Monday, April 14, 2025
33.6 C
Bangkok

ภายในดีลร้อน: Trump administration ต่อรองกับ Oracle เรื่อง Takeover TikTok

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เมื่อพูดถึงแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่มาแรงสุด ๆ โดยเฉพาะกับกลุ่มวัยรุ่นและวัยมหาวิทยาลัย เชื่อว่าหลายคนน่าจะนึกถึง TikTok ก่อนใคร เพราะนี่คือแหล่งปลดปล่อยความสร้างสรรค์ ทั้งเต้นแอโรบิกแก้เบื่อ ร้องเพลงลิปซิงก์ หรือกระทั่งอวดสูตรอาหารง่าย ๆ จัดเต็มทุกแนวความบันเทิงได้ภายในคลิปสั้นไม่กี่วินาที จนกลายเป็นไวรัลมาแล้วไม่รู้กี่ครั้ง แต่ความฮอตฮิตนั้นก็มาพร้อมกับดราม่าสารพัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลและการเมืองระดับโลก ซึ่งล่าสุด TechCrunch รายงานว่า Trump administration กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจาให้ Oracle เข้าซื้อ TikTok แบบ Takeover เต็มรูปแบบอีกครั้ง

หลายคนคงจำได้ว่า TikTok นั้นเป็นของ ByteDance บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่สัญชาติจีน ซึ่งประเด็นนี้เคยสร้างความหวาดระแวงต่อความมั่นคงและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกาอยู่พักใหญ่ ๆ ทำให้ Trump administration เคยออกคำสั่งขู่ “แบน” TikTok ในสหรัฐอเมริกา หากไม่มีการเปลี่ยนเจ้าของ หรืออย่างน้อยก็ขอให้บริษัทอเมริกันเข้ามาถือหุ้นใหญ่เพื่อควบคุมการดำเนินงานด้านข้อมูล ซึ่งในช่วงนั้น Microsoft ก็เคยแสดงความสนใจอยากซื้อ TikTok อยู่เหมือนกัน แถมยังมี Walmart โผล่มาร่วมวงด้วย แต่ท้ายที่สุดแล้วชื่อของ Oracle ก็ดูท่าจะมาแรงที่สุด จนเกิดการเจรจาต่อรองยืดเยื้อยาวนานตามหน้าข่าวไปพักหนึ่ง

พอเวลาผ่านไป เรื่องก็เงียบหาย จนกระทั่งมาถึงปี 2025 มีรายงานออกมาจาก TechCrunch อีกครั้งว่า Trump administration (ซึ่งหลายคนอาจแปลกใจว่า “ยังอยู่เหรอ?” เพราะประเด็นทางการเมืองภายใน USA มีความสลับซับซ้อนอย่างมาก) กำลังเจรจาอยู่กับ Oracle ให้เข้ามา Takeover TikTok แบบเป็นทางการ ซึ่งก็หมายความว่าจะต้องโอนถ่ายทรัพย์สินและการควบคุมทั้งหมดของ TikTok ในสหรัฐฯ หรืออาจจะหลายภูมิภาคด้วย ไปอยู่ในมือของ Oracle แทน ByteDance

แน่นอนว่าเหตุผลหลัก ๆ ที่ถูกหยิบยกขึ้นมา คือเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้และการปกป้องข้อมูลเชิงลึกที่อาจเกี่ยวข้องกับหน่วยงานความมั่นคงในสหรัฐอเมริกา เนื่องจาก TikTok มีผู้ใช้งานในอเมริกาเยอะมาก และปัจจุบันคนอเมริกันก็เสพคอนเทนต์บน TikTok กันเป็นปกติ เทียบเท่าหรือบางกลุ่มอาจมากกว่าการใช้งานแพลตฟอร์มใหญ่อย่าง Facebook หรือ Instagram ไปแล้วก็มี ซึ่งหากรัฐมองว่า ByteDance มีส่วนเกี่ยวข้องกับรัฐบาลจีน ก็อาจกลายเป็นปัญหาด้านความมั่นคงได้ไม่ยาก

