สวัสดีเพื่อน ๆ สายถ่ายภาพทุกคน! วันนี้เราจะมาคุยกันแบบกันเองสุด ๆ เกี่ยวกับกล้องระดับเรือธงที่ใครหลายคนตั้งตารอคอย นั่นก็คือ Canon EOS R1 กล้องมิเรอร์เลส (Mirrorless) ตัวท็อปที่บอกเลยว่าจัดเต็มมากทั้งสเปกและเทคโนโลยีใหม่ ๆ จนหลายคนในวงการคาดหวังว่าเจ้า R1 ตัวนี้จะมาเป็น “ตำแหน่งราชา” แทนที่กล้อง DSLR ซีรีส์ 1D ในอดีตของ Canon กันเลยทีเดียว แต่แน่นอนว่าทุกอย่างย่อมมีราคาที่ต้องจ่าย ซึ่งก็ไม่ใช่น้อย ๆ เหมือนกัน ลองมาดูกันเถอะว่ากล้องตัวนี้มีดีอะไรบ้าง และทำไมราคาถึงได้พุ่งแรงขนาดนี้
1. ภาพรวมของ Canon EOS R1
ถ้าพูดถึง Canon ซีรีส์ R ที่เปิดตัวมาตั้งแต่สมัย Canon EOS R, Canon EOS R5 หรือ Canon EOS R3 เราจะเห็นพัฒนาการขั้นเทพของ Canon ที่ตั้งใจจะให้มิเรอร์เลสมาสานต่อยอดอันแข็งแกร่งของ DSLR รุ่นตำนานให้หมดจบในที่เดียว ซึ่ง Canon EOS R1 ก็เลยเป็นกล้องที่คนคาดหวังกันว่าจะมาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่แกะกล่องทุกอย่าง จัดเต็มทั้งเรื่องภาพนิ่ง ความละเอียด ความเร็ว และการถ่ายวิดีโอ
จากข้อมูลที่มีการคาดการณ์ (และข่าวลือ) ณ ปัจจุบัน เจ้า Canon EOS R1 จะมาพร้อมกับเซนเซอร์ฟูลเฟรมความละเอียดสูงโคตร ๆ ที่หลายคนคาดว่าน่าจะอยู่ราว ๆ 85 ล้านพิกเซล (หรืออาจมากหรือน้อยกว่านี้เล็กน้อย) แต่จุดเด่นไม่ใช่แค่ความละเอียดอย่างเดียว เพราะมันยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี Stacked Sensor ที่ให้ความเร็วในการอ่านข้อมูล (Readout) ที่ไวเวอร์ และยังช่วยลดการบิดเบือนเมื่อถ่ายภาพวัตถุเคลื่อนไหวเร็ว ๆ อีกด้วย
2. ความเร็วที่เกินความคาดหมาย
แม้ว่าจะมีความละเอียดที่สูงเป็นพิเศษ แต่ Canon น่าจะอยากให้ R1 สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้เร็วเหลือเชื่อ ซึ่งใน Canon EOS R3 เราเคยได้เห็นการถ่ายภาพต่อเนื่องแบบ Electronic Shutter ได้ถึง 30 fps มาแล้ว แถมปรับปรุง Rolling Shutter ให้ดีขึ้นมาก จึงมีการคาดการณ์ว่า Canon EOS R1 อาจจะยกระดับขึ้นไปอีกขั้น อย่างน้อยก็น่าจะทำได้ 30 fps หรืออาจแตะ 40 fps ด้วยซ้ำ (อันนี้ต้องรอดูตัวจริง)
นอกจากสเปกถ่ายภาพนิ่งเร็ว ๆ แล้ว ระบบโฟกัส (AF) น่าจะเป็นอีกหนึ่งไม้ตายสำคัญ ใน Canon EOS R3 เองก็มี Eye Control AF หรือระบบที่ให้กล้องตามโฟกัสไปยังจุดที่ดวงตาของเราจ้องอยู่ใน EVF ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ฮือฮามาก แน่นอนว่า Canon EOS R1 ก็น่าจะมีการอัปเกรดให้ฉลาดขึ้น แม่นยำขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการตรวจจับใบหน้า ดวงตา หรือแม้กระทั่งสัตว์ปีกและยานพาหนะต่าง ๆ รวมถึงระบบ AI ที่เรียนรู้พฤติกรรมของวัตถุเพื่อโฟกัสได้รวดเร็วทันใจระดับมือโปร
