นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมค้าปลีก-ส่ง เปิดเผยว่า หลังจากภาครัฐได้ประกาศปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่และสุราใหม่นั้น พบว่า ยอดขายของสินค้าในกลุ่มบุหรี่และสุรายังเติบโตดีอยู่ และไม่ได้มียอดขายที่ลดลงแต่อย่างใด เพราะคนที่ใช้สินค้าดังกล่าวก็ยังใช้เป็นปกติอยู่ ดังนั้น แนวทางที่ภาครัฐจะแก้ไขให้คนไทยบริโภคสินค้าดังกล่าวลดลงนั้น คงจะต้องหานโยบายใหม่มาดำเนินการ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าห่วงในขณะนี้ คือ ปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้น อาจทำให้มีสินค้ากลุ่มบุหรี่และเหล้าหนีภาษีจากชายแดนลักลอบเข้ามาทำตลาดมากขึ้นด้วย เพื่อเจาะกลุ่มที่มีรายได้น้อย นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมา ก่อนที่ภาครัฐจะมีประกาศโครงสร้างภาษีใหม่นั้น กลุ่มผู้ประกอบการร้านค้าปลีกและร้านค้าส่ง ก็ไม่ได้มีการกักตุนสินค้าแต่อย่างใด ด้านรายงานข่าวจาก บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ยอมรับว่า หลังจากโครงสร้างราคาบุหรี่และสุราใหม่มีผลบังคับใช้แล้ว ก็ไม่กระทบต่อยอดขายสินค้าในร้านกลุ่มดังกล่าวให้ลดลงแต่อย่างใด เพราะผู้บริโภคยังซื้อสินค้ากลุ่มดังกล่าวตามปกติ รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า ในปัจจุบันโครงสร้างเพดานภาษีของไทยเกือบเต็มอัตราแล้ว โดยเมื่อคิดเฉลี่ย พบว่า ราคาขายปลีกเหล้าขาวจะขึ้นอีก 7.50 บาท เหล้าสีขึ้น 12 บาท และ บรั่นดี ขึ้น 5.40 บาท ขณะที่การปรับขึ้นภาษีบุหรี่ จะอยู่ที่อัตรา 6-8 บาทต่อซอง