เมื่อวันที่ 16 ต.ค. บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด รายงานว่า หลังการประมูลใบอนุญาต 3G บนคลื่นความถี่ 2.1 GHz ผู้ประกอบการที่ได้รับใบอนุญาต โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาด้านคุณภาพการให้บริการสื่อสารข้อมูลบนระบบ 3G บนคลื่นความถี่เดิม น่าจะเร่งขยายโครงข่ายและทยอยเปิดให้บริการตามเขตพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และหัวเมืองใหญ่ก่อนในช่วงราวปลายไตรมาส 1 ของปี 2556 พร้อมทั้งออกโปรโมชั่นการตลาดเพื่อเร่งโอนย้ายลูกค้าจากระบบสัมปทาน 2G เดิมไปสู่ระบบใบอนุญาต 3G ซึ่งมีต้นทุนการแบ่งจ่ายรายได้รายปีที่ต่ำกว่า สำหรับแนวโน้มเชิงธุรกิจที่สำคัญหลังการเปิดให้บริการ 3G บนคลื่นความถี่ 2.1 GHz คาดว่า ผู้ให้บริการคอนเทนต์มีแนวโน้มที่จะเข้ามาพัฒนาบริการใหม่ๆ บนช่องทางการสื่อสารไร้สาย เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ ที่ต้องการบริโภคเนื้อหาในลักษณะออนไลน์มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การเปิดให้บริการ 3G บนคลื่นความถี่ 2.1 GHz ยังมีส่วนช่วยผลักดันให้เกิดเม็ดเงินลงทุนในธุรกิจวางโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมราว 125,000 ล้านบาท ในระยะเวลา 3 ปี และยังน่าจะก่อให้เกิดกระแสการเปลี่ยนโทรศัพท์เคลื่อนที่ของผู้บริโภคเพื่อใช้งานบริการ 3G ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า บริการด้านข้อมูลจะยังคงเป็นตัวนำในการเติบโตของธุรกิจบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในปี 2556 โดยคิดเป็นสัดส่วนถึงราวร้อยละ 32.5 ของมูลค่าตลาดรวม เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 25.8 ในปี 2555 และมีอัตราเติบโตประมาณร้อยละ 35.6-44.0 โดยจะมีมูลค่า 66,000-70,000 ล้านบาท และผลักดันให้ตลาดบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่โดยรวมในปี 2556 มีอัตราเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 11.5-14.2 โดยมีมูลค่าตลาดรวม 210,000-214,900 ล้านบาท เทียบกับ 188,300 ล้านบาทในปี 2555.