3. งานวิดีโอระดับ 8K (หรือน่าจะมากกว่านั้น)
ปัจจุบัน Canon EOS R5 ถ่ายวิดีโอ 8K ได้แล้ว จึงไม่แปลกถ้า Canon จะยกระดับให้ R1 ถ่ายได้ดีและยืดหยุ่นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็น 8K 60p (บางกระแสบอกว่าอาจจะมี 8K 120p แต่ก็เป็นไปได้ยากในช่วงแรก) นอกจากนี้ Canon ยังอาจเพิ่มฟีเจอร์การถ่ายวิดีโอ RAW 12-Bit หรือ 10-Bit 4:2:2 เพื่อให้การเก็บรายละเอียดสีสันเหนือชั้น เหมาะสำหรับโปรดักชันที่ต้องการเอาไฟล์มาทำงานโปรระดับสูง หรือดึงรายละเอียดสุด ๆ ใน Post-Production
ที่สำคัญคือการจัดการความร้อน (Overheating) เป็นจุดที่ Canon โดนกระแสมาตลอดตั้งแต่สมัย EOS R5 ที่ถ่าย 8K ได้แต่ไม่นานเท่าไร เพราะความร้อนสะสมสูงเกิน สุดท้ายต้องพักกล้อง ซึ่งใน R3 ก็แก้มาได้ระดับหนึ่งแล้ว ดังนั้นใน Canon EOS R1 เราก็น่าจะได้เห็นระบบระบายความร้อนที่ดีขึ้น หรืออาจจะมีพัดลมระบายความร้อนติดมาเหมือนกับที่คู่แข่งบางเจ้าทำ เพื่อให้เราใช้ฟีเจอร์วิดีโอสุดโหดได้ยาวขึ้น
4. งานดีไซน์และบอดี้สุดทน
อีกหนึ่งเสน่ห์ของกล้องระดับโปรอย่างเช่น Canon 1D Series คือการที่บอดี้แข็งแรงทนทาน กันน้ำ กันฝุ่น กันแทบทุกสภาพอากาศ สมฐานะกล้องแนวสปอร์ตและสารคดีที่ต้องเจอหน้างานโหด ๆ ซึ่ง Canon EOS R1 ก็น่าจะสืบทอดดีไซน์แบบเดียวกัน นั่นคือเป็นบอดี้แบบกริปตั้ง (Built-in Vertical Grip) ที่จับถ่ายแนวตั้งได้ถนัดมือเหมือน DSLR รุ่นใหญ่ ๆ เป๊ะ ๆ ข้อดีคือมันจับถนัดมือมาก ใส่แบตเตอรี่ที่ใหญ่กว่าเดิมได้ ทำให้ถ่ายงานได้ยาวนานโดยไม่ต้องกังวลเรื่องเปลี่ยนแบตบ่อย
จุดที่ทำให้ Canon อาจจะทิ้งห่างคู่แข่งได้ในส่วนนี้ คือการใช้แมกนีเซียมอัลลอยหรือวัสดุผสมเฉพาะทางที่มีความเบาแต่ทนทาน มีซีลป้องกันละอองน้ำและฝุ่นที่แน่นหนา และยังคงใส่ปุ่มควบคุมต่าง ๆ ได้ครบถ้วนสำหรับมือโปรซึ่งใช้โหมด Manual หรือโหมดขั้นสูงบ่อย ๆ
5. ช่องมองภาพ (EVF) และจอแสดงผล
ช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ (EVF) ก็เป็นอีกเรื่องที่หลายคนคาดหวังในกล้องเรือธงรุ่นใหม่ของ Canon เพราะใน EOS R3 เองก็มี EVF แบบความละเอียดสูงและค่า Refresh Rate ที่เร็วใช้ได้เลย บางกระแสคาดว่า R1 อาจจะมาพร้อม EVF ความละเอียดสูงถึง 9 ล้านจุด หรืออาจจะใกล้เคียงกัน เพื่อให้มองเห็นภาพชัดเจน สมจริง ไม่หน่วง ส่วนจอด้านหลังน่าจะมาพร้อมระบบสัมผัสที่ลื่นไหล บานพับปรับมุมได้อย่างอิสระ จะถ่ายวิดีโอหรือจะ Vlog ก็ยืดหยุ่นขึ้น ที่สำคัญ คนทำงานมืออาชีพก็อยากได้จอที่แสดงสีตรงใกล้เคียง 100% SRGB หรือ AdobeRGB เพื่อความแม่นยำในการตรวจสอบภาพ
