บอกตรง ๆ เลยว่าในปี 2024 นี้ ใครที่คิดว่า PlayStation 5 รุ่นแรกที่ออกมาในช่วงปี 2020 ว่าใหญ่เทอะทะไปนิด ตอนนี้ถึงคราวต้องเปลี่ยนความคิดกันใหม่ เพราะ PlayStation 5 (2024) รุ่นนี้ มันเล็กลงแบบเห็นได้ชัด แต่ที่พีคคือเกมมันดันเพิ่มขึ้นเป็นกอง ไม่ว่าจะเป็นสายเล่นเกมฮาร์ดคอร์ สายเนื้อเรื่อง หรือสายเล่นชิล ๆ ก็มีให้เลือกเยอะจนแทบหาเวลาเล่นไม่ไหว
ขนาดเล็กลง แต่โหดขึ้น?
แน่นอนว่าการทำเครื่องให้เล็กลงไม่ได้หมายความว่ากำลังภายในลดลงด้วย แบรนด์ “PlayStation 5” นี่ไว้ใจได้เรื่องพลังขับเคลื่อนกราฟิกและประสิทธิภาพการประมวลผล ตัวเครื่องรุ่นใหม่ที่หลายคนเรียกว่า PS5 Slim (แม้โซนี่อาจไม่ใช้ชื่อนี้ออกหน้าออกตานัก) มาพร้อมกับงานดีไซน์ที่เรียบหรูและกินพื้นที่น้อยกว่าเดิม วางไว้ใต้ทีวีหรือบนชั้นวางแบบคูล ๆ ได้ไม่เกะกะสายตา ที่สำคัญคือเสียงพัดลมนี่เงียบจนแทบไม่ได้ยิน ลืมเสียงเครื่องดูดฝุ่นรุ่นเก่าไปได้เลย
ตัวงานประกอบก็ดูแน่นหนาขึ้น แม้จะใช้วัสดุพลาสติกที่เบาขึ้น แต่จับดูแล้วไม่ก๊องแก๊งเหมือนของเล่น แน่นอนว่าเรื่องสเปกภายในยังคงไว้ที่มาตรฐานเดิมที่แรงพอตัว เล่นเกม 4K HDR ก็ยังลื่น ๆ FPS ไม่ดรอปง่าย ๆ แถมการโหลดเกมผ่าน SSD ภายในก็ยังไวจี๋เหมือนเคย ถึงแม้จะไม่ใช่การอัปเกรดสเปกครั้งใหญ่ แต่แค่การทำเครื่องให้เบาและเล็กลง มันก็เปลี่ยนบรรยากาศในการตั้งวางเครื่องไปเยอะแล้ว
คลังเกมล้นทะลัก เล่นกันข้ามปี
บอกเลยว่าขุมพลังที่แท้จริงของ PlayStation 5 ในปี 2024 ไม่ได้อยู่แค่ที่ฮาร์ดแวร์ แต่มันอยู่ที่ไลบรารีเกมที่ใหญ่โตมโหฬารจนงงว่าจะเริ่มเล่นจากตรงไหนดี เพราะปี 2020-2024 มีเกมเทพ ๆ ทยอยลงมารัว ๆ จนตอนนี้แค่เหลือบมองไปที่ PlayStation Store หรือแผงขายแผ่นเกมก็ต้องร้องอู้หู
ตั้งแต่เกมเอ็กซ์คลูซีฟอย่าง Marvel’s Spider-Man 2, God of War Ragnarok, Horizon Forbidden West, ไปจนถึงเกมที่เคยคิดว่าเล่นใน PC ดีกว่าอย่าง Final Fantasy XVI, Baldur’s Gate 3, และ Elden Ring ตอนนี้บน PlayStation 5 ก็จัดมาให้ครบ บางเกมมีการรีมาสเตอร์ แถมยังมีโหมด 60 FPS หรือ Ray Tracing ที่ทำให้ภาพสวยคมกริบเหมือนดูหนัง CG แบบไม่มีสะดุด
