เพิ่งจะผ่านเดือนแห่งวัน ตรุษจีนเลย อยากจะเขียนเกี่ยวกับละครจีน สามก๊ก
ได้ดูสามก๊กตอนที่กวนสิ้นชีพในสนามรบ ทำให้คิดถึงคำกล่าวที่ว่า งานหนักไม่เคยทำให้ใครตาย ผู้เขียนคิดว่า คำกล่าวนี้ไม่เป็นความจริงเสมอไป
เนื้อหาในละครตอนนี้ แสดงให้เห็นว่า กวนอูเป็นแม่ทัพที่ขยันจนเกินเหตุ และหยิ่งทะนงหลงตัวเอง
ว่าตัวเองเก่งเกินใครๆ ทำให้เสียชีวิต และเสียเมืองเกงจิ๋วในที่สุด
ตอนที่กวนอูไปรบกับโจโฉ ที่เมืองฟ่านเฉิน แล้วถูกธนูของบังเต็ก แม่ทัพฝ่ายวุยก๊กทำร้ายบาดเจ็บ
กุนซือ ม้าเหลียงก็เตือนกวนอูอยู่หลายครั้งว่า ควรจะกลับไปรักษาเมืองเกงจิ๋วก่อน ค่อยกลับมาทำศึกที่ฟ่านเฉินใหม่ เพราะถ้าทิ้งเกงจิ๋ว มาแบบนี้โดยที่ไม่มีใครอยู่รักษาความปลอดภัย ทางฝ่าย
ง่อก๊กอาจแอบเข้ามายึดเมืองเกงจิ๋วได้
อีกทั้งหมอฮัวโต๋ ที่รักษาผ่าตัดแผลให้ กวนอูก็แนะนำว่า ตอนนี้ยังบาดเจ็บอยู่ ควรกลับไปพักรักษาตัวที่เมืองเกงจิ๋วก่อน อย่าเพิ่งรีบออกรบในตอนนี้ แต่กวนอูก็ไม่ฟัง จนหมอฮัวโต๋บอกกับม้สเหลียงว่า กวนอูเก่งและอดทนระดับเทพ จนเป็นตำนานที่สามารถทนการผ่าตัดกรีดแผลสดๆ ได้โดยไม่แสดงอาการเจ็บปวดสักนิด ทั้งยังสามารถเล่นหมากรุกขนาดผ่าตัดได้ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แต่กวนอูมีข้อเสียคือ หยิ่งทนงเกินเหตุ ขยันแต่จะออกรบ โดยที่ไม่คำนึงถึงความสามารถของตัวเอง
จนในที่สุดเพราะความประมาท ก็ทำให้ลิบอง แอบเข้ามายึดเกงจิ๋วได้ในที่สุด และกวนอูก็ต้องฆ่าตัวตาย ในขณะที่กำลังหลบหนี
ถึงได้มีคำกล่าวว่า คนโง่ที่ขยันแบบโง่ๆ แล้วยังหยิ่งยะโส คิดว่าตนฉลาด ย่อมนำความพินาศมาสู่องค์กร
ถ้าขยันก็ควรขยันให้ถูกทาง ในเรื่องนี้ ถ้ากวนอูขยันในการ ที่จะผูกมิตรกับฝ่ายซุนกวน ไม่เหยียดหยามฝ่ายซุนกวนว่า จะให้ลูกตนเองแต่งงานกับลูกของซุนกวนได้ยังไง ลูกเสือย่อมไม่แต่งงานกับลูกสุนัข ไม่คิดว่า ในโลกนี้ด่านที่ฝ่ายากที่สุดคือ การมีน้ำใจให้ศตรู
ฝ่ายกวนอูก็อาจจะได้ มีมิตรคอยช่วยเหลือ ไม่ต้องพบจุดจบอย่าง น่าเศร้าแบบนี้
ผู้อ่านสามารถรับชมสามก๊กตอนกวนอูสิ้นชีพ ได้ที่ลิงค์