6. การ์ดความจำและการเชื่อมต่อขั้นเทพ
กล้องรุ่นโปรยุคนี้ก็มักจะต้องรองรับการ์ดความเร็วสูงอย่าง CFexpress Type B หรือ SD UHS-II เป็นอย่างน้อย เพื่อรองรับการถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูงและการถ่ายวิดีโอ 8K โดยไม่เกิดคอขวด แถมช่องการ์ดน่าจะให้มาอย่างน้อยสองช่องเพื่อความปลอดภัยในการบันทึก (เช่น ถ่ายซ้ำ ๆ กันสองการ์ด เผื่อการ์ดใบหนึ่งเสียก็ยังมีอีกใบ)
ส่วนเรื่องการเชื่อมต่อก็ไม่น้อยหน้าอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อ Wi-Fi และ Bluetooth ความเร็วสูง เพื่อส่งรูปไปยังสมาร์ตโฟนหรือคอมพิวเตอร์ได้โดยตรง รวมถึงพอร์ต Ethernet สำหรับสายสปอร์ตที่ต้องส่งภาพหน้างานแบบเรียลไทม์ไปยังห้องสื่อสาร หรือสำนักข่าว ซึ่ง Canon ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วในรุ่นก่อน ๆ ว่าสายถ่ายภาพกีฬาจะได้งานทันใจแน่นอน
7. แบตเตอรี่และอายุการใช้งาน
การทำงานระดับโปรที่บางทีต้องถ่ายภาพต่อเนื่องเป็นพัน ๆ รูปแบบไม่หยุดพัก หรือถ่ายวิดีโอยาว ๆ คุณสมบัติแบตเตอรี่ที่อึดถึกเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง ซึ่ง Canon EOS R1 ก็น่าจะใช้แบตเตอรี่รุ่นใหม่ หรืออาจจะเป็นรุ่นปรับปรุงที่เข้ากันได้กับแบตเตอรี่ LP-E19 (เหมือนในซีรีส์ 1D) หรือ LP-E20 รุ่นใหม่ ๆ ที่มีความจุมากขึ้น โดยตัวกริปในบอดี้เองก็จะทำให้ใส่แบตได้ใหญ่กว่า และอาจจะใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมอย่างที่ชาร์จเร็ว หรือแบตเตอรี่ก้อนพิเศษ
8. ราคาแรงสมกับเป็นเรือธง
ประเด็นที่หลายคนอาจจะลุ้นกันแล้วก็เตรียมใจไว้ก่อน คือเรื่อง ราคา เพราะถ้าดูจากรุ่นโปรก่อนหน้าอย่าง 1D Series ก็มักจะมีราคาที่เอื้อมยากสำหรับคนงบน้อยอยู่แล้ว ประกอบกับความสามารถที่อัปเกรดมโหฬารของ Canon EOS R1 จึงมีความเป็นไปได้ว่าราคาจะสูงเกินหลักแสนบาท (หรือหลายแสนบาท) กันเลยทีเดียว เพราะแค่ EOS R3 เปิดตัวมาก็สูงเอาเรื่องแล้ว นี่เป็น R1 ซึ่งเป็นรุ่นแฟลกชิปเหนือกว่าอีก
ผู้ที่จะลงทุนซื้อก็คงเป็นช่างภาพมืออาชีพระดับท็อป หรือองค์กรสื่อใหญ่ ๆ ที่ต้องการความเร็ว ความทนทาน และฟีเจอร์อันเหลือล้นเพื่อไม่ให้พลาดช็อตสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นกีฬา, สารคดีธรรมชาติ, หรือการถ่ายหนังระดับมือโปร
9. เหมาะกับใคร?
