สำหรับโลกของการโฆษณาออนไลน์ที่เป็น Advertising Networks นั้น อาจจะเรียกกันว่า Programmatic ไม่ก็เรียกว่าเป็น Real-Time Bidding ถ้าเรียกย่อๆก็ RTB นั้นเอง
แต่ในอุตสาหกรรมนี้มีรูปแบบการแสดงโฆษณาหลายแบบ แม้ว่าจะมีการใช้งาน RTB อย่างแพร่หลายแล้วก็ยังมีความต้องการมุมอื่นๆที่ต้องการอยู่เช่นกัน ความไม่เท่าเทียบของการ Display Banner และการกำหนดให้ Advertiser เจ้าใดเจ้าหนึ่งมาแสดงในตำแหน่งที่กำหนดเท่านั้นก็เปนกรณีที่อาจจะเกิดขึ้นเสมอๆ กรณีเช่นนี้มีการขยายการใช้งานที่ถูกแบ่งออกไปเป็นประเภทต่างๆ ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 6 ประเภทดังนี้
Open Marketplace RTB
แบบแรกเลยที่เปิดแบบทั่วไปที่ใช้งาน Real-time bidding (RTB) ทำงานแบบปกติ ลักษณะการทำงานตรงนี้ก็เป็นการประมวลผลและเกิดขึ้นอัตโนมัติทั้งฝั่งซื้อซื้อและฝั่งที่เสนอขาย คล้ายๆการประมูลราคากันซื้อในตลาดนั้นเหละ ถ้ามีความต้องการในตำแหน่งโฆษณานั้นสูงก็ต้องสู้ราคากันในตลาดนั้นเอง
Private Marketplace (PMP)
เป็นตลาดเฉพาะกลุ่มที่อนุญาตให้เข้าถึงเท่านั้น โดยการเข้าถึงจะต้องมีคำเชิญจากคู่ค้าที่ตกลงกันไว้เรียบร้อยแล้วซึ่ง Publishers สามารถกำหนดราคาหรือเงื่อนไขอื่นๆได้เอง ฝั่งที่เป็น Advertiser ก็เช่นกันสามารถกำหนด Inventory ที่ต้องการได้ตามที่ตกลงไว้กับ Publishers เช่นกัน วิธีการนี้ก็จะมีความยุ่งยากเกี่ยวกับการคำนวณผลจากการโฆษณาที่เกิดขึ้น อาจจะมีค่าใช้จ่ายสูงหรือต้องเสียค่า Platfrom ต่างๆสำหรับใช้งาน
Private Marketplace Guaranteed (PMPG)
ลักษณะของการใช้งานเหมือนกับ PMP แบบปกติ แต่แตกต่างกันตรงที่มีข้อตกลงเพิ่มขึ้นในส่วนที่เป็นการรับประกันสำหรับกลุ่มเป้าหมายที่แสดงสำหรับ Publishers เช่น จะแสดง Banner ไปยังผู้เข้าชมเว็บไซต์จำนวน 5 ล้านครั้ง หรือในทางกลับกันในส่วน Advertiser ก็มีการตกลงจำนวณเงินไว้ที่จะจ่ายเงินแบบแน่นอนในแต่ละรอบบิล เช่น จ่ายเงินให้ Publishers ในราคา 5 ล้านบาททุกเดือน เป็นต้น
Automated Guaranteed (AG)
ลักษณะคล้ายกับ Open RTB แต่มีการรับประกัน Inventory ที่ใช้งานได้ครบตามจำนวนที่ทาง Advertiser ซื้อมา ส่วนราคาที่ได้รับผลตอบแทนก็จะได้ราคาที่ได้ตกลงไว้อย่างแน่ชัด เช่น การตกลงราคาไว้สำหรับตำแหน่งที่แสดงโฆษณาที่กำหนด แต่ทั้งหมดทั้งมวลแล้วจะผ่านระบบ Bidding และแสดงผลแบบ Real Time
Automated Performance (AP)
เป็นระบบอัตโนมัติที่มี Workflow คล้ายกับ AG แต่ลักษณะการประกันที่เกิดขึ้นจะเป็นการแสดงผลในมุมประสิทธิภาพของ Campaigns ของโฆษณานั้นๆ โดยตัวชี้วัดประสิทธิภาพที่ใช้กันก็จะเป็นราคาต่อคลิก cost-per-click (CPC) หรือราคาต่อการติดตั้ง cost-per-install (CPI)
Spot Buying
ธุรกรรมแบบรูปแบบนี้ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมที่มีการแลกเปลี่ยนด้วยการซื้อขายล่วงหน้าจากการกำหนดราคาก็ตาม หรือกำหนดช่วงเวลาก็ด้วย (โดยอาจจะตกลงกันที่ CPM หรือ CPC ก็ได้ มุมอื่นๆก็ได้) โดยทั่วไปวิธีนี้จะมีมูลค่าของราคาที่สูงกว่าราคาประเมินที่เกิดขึ้นจริงตาม Ad Server คำนวณไว้ การเปิดตลาดหรือธุรกรรมนี้เป็นแบบ PMP ที่มีข้อตกลงแบบคาดการผลมาจากความต้องการของ Advertiser สำหรับข้อเสนอที่ต่างๆตามการคาดการณ์ที่เกิดขึ้นภายในข้อตกลงและการแลกเปลี่ยนนั้นเอง