุกคน วันนี้เรามีข่าวใหญ่จะแจ้งให้ทุกท่านได้ทราบว่า ผลทดสอบเผย พีซีเครื่องเดียวกันที่ลง Windows 10 หรือ Windows 11 ประสิทธิภาพออกมาแทบไม่แตกต่างกันเลย ซึ่งรายละเอียดเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร เรามาติดตามกันเลย
สรุปข้อมูลและรายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ ได้ดังนี้
- เรียกว่าน่าจะเป็นอีกหนึ่งหัวข้อหนึ่งที่หลายคนสงสัยกันเยอะและอยากรู้คำตอบ เมื่อเว็บไซต์สื่อไอทีชื่อดังอย่าง TechSpot ได้ทำการทดสอบเครื่องพีซีเครื่องเดียวกัน แต่ลง Windows 2 รุ่นเพื่อเปรียบเทียบระหว่าง Windows 10 กับ Windows 11 เพื่อดูว่าคะแนนออกมาประสิทธิภาพจะแตกต่างกันหรือไม่
- ล่าสุดทีมงานแหล่งข่าววงในที่น่าเชื่อถือก็ได้ทำการทดสอบให้ชมอย่างละเอียดมาก มีการควบคุมตัวแปร ทดสอบบนโปรแกรม Benchmark และเกมจากหลายสำนักเทียบกัน รวมถึงแบ่งการเทสเทียบกันเองระหว่างการลง 4 แบบ ประกอบด้วย Windows 10 แบบลบลงใหม่, Windows 11 แบบลบลงใหม่, Windows 11 ที่ถูกอัปเกรดมาจาก 10, และ Windows 11 ที่เปิดโหมด Virtualization-Based Security (VBS) ซึ่งจำเป็นต่อการลงแอป Android เรียกว่ารอบนี้ตั้งใจทำออกมาเพื่อเก็บทุกเม็ดจริงๆ
- สำหรับเครื่องที่นำมาทดสอบครั้งนี้ จะมีอยู่ด้วยกัน 2 สเปค คือ Core i9-11900K และ Core i3-10105F เพื่อไว้เทียบกันว่าระหว่างคอมสเปคแรงกับคอมสเปคเริ่มต้น ผลลัพธ์จะออกมาต่างกันหรือไม่ ส่วนโปรแกรมและเกมที่นำมาทดสอบครั้งนี้ ต้องบอกว่าขนมาครบเกือบทุกเจ้า ซึ่งประกอบไปด้วยการทดสอบ 4 แบบหลักๆ ดังนี้
- แบบแรกคือ การทดสอบด้วยโปรแกรม Benchmark ทั่วไป ซึ่งได้แก่ Cinebench R23, Blender Open Data และ 7-Zip แบบที่ 2 ทดสอบด้วยโปรแกรมทำงาน ซึ่งหลักๆ จะทดสอบบนโปรแกรม Adobe ทั้งหมด เนื่องจากมีซอฟต์แวร์ Puget สำหรับเทสด้านนี้โดยเฉพาะ ได้แก่ Photoshop, Premiere Pro และ After Effect แบบที่ 3 ทดสอบด้วยเกมที่มี benchmark ในตัว ได้แก่ F1 2021, Tom Clancy’s Rainbow Six Siege, Watch Dogs: Legion และ Cyberpunk 2077 และแบบสุดท้าย ทดสอบดิสก์และหน่วยความจำ ได้แก่ CrystalDiskMark และ AIDA64
- ผลทดสอบที่ออกมาพบว่าคะแนนทดสอบของ Windows ทั้ง 4 แบบ โดยภาพรวมมีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น บางผลเทสให้ Windows 10 คะแนนสูงกว่าบ้าง บางผลก็สลับกัน แต่โดยรวมๆ ยังคงอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกันทั้งหมด เรียกว่าไม่ได้แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญเลย ไม่ว่าจะ Windows 10 หรือ 11
- อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็น Windows 11 แบบที่เปิดโหมด Virtualization-Based Security (VBS) เอาไว้ กลับพบว่ามีความแตกต่างขึ้นมาเล็กน้อย และเห็นได้ชัดพอสมควร นั่นคือคะแนนบางผลเทสจะดรอปลงเมื่อเทียบกับอีก 3 แบบที่เหลือ โดยการทดสอบหลักๆ ที่เห็นผลชัดมากๆ มี 2 อัน คือการเรนเดอร์บน Adobe After Effect ที่ช้าลงราว 10% และความเร็วในการเขียนดิสก์ก็ช้าลงถึง 20-26% แถมยังเป็นเหมือนกันอีกด้วย ไม่ว่าจะทดสอบบนเครื่อง Core i9 หรือ Core i3
- ส่วนความแตกต่างระหว่างเครื่อง Core i9 และ i3 ทั้ง 2 สเปคให้แนวโน้มด้านนี้ไม่ต่างกัน คือคะแนนไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมด จึงสรุปได้ว่าการลง Windows 11 บนเครื่องสเปคช้า ก็ไม่ได้ทำให้คะแนนดีขึ้นหรือแย่ลงกว่า เมื่อเทียบกับเครื่องที่แรงอยู่แล้ว
- สรุปแล้ว นี่จะเป็นข่าวดีของคนใช้ Windows 10 หรือข่าวร้ายของคนใช้ Windows 11 ดีก็ไม่แน่ใจ เพราะหากมองในมุมคนใช้ 10 ที่ไม่อยากอัปเกรด ก็น่าจะคิดถูกแล้ว เพราะใช้ของเดิมก็ไม่ต่างกัน (ต่างแค่ฟีเจอร์)
- แต่หากมองในแง่ของคนใช้ 11 ก็อาจจะต้องน้อยใจ เพราะ Microsoft เคยประกาศว่าเครื่องเก่าจะเร็วขึ้น ก็ไม่ได้เป็นจริงตามนั้น หรือมองในมุมคนใช้ 10 ที่ลังเลจะอัปอยู่ ก็อาจจะดีใจที่อัป 11 แล้วเครื่องไม่ช้าลง ขึ้นอยู่กับมุมมอง
ดังนั้นการทดสอบรอบนี้ที่ออกมา ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์ ช่วยประกอบการตัดสินใจให้หลายคนได้มากขึ้นครับ และหากมีเรื่องราวที่เป็นประโยชน์เช่นนี้อีก เราจะรีบอัพเดทให้ทุกท่านได้ทราบโดยทันที