- ช่างภาพสายกีฬา / แอ็กชัน: เพราะความเร็วที่โคตรสุด อัดภาพรัวแบบไม่มีกั๊ก แถมโฟกัสก็แม่นยำ จับทุกจังหวะเคลื่อนไหว
- ช่างภาพสายธรรมชาติ / สารคดีสัตว์ป่า: ความละเอียดสูง บวกกับการโฟกัสที่จับนก สัตว์ป่า หรือวัตถุเล็ก ๆ ที่เคลื่อนที่เร็วได้ง่ายขึ้น
- ช่างภาพแฟชั่น / สตูดิโอ: เซนเซอร์ความละเอียดสูง บวกกับไฟล์ภาพคุณภาพเยี่ยม ให้รายละเอียดและสีที่เหลือเชื่อ เหมาะแก่การทำงานปรินต์ใหญ่หรือรีทัชละเอียด
- วิดีโอโปรดักชัน: 8K RAW หรือ 8K 60p (หรือยิ่งกว่านั้น) ทำให้ได้ไฟล์วิดีโอคุณภาพสูงสุด เหมาะกับงานระดับภาพยนตร์หรือโฆษณา
- คนที่มีกำลังทรัพย์: เพราะราคานั้นไม่เบาเลยจริง ๆ
10. สรุป
ถ้าให้นิยาม Canon EOS R1 สั้น ๆ เลยก็คือ “เรือธงตัวท็อปของ Canon ในยุคมิเรอร์เลส” ที่ผสานจุดแข็งของ DSLR ซีรีส์ 1D เข้ากับนวัตกรรมใหม่ ๆ ของมิเรอร์เลส เพิ่มความเร็ว ความละเอียด และฟีเจอร์ด้านวิดีโอเข้าไปแบบจัดเต็ม เพื่อเจาะกลุ่มตลาดมือโปรที่ต้องการกล้องถึก ทน เร็ว และไฟล์คุณภาพเหนือชั้น แม้ราคาจะแรงพอสมควร แต่ถ้ามองในมุมของคนที่ใช้กล้องเป็นเครื่องมือทำมาหากิน จับโมเมนต์ไม่พลาดสักช็อต รายได้ที่ตามมาก็อาจคุ้มค่าการลงทุน
สุดท้ายนี้ ใครที่กำลังรอดู Canon EOS R1 ตัวเป็น ๆ ก็อาจจะต้องอดใจรอนิดนึง กำหนดเปิดตัวหรือวางขายอย่างเป็นทางการยังไม่ชัวร์ 100% อาจต้องรอประกาศจาก Canon อย่างเป็นทางการอีกที แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าตอนนี้กระแสตื่นเต้นและความคาดหวังมันสูงมากจริง ๆ ถ้าเปิดตัวมาแล้วทำได้ดีสมราคา เชื่อเลยว่าช่างภาพมือโปรหลายคนพร้อมเปย์แน่นอน ส่วนใครสายอุปกรณ์ก็อาจจะต้องรอลุ้นว่าราคาเข้ามาไทยจะโดดไปถึงขนาดไหน เตรียมเก็บเงินหรือหายใจลึก ๆ เอาไว้ได้เลย!