ขณะเดียวกัน Oracle เองก็ไม่ใช่หน้าใหม่ในวงการเทคโนโลยี แถมยังเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่สายซอฟต์แวร์องค์กร (Enterprise Software) เป็นที่รู้จักในฐานะผู้พัฒนาฐานข้อมูลขนาดใหญ่ ให้บริการ Cloud และโซลูชันด้าน IT แก่องค์กรและหน่วยงานรัฐมากมายทั่วโลก เพราะฉะนั้นการที่ Oracle จะก้าวเข้ามาเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่าง TikTok จึงถือเป็นการขยายขอบเขตธุรกิจไปอีกขั้น รวมถึงอาจเป็นการยกระดับการแย่งชิงอำนาจทางเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐฯ และจีนไปพร้อมกันด้วย

หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมต้อง Oracle ด้วยล่ะ? ก็ต้องเล่าย้อนกลับไปช่วงปี 2020 – 2021 ก่อน ที่มีข่าวว่า Trump administration อยากบีบให้ ByteDance ขาย TikTok ออกไป Oracle ก็เป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ที่สนใจอย่างจริงจัง เหตุผลเบื้องหลังนั้นมีหลายอย่าง ตั้งแต่ความสัมพันธ์เชิงธุรกิจระหว่างผู้บริหารระดับสูงของ Oracle กับคนใน Trump administration รวมไปถึงการที่ Oracle มีทรัพยากรมากพอจะเข้าซื้อและบริหาร TikTok ในสหรัฐฯ ได้โดยไม่เกิดช่องว่างทางกฎหมาย

ในแง่มุมของผู้ใช้งานทั่วไป หลายคนตั้งคำถามว่า “แล้วมันจะดีเหรอ?” ก็มีทั้งเสียงเห็นด้วยและเสียงคัดค้านปะปนกันไป เสียงที่เห็นด้วยก็บอกว่าการให้ Oracle ซื้อไป อาจทำให้ปัญหาความขัดแย้งด้านความปลอดภัยของข้อมูลและการเข้าถึงโดยรัฐบาลจีนลดน้อยลง หรืออย่างน้อยที่สุดรัฐบาลสหรัฐฯ ก็อาจวางใจได้ว่ามีบริษัทในอเมริกาเข้ามาคุมเกมอยู่ ส่วนเสียงคัดค้านก็มองว่า Oracle อาจขาดวิสัยทัศน์ด้านโซเชียลมีเดียหรือความสร้างสรรค์แบบที่ TikTok มีอยู่แล้ว และอาจทำให้ TikTok กลายเป็นแพลตฟอร์มที่มีกฎระเบียบมากขึ้น เสียความเป็นแพลตฟอร์มอินดี้ที่วัยรุ่นชื่นชอบไป

นอกจากนี้ยังมีนักวิเคราะห์บางส่วนมองว่า ถึงแม้การซื้อ TikTok จะทำให้ Oracle ก้าวเข้าสู่ตลาดคอนซูเมอร์มากขึ้น แต่ก็อาจต้องเจอกับความท้าทายใหญ่ ๆ เช่น

  1. การรักษาฐานผู้ใช้ที่ปัจจุบันติดภาพ TikTok ว่าเป็นแพลตฟอร์ม “วัยรุ่นเต้น” กับวัฒนธรรมมุกตลกแบบไวรัล ถ้าหาก Oracle มาสร้างกติกาเข้มงวดขึ้น มันอาจทำให้ผู้ใช้อพยพออกไปสู่แพลตฟอร์มอื่นก็เป็นได้
  2. การพัฒนาธุรกิจใหม่ที่ต่างจากซอฟต์แวร์ระดับองค์กรอย่างสิ้นเชิง จำเป็นต้องใช้ทีมงานคนละชุด และอาจต้องเรียนรู้พฤติกรรมผู้บริโภคทั่วไปมากขึ้น
  3. การรักษาความน่าสนใจของ TikTok ในระยะยาว เพราะโซเชียลแพลตฟอร์มอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น YouTube, Instagram, Facebook หรือ Snapchat ก็เริ่มปรับตัวให้มีฟีเจอร์วิดีโอสั้น (Short Video) แข่งขันกันอยู่แล้ว