นอกจากนี้ยังมีเกมภาคต่อสารพัดที่ทยอยเสริมทัพขึ้นมา ทั้งเกมต่อสู้สายแข่งขันระดับโลกอย่าง Street Fighter 6, Tekken 8 (ที่น่าจะมาในปีนี้), หรือเกมชูตติ้งเนื้อเรื่องเข้ม ๆ อย่าง Returnal, Deathloop, และ Resident Evil 4 Remake ที่กลับมาแบบอลังการงานสร้าง โดยรวมแล้วไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนเกมแนวไหน ก็มีของให้ลองจนตาลาย
ประสบการณ์ผู้ใช้ที่ดีขึ้น
นอกจากตัวเครื่องจะเล็กลง พอร์ตเชื่อมต่อต่าง ๆ ก็จัดเรียงให้ใช้งานสะดวกขึ้น ถ้าเทียบกับรุ่นดั้งเดิม ช่องเสียบ USB ด้านหน้าก็ยังมีให้ ส่วนด้านหลังมีช่องต่อ LAN และ HDMI ที่วางไว้แบบไม่งอแง บางคนอาจมองว่าก็เหมือนเดิมแหละ แต่ความรู้สึกโดยรวมคือ Sony พยายามทำให้ทุกอย่างมันสบายตาและใช้งานง่ายขึ้น
UI (User Interface) ของ PlayStation 5 ณ ปี 2024 ก็มีอัปเดตเฟิร์มแวร์หลายครั้ง ทำให้เลื่อนหาเกมได้เร็วขึ้น เข้าถึงเมนูต่าง ๆ ง่ายกว่าเดิม การเชื่อมต่อ DualSense Controller ก็เสถียรกว่าแต่ก่อนมาก ไม่ต้องมานั่งหงุดหงิดกับการหลุดหรือรีเซ็ตคอนโทรลเลอร์ นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงระบบ Quick Resume หรือเมนูสลับเกมในแบบของ PlayStation ให้ใช้งานคล่องมือขึ้นเล็กน้อย แต่ยังไม่ถึงขั้นเทียบกับแนวคิด Quick Resume ของ Xbox Series X|S ได้เต็มปาก อย่างไรก็ตาม เดี๋ยวนี้โลกเกมคอนโซลก็เน้นออนไลน์ และ PS5 รุ่นนี้ก็เชื่อมต่อ Wi-Fi หรือ LAN ได้เสถียรกว่าเดิม
DualSense ที่ยังแจ่มเหมือนเคย
จุดเด่นอีกอย่างคือคอนโทรลเลอร์ DualSense ที่ยังเป็นตัวสร้างเอกลักษณ์ให้ PS5 โดยการสั่นแบบ Haptic Feedback และ Adaptive Trigger ทำให้เกมแต่ละเกมมีฟีลลิ่งการเล่นที่แตกต่างกันออกไป เช่น เวลาดึงคันธนูในเกมผจญภัยมันจะมีแรงหน่วงปลายนิ้วมือ หรือเวลายิงปืนในเกมยิงซอมบี้จะรู้สึกได้ถึงแรงถีบ แม้จะผ่านมา 4 ปี DualSense ก็ยังไม่ใช่ของเล่นเก่า เพราะนักพัฒนาเกมหลายเจ้าก็เริ่มเข้าใจและนำฟีเจอร์พวกนี้มาใช้กันมากขึ้น
บริการ Subscription ที่คุ้มเว่อร์
PlayStation Plus ในยุคนี้พัฒนาไปไกลกว่าเดิม มีแพ็กเกจหลายระดับให้เลือก ถ้าคุณสมัครระดับ Extra หรือ Premium ก็จะได้เข้าถึงคลังเกมขนาดใหญ่ ที่มีตั้งแต่เกมอินดี้ชิค ๆ ไปจนถึงเกม AAA บางเกมก็ให้เล่นได้ฟรี (อาจจะมีเงื่อนไขเวลา) นอกจากนี้ยังมีบริการสตรีมเกมผ่านระบบคลาวด์ในบางแพ็กเกจ ทำให้สามารถเล่นเกมบางเกมได้โดยไม่ต้องดาวน์โหลด (แต่เน็ตต้องแรงนิดนึงนะ) สำหรับคนที่เพิ่งเข้าวงการปีนี้คือสบาย เพราะไม่ต้องมานั่งงมเลือกซื้อเกมเป็นแผ่น ๆ เหมือนสมัยก่อน
