สวัสดีคอยานยนต์ทุกคน วันนี้เรามีข้อมูลใหม่ของ 2022 Toyota Tundra TRD เตรียมจำหน่ายในตลาดอเมริกา ตุลาคมนี้มาแจ้งให้ให้ทราบ ใครที่สนใจก็ตามมาดูกันเล้ยย
สรุปอัพเดทข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับรถยนต์ 2022 Toyota Tundra TRD ได้ดังนี้
- ล่าสุดได้มีการเปิดเผยภาพชุดแต่ง TRD ของเจ้า Tundra ใหม่ พร้อมกับการประกาศวันจำหน่ายในตลาดอเมริกาอย่างเป็นทางการแล้ว
- สำหรับ 2022 Toyota Tundra ใหม่นั้น จะมีการปรับปรุงในเรื่องของแพลตฟอร์มใหม่ โดยมีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของแหนบด้านหลัง ที่เป็นของเดิมจะถูกแทนที่ด้วย คอยสปริงส์ เพื่อปรับปรุงคุณภาพการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมกว่าเดิม
- มาพร้อมเครื่องยนต์ชุดใหม่ i-Froce MAX V6 ขนาด 5 ลิตร เทอร์โบคู่ ชุดเดียวกับที่ใช้งานบน Toyota Land Cruiser ใหม่ ที่จะมาพร้อมกับกำลังสูงสุดที่มากถึง 415 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 650 นิวตันเมตร ที่จะให้กำลังที่มากกว่าเครื่องยนต์ V6 ขนาด 5.7 ลิตรดั่งเดิมที่มีกำลังสูงสุด 381 แรงม้า แรงบิด 544 นิวตันเมตร
- ในส่วนของรุ่นพิเศษอย่าง TRD จะมีการเสริมคุณสมบัติมากมายเพื่อให้เหมาะสมกับการขับขี่แบบ Off-Road มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น กระจังหน้าสีดำขนาดใหญ่ ตัวกันหม้อน้ำ ชุดการ์ดใต้ท้องเครื่อง ชุดล้อฟอร์จใหม่จาก BSS สีดำ พร้อมกับยาง Falken Wildpeak all-terrain ขนาด 285/65 โช้คอัพ Fox พร้อมเหล็กกันโคลงสีแดง และโหมดการขับขี่ตามลักษณะภูมิประเทศอย่าง MTS, DAC/Crawl, Tow / Haul ซึ่งจะช่วยในการขับขี่ในรูปแบบ Off-Road ที่มากขึ้น
- ภายในห้องโดยสารนั้น ยังไม่มีการเปิดเผยเต็มรูปแบบ แต่ในรุ่น TRD จะได้รับเบาะนั่งสีแดงทรงสปอร์ต หลังคาพาโนราม่าซันรูฟ หน้าจอสาระบันเทิงส่วนกลางแบบลอยตัว แท่นชาร์จไร้สาย พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นใหม่ แผงหน้าปัดใหม่พร้อมฟังก์ชั่นแสดงมุมเอียงของรถ
- สำหรับคู่แข่งโดยตรงของ Toyota Tundra ใหม่นั้น จะเป็นตัวที่แย่งชิงตลาดกับ Ford F-150 เจ้าตลาดและ Nissan Titan ตัวเลือกที่มีกลุ่มผู้ใช้งานจำนวนมาก
และนี่ก็คือรถยนต์ Toyota Tundra ใหม่ที่เราอยากแนะนำให้เพื่อนๆ ได้รู้จักในครั้งนี้ ทั้งนี้ยังไม่มีการเปิดเผยราคาอย่างเป็นทางการ แต่มีการประกาศว่าจะมีการจำหน่ายอย่างเป็นทางการในตลาดอเมริกา ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2021 ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนตุลาคมนี้ ส่วนตลาดประเทศไทยเองไม่ต้องสงสัยครับ ไม่มาแน่นอนเพราะเรามี Toyota Hilux Revo เป็นตัวชูโรงอยู่แล้ว และด้วยอัตราภาษีที่แตกต่างถ้าเจ้า Tundra มาจำหน่ายในบ้านเรา ราคามันคงเริ่มต้นที่ราวๆ 1.5 ล้านเป็นอย่างต่ำ คงยากจะทำการตลาดอย่างแน่นอน