กระนั้นก็ตาม ในแง่ของการเมืองระดับโลก ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเข้ามา Takeover TikTok ของ Oracle (หากดีลนี้เกิดขึ้นจริง) จะเป็นการส่งสัญญาณที่แข็งแกร่งว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของ Trump administration ยังคงมุ่งมั่น “ปลดอิทธิพลจีน” หรือป้องกันไม่ให้บริษัทจีนเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้ในสหรัฐฯ แบบที่ฝ่ายความมั่นคงกังวลกันอยู่ ซึ่งเป็นประเด็นร้อนแรงในเวทีการเมืองโลกมาอย่างต่อเนื่อง

จากข้อมูลของ TechCrunch ระบุว่า การเจรจากับ Oracle ในครั้งนี้มีการพูดถึงเงื่อนไขต่าง ๆ มากมาย ทั้งการแบ่งปันเทคโนโลยี การรับประกันด้านความปลอดภัย การจ่ายภาษี การรักษาพนักงานบางส่วนไว้ในสหรัฐฯ รวมถึงการแบ่ง % การถือครองหุ้น ระหว่าง ByteDance, Oracle และอาจมีนักลงทุนรายย่อยเข้ามาเกี่ยวด้วย แน่นอนว่ามันยังไม่จบลงโดยง่าย เพราะฝ่าย ByteDance เองก็คงอยากได้ราคาที่เหมาะสมและข้อตกลงที่ไม่ทำให้เสียประโยชน์มากเกินไป

นอกจากนี้ก็ยังมีความเป็นไปได้ว่า หากการ Takeover ครั้งนี้ไม่ประสบความสำเร็จ หรือถูกตีกลับในภายหลัง รัฐบาลสหรัฐฯ อาจกลับมาขู่แบน TikTok อีกครั้งก็ได้ ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ใช้งานในอเมริกาไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ หรืออาจถูกจำกัดการใช้งานบางฟีเจอร์ จนกว่าจะบรรลุข้อตกลงที่รัฐบาลยอมรับ

ขณะนี้เรายังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่า ข้อสรุปจะออกมาเป็นอย่างไร ใคร ๆ ก็อยากรู้ว่า Oracle จะสามารถปรับตัวเข้าสู่ธุรกิจคอนซูเมอร์ในสเกลใหญ่ได้ดีแค่ไหน หรือ TikTok จะรักษาเอกลักษณ์ความเป็นแหล่งรวมไวรัลคลิปสนุก ๆ ได้มากน้อยเพียงใด ท่ามกลางเงื่อนไขการเมืองและแรงกดดันจากมหาอำนาจทั้งสองฝั่ง

สำหรับผู้ใช้งานธรรมดาอย่างเรา ๆ ก็ทำได้แค่ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด เพราะถ้าดีลเกิดขึ้นจริง มันอาจเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ของ TikTok เลยทีเดียว ตั้งแต่แนวทางการดูแลคอนเทนต์ การเก็บข้อมูล ไปจนถึงกลยุทธ์โฆษณาที่อาจถูกปรับเปลี่ยนไปตามเจ้าของใหม่ และแน่นอนว่ามันจะกลายเป็นหมุดหมายใหม่ที่สะท้อนการต่อสู้เชิงอิทธิพลระหว่างสหรัฐฯ กับจีนอีกด้วย

สุดท้ายแล้ว เราเองก็ต้องรอดูว่า Trump administration กับ Oracle จะสามารถปิดดีล Takeover TikTok ได้ไหม และจะมีผลกระทบอะไรตามมาบ้าง ในโลกที่การแข่งขันด้านเทคโนโลยีมันเดือดขึ้นทุกวัน บางทีการเข้าซื้อครั้งนี้อาจเป็นแค่จุดเริ่มต้นของสงครามเทคโนโลยีระลอกใหม่ของสหรัฐฯ กับจีนก็ได้ ใครจะไปรู้? แล้วถ้าเพื่อน ๆ อยากอ่านบทวิเคราะห์เชิงลึกเพิ่มเติม ก็สามารถตามไปอ่านที่ TechCrunch ได้ หรือค้นหาข่าวอื่น ๆ ในอินเทอร์เน็ตเพื่อเสริมความเข้าใจ ก่อนจะกดเข้าไปส่องคลิป TikTok ว่าเพื่อนในฟีดของเราตอนนี้เต้นอะไรกันอยู่

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

This field is required.

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

Hot this 48 hr.

เรียกคืน Tesla Cybertruck จำนวน 46,000 คัน เพราะชิ้นส่วนตกกระจาย

เมื่อเร็วๆ นี้ Tesla ได้เผชิญกับเหตุการณ์ที่ทำให้เหล่าเจ้าของ Cybertruck ต้องตกใจ เมื่อบริษัทประกาศเรียกคืนรถ Cybertruck จำนวน...

iPadOS 19 มาแนวใหม่! เปลี่ยน iPad ให้เหมือน Mac มากขึ้นอีกขั้น

ในทุกปี Apple มักจะเปิดตัวระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่พร้อมกับการปรับแต่งเพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้งาน และในปี 2025 นี้ iPadOS 19 ก็เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่หลายคนรอคอย...

Apple ยังปักหลักผลิต iPhone ในอินเดีย แม้ความเสี่ยงภาษีจะเพิ่มสูงขึ้น

Apple ยังคงเดินหน้าผลิต iPhone ในอินเดียอย่างมั่นคง แม้จะมีความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนสู่ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับตลาดอเมริกา ซึ่งมีแนวโน้มว่าภาษีศุลกากรจะถูกนำกลับมาใช้อีกครั้งกับสินค้าที่ผลิตในจีน Ming-Chi...

ราคาทองปี 2025 พุ่งแตะ $3,700 ต่อออนซ์! Goldman Sachs มั่นใจทองยังไปต่อ

ใครที่กำลังเล็งลงทุนในทองคำหรือมีทองเก็บไว้ในเซฟ ต้องรีบอัปเดตข่าวนี้กันเลย เพราะล่าสุด Goldman Sachs ธนาคารชื่อดังระดับโลกได้ออกมาคาดการณ์ว่า ราคาทองคำในปี 2025 มีโอกาสพุ่งไปแตะถึง...

เปิดวาร์ปน้อง Kwanjira Jittangsap นางแบบสาวสวย ขาว น่ารัก ยิ่งมองยิ่งฟินเว่อร์

สวัสดีเพื่อนๆ ชาว ไอทีเมามันส์ ทุกคน พบกันเป็นประจำเช่นเคยกับการแนะนำให้รู้จักนางแบบสาวสวย ชวนติดตาม สำหรับครั้งนี้ก็เป็นคิวของน้อง Kwanjira Jittangsap...

Topics

Apple ยังปักหลักผลิต iPhone ในอินเดีย แม้ความเสี่ยงภาษีจะเพิ่มสูงขึ้น

Apple ยังคงเดินหน้าผลิต iPhone ในอินเดียอย่างมั่นคง แม้จะมีความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนสู่ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับตลาดอเมริกา ซึ่งมีแนวโน้มว่าภาษีศุลกากรจะถูกนำกลับมาใช้อีกครั้งกับสินค้าที่ผลิตในจีน Ming-Chi...

ราคาทองปี 2025 พุ่งแตะ $3,700 ต่อออนซ์! Goldman Sachs มั่นใจทองยังไปต่อ

ใครที่กำลังเล็งลงทุนในทองคำหรือมีทองเก็บไว้ในเซฟ ต้องรีบอัปเดตข่าวนี้กันเลย เพราะล่าสุด Goldman Sachs ธนาคารชื่อดังระดับโลกได้ออกมาคาดการณ์ว่า ราคาทองคำในปี 2025 มีโอกาสพุ่งไปแตะถึง...

iPadOS 19 มาแนวใหม่! เปลี่ยน iPad ให้เหมือน Mac มากขึ้นอีกขั้น

ในทุกปี Apple มักจะเปิดตัวระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่พร้อมกับการปรับแต่งเพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้งาน และในปี 2025 นี้ iPadOS 19 ก็เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่หลายคนรอคอย...

Netflix กำลังทดสอบระบบค้นหาด้วย AI แนะนำหนังและซีรีส์ให้ตรงใจยิ่งขึ้น

Netflix เดินหน้าทดลองระบบค้นหาแบบใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี AI เพื่อให้การแนะนำหนังและซีรีส์ตรงใจผู้ชมมากขึ้นกว่าเดิม โดยระบบใหม่นี้อยู่ในช่วงทดสอบภายใน และมีแผนจะเปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปได้ลองใช้ในอนาคตอันใกล้ ระบบ AI ตัวใหม่นี้ไม่ใช่แค่การแนะนำแบบเดิม ๆ...

Related Articles

Popular Categories

spot_img