เทคโนโลยีภาพและเสียงที่ยังน่าเหลียวหลัง
ความสามารถในการแสดงผล 4K HDR ที่ลื่น และรองรับอัตราการรีเฟรชที่สูงขึ้นในบางเกม ยังทำให้ PlayStation 5 ดูทันสมัยไม่ตกยุค ถึงแม้จะมีทีวีระดับ 8K เริ่มเข้ามาในตลาด แต่เกมที่รองรับ 8K แทบยังไม่มี ดังนั้นการมี 4K ที่นิ่ง ๆ สวย ๆ ก็เพียงพอ และ HDR ที่ปรับปรุงแล้ว ทำให้สีสันภาพในเกมบางเกมสมจริงจนเหมือนหลุดเข้าไปในโลกแฟนตาซี
ด้านเสียงก็รองรับระบบ Tempest 3D Audio ที่ช่วยสร้างมิติเสียงรอบทิศทางสำหรับคนที่ใส่หูฟัง รองรับหูฟังหลากหลายแบบ บางเกมก็ออกแบบเสียงมาเพื่อระบบนี้โดยเฉพาะ ทำให้การฟังเสียงฝีเท้าศัตรูหรือเสียงสิ่งแวดล้อมเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งในการชิงความได้เปรียบในการเล่น (โดยเฉพาะสายมัลติเพลเยอร์)
รองรับเกมเก่าเพื่อโอกาสใหม่ ๆ ในการเล่น
Backwards Compatibility ของ PlayStation 5 (2024) กับเกม PS4 ยังคงแข็งแกร่ง ใครที่สะสมเกม PS4 ไว้เป็นกอง ไม่ต้องห่วง เล่นได้ต่อเนื่อง ยิ่งไปกว่านั้น บางเกม PS4 ที่เอามาเล่นบน PS5 อาจจะได้เฟรมเรตที่สูงขึ้น และเวลาโหลดที่สั้นลง เหมือนกับการอัปเกรดเกมเก่าให้เหมือนเป็นเกมใหม่ ซึ่งทำให้คลังเกมที่คุณมีอยู่แล้วเต็มไปด้วยมูลค่าที่เพิ่มขึ้นอีกระดับ
สรุปความรู้สึกแบบบ้าน ๆ
PS5 (2024) คือตัวเลือกที่คุ้มค่าสุด ๆ สำหรับคนที่รักการเล่นเกมคอนโซล ไม่ว่าจะเพิ่งเข้าสู่วงการหรือเป็นแฟนบอย Sony มานานแล้ว การที่เครื่องเล็กลงทำให้การจัดวางง่ายขึ้น สวยงามขึ้น ไม่ต้องหาที่แอบซ่อนเหมือนรุ่นแรก ๆ ส่วนตัวเกมก็มีให้เลือกเล่นเยอะจนไม่น่าเบื่อ ซัพพอร์ตตั้งแต่เกมใหม่แกะกล่องยันเกมเก่าที่อัปสเปกขึ้นมา
พูดง่าย ๆ คือ PlayStation 5 ณ ตอนนี้มันบรรลุความเป็น “คอนโซลสุดเจ๋ง” ในแบบของมันเอง มองข้ามเรื่องขนาดไป สิ่งที่คุณจะได้คือประสบการณ์การเล่นเกมที่สมบูรณ์แบบในยุคนี้ จากภาพสวยเฉียบ เนื้อหาของเกมที่หลากหลาย คอนโทรลเลอร์ที่ล้ำสมัย บริการออนไลน์ที่ครบเครื่อง และการสนับสนุนเกมเก่าที่ยืดอายุการเล่นเกมไปอีกนาน
ถ้าคุณกำลังชั่งใจว่าจะซื้อ PS5 ตอนนี้ดีไหม ก็ตอบแบบไม่ต้องคิดมาก: จัดไปเถอะ! เพราะในปี 2024 นี้ มันเล็กกว่าเดิม โหดกว่าเดิม (ในแง่ของคลังเกม) และพร้อมจะมอบความสนุกให้คุณได้ไม่รู้จบ ลุยเลย!