สวัสดีคอไอทีทุกคน วันนี้เรามีข่าวสำคัญจะแจ้งให้ทราบว่า ล่าสุดสตาร์ทอัปสหรัฐฯ ส่งเทคโนโลยี AI จดจำใบหน้า ให้ยูเครน เพื่อตรวจสอบบุคคล และระบุตัวตนผู้เสียชีวิตแล้ว ซึ่งรายละเอียดเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร เรามาติดตามกันเลย
สรุปข้อมูลและรายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ ได้ดังนี้
- ล่าสุดสำนักข่าว Reuters ได้ระบุว่า กระทรวงกลาโหมของยูเครน เริ่มใช้เทคโนโลยี AI จดจำใบหน้าของ Clearview AI สตาร์ตอัปสัญชาติอเมริกัน ที่เสนอให้ใช้ฟรี เพื่อเปิดเผยตัวตนผู้ปฏิบัติการชาวรัสเซีย, ต่อต้านข้อมูลที่ผิด ๆ และระบุตัวตนผู้เสียชีวิต
- โดยจุดเริ่มต้นของการนำเทคโนโลยีมาใช้ในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากรัสเซียบุกโจมตียูเครน ซึ่ง Hoan Ton-That ที่เป็น CEO และผู้ก่อตั้ง Clearview AI ได้ส่งจดหมายถึงยูเครน เพื่อแสดงความช่วยเหลือ ด้วยการให้เทคโนโลยีของทางบริษัทไปใช้
- ทาง Hoan Ton-That บอกว่า เทคโนโลยี AI จดจำใบหน้าของเขา มีรูปภาพมากกว่า 2,000 ล้านภาพที่ได้จาก VKontakte โซเชียลมีเดียของรัสเซีย เพื่อระบุตัวตนชาวรัสเซีย จากฐานข้อมูลทั้งหมดกว่า 10,000 ล้านภาพที่มีอยู่
- ซึ่งด้วยฐานข้อมูลจำนวนมากนี้ จะช่วยให้ยูเครนสามารถระบุชาวรัสเซียผู้เสียชีวิตได้ง่ายกว่าการตรวจสอบลายนิ้วมือ รวมถึงเทคโนโลยี AI จดจำใบหน้านี้ ยังสามารถทำงานได้ แม้ว่าผู้เสียชีวิตจะมีความเสียหายบนใบหน้าก็ตาม
- นอกจากนี้ Hoan Ton-That ยังบอกว่า เทคโนโลยีนี้ ยังสามารถนำมาใช้เพื่อพาผู้ลี้ภัยที่ถูกแยกออกจากครอบครัวให้กลับมารวมตัวกันได้, ระบุตัวตนผู้ปฏิบัติการชาวรัสเซีย และช่วยรัฐบาลยูเครนต่อต้านข้อมูลผิด ๆ ได้ด้วย
- อย่างไรก็ดี Clearview AI ไม่ได้เสนอเทคโนโลยีดังกล่าวให้กับฝั่งรัสเซีย และเรียกการกระทำของตัวเองที่ช่วยเหลือยูเครนว่า เป็น “ปฏิบัติการพิเศษ”
- ขณะที่ทางกระทรวงกลาโหมของยูเครน ไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้ โดยก่อนหน้านี้ มีเพียงโฆษกของกระทรวงดิจิทัลของยูเครน ที่ออกมากล่าวว่า ยูเครนกำลังพิจารณาข้อเสนอจากบริษัท Clearview AI รวมถึงบริษัทฝั่งตะวันตกจำนวนมาก ที่ให้คำมั่นว่าจะช่วยเหลือยูเครนด้วยการจัดหาอินเทอร์เน็ต, เครื่องมือรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ และการสนับสนุนอื่น ๆ
- ซึ่งนอกจากยูเครนจะนำเทคโนโลยี AI จดจำใบหน้า มาใช้กับกระทรวงกลาโหมแล้ว ก็คาดว่าจะนำมาใช้กับหน่วยงานอื่น ๆ ของรัฐบาลด้วยในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
- อย่างไรก็ดี นักวิจารณ์บางคนมองว่า การใช้เทคโนโลยี AI จดจำใบหน้า อาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดความผิดพลาด และนำไปสู่การสูญเสียของชีวิตพลเรือน รวมถึงการจับกุมที่ไม่ธรรมด้วย
- ซึ่ง Hoan Ton-That ระบุว่า เทคโนโลยีของ Clearview AI ไม่ควรถูกใช้เป็นแหล่งระบุตัวตนตัวเพียงแหล่งเดียว และเขาไม่ได้ต้องการใช้เทคโนโลยีนี้ เพื่อละเมิดอนุสัญญาเจนีวา ที่ว่าด้วยเรื่องกฎเกณฑ์ในการปฏิบัติระหว่างสงคราม
- ที่ผ่านมา Clearview AI ขายเทคโนโลยีให้กับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของสหรัฐฯ เป็นหลัก โดยปัจจุบัน อยู่ระหว่างการต่อสู่คดีความในสหรัฐฯ ในข้อกล่าวหาละเมิดความเป็นส่วนตัวจากการดึงข้อมูลภาพถ่ายบนเว็บไซต์
ซึ่งทาง Clearview AI ยืนยันว่า การรวบรวมข้อมูลนั้น คล้ายกับวิธีการทำงานในการค้นหาของ Googleขณะที่หลายๆ ประเทศ รวมถึงสหราชอาณาจักร และออสเตรเลีย ยังถือว่าเป็นการปฏิบัติที่ผิดกฎหมาย