สวัสดีเพื่อนๆ ชาว ไอทีเมามันส์ ทุกคน พบกันเป็นประจำเช่นเคยกับการอัพเดทสรุปการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษคู่ที่น่าสนใจ สำหรับครั้งนี้ก็เป็นคู่แดงเดือดระหว่าง สเปอร์-ลิเวอร์พูล ในค่ำคืนวันที่ 28 มกราคม 2021 ที่ผ่านมา ซึ่งก็เป็นทางลิเวอร์พูลผู้มาเยือนที่สามารถบุกมายำสเปอร์เละคาถิ่นไปด้วยสกอร์ 1-3 ซึ่งรายละเอียดการแข่งขันจะเป็นอย่างไร ตามมาดูกันเลยที่สรุปด้านล่างนี้
สรุปการแข่งขันระหว่าง สเปอร์-ลิเวอร์พูล: 1-3 ในค่ำคืนวันที่ 28 มกราคม 2021 ได้ดังนี้
- “ไก่เดือยทอง” สเปอร์ ระยะหลังเหนียวแน่นแพ้ยาก ต้องการขยับอันดับขึ้นไปด้านบนมากขึ้น และนัดนี้ก็สบโอกาสดี เพราะทีมอันดับเหนือพวกเขาอันดับเดียวอย่าง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล มาเยือนด้วยฟอร์มสะดุดอย่างแรง ไม่ชนะในลีกมา 5 นัดติด แถมยิงไม่ได้ 4 นัดหลัง
- เริ่มเกมมายังไม่เต็ม 2 นาที บอลยาวของทีมเยือน “ซาดิโอ มาเน่” พักคืนมาให้ “โม ซาล่าห์” แล้วดาวเตะอียิปต์แทงทะลุต่อให้มาเน่หลุดเข้าไปยิงด้วยซ้าย แต่ดันโดนบอลไม่ดีหลุดเสาไปอย่างน่าเสียดาย
- ถัดไปอีกอึดใจ สเปอร์มาส่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย เมื่อ “ซน ฮึง มิน” รับบอลแทงตรงกลางมา แล้วแปะคืนให้คู่หู “แฮร์รี เคน” จากนั้นเคนดึงจังหวะแทงทะลุแนวรับของหงส์แดงให้ซนหลุดเข้าไปยิงผ่าน “อลิสซง เบ็คเกอร์” ตุงตาข่ายเสาแรก อย่างไรก็ดี เมื่อเช็ค VAR กันแล้ว กลายเป็นซนล้ำหน้าไปแค่ส้นเท้าในจังหวะรับบอลแรก สกอร์เลยยัง 0-0
- สเปอร์ยังใช้เกมสวนขึ้นมาได้น่ากลัว ซนได้เติมขึ้นมากดด้วยซ้ายอีกที แต่คราวนี้อลิสซงรับไว้ได้ไม่มีปัญหา ลิเวอร์พูลสวนมาบ้าง จากจังหวะที่น่าจะล้ำหน้าไปก่อน แต่ไลน์แมนไม่ยก สุดท้ายซาล่าห์ได้ยกบอลข้ามแนวให้มาเน่สไลด์จิ้มยิง แต่ยังไม่ผ่านมือ “อูโก้ ญอริส”
- เกมด้านข้างของหงส์แดงเจาะเข้าลำบาก แต่บอลแนวลึกตรงกลางพอมีช่อง “โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่” สอดมารับบอลก่อนดีดแทงทะลุให้มาเน่เข้าเขตโทษ มาเน่แต่งบอลออกขวาแล้วยิงเต็มแรง ญอริสยังยืนได้ดี ทุบออกไปได้
- ช่วงทดเจ็บครึ่งแรก เกมทำท่าจะจบแบบโนสกอร์ แต่แนวรับสเปอร์ไปเผลอยืนไลน์ล้ำหน้าไม่เนียน “จอร์แดน เฮนเดอร์สัน” เติมมายกบอลให้มาเน่สอดขึ้นมาไม่ล้ำ ก่อนปาดด้วยซ้ายเข้ากลาง บอลกั๊กทำให้ “เอริค ดายเยอร์” ไม่เข้าสกัด ลูกเลยไปถึงฟิร์มิโน่แท็บอินจ่อๆ เข้าไป จบครึ่งแรกแชมป์เก่าเลยบุกมานำ 1-0
- ครึ่งหลัง ทั้ง 2 ทีมต้องมีการปรับเปลี่ยนตัวผู้เล่น สเปอร์ต้องยอมถอดเคนที่มีอาการเจ็บข้อเท้าออก และปรับมาเล่นหลัง 4 ตัวเพื่อบุกมากขึ้น ส่วนลิเวอร์พูลต้องถอด “โจเอล มาติป” ออก ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามีอาการเจ็บอีกหรือเปล่า
- แนวรับสเปอร์ปรับระบบมาในครึ่งหลัง ดูยังงงๆ หงส์แดงเลยจู่โจมเข้าใส่ทันที จังหวะแรกซาล่าห์ได้ซัดในกรอบเขตโทษหลุดกรอบไป หนต่อมา มาเน่พลิกบอลเข้าใน ก่อนซัดด้วยขวา ญอริสปัดไปเข้าทาง “เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาโนลด์” วิ่งมากดเปรี้ยงเดียวด้วยขวาตุงเสาสอง ทีมเยือนขยับนำ 2-0
- อย่างไรก็ดี สเปอร์ใช้เวลาไม่นานก็ตีไข่แตกเพิ่มความหวังได้ “สตีเว่น เบิร์กไวจ์” จี้เข้าเขตโทษ แล้วโดนปิดทางได้หมด เลยไหลออกมานอกกรอบบริเวณหัวกระโหลก “ปิแอร์ เอมิล-ฮอยจ์เบียร์ก” วิ่งมาซัดเสียบเสางดงาม สเปอร์ขยับไล่มา 1-2
- สเปอร์พยายามดันเกมมากขึ้น และโดนหงส์แดงสวนเล่นงาน มาเน่ขยับขึ้นมารับบอลสวน ก่อนจะไหลให้ซาล่าห์ได้ซัดด้วยซ้ายเฉียบขาดตุงตาข่าย แต่เมื่อเช็ค VAR กันอยู่พักนึง กลายเป็นจังหวะแฮนด์บอลก่อนตั้งแต่บิวท์อัพโดยฟิร์มิโน่ที่กลางสนาม สกอร์เลยยังเท่าเดิม 2-1
- สเปอร์พยายามบุก แต่หาช่องจู่โจมได้ยาก และจากบอลไม่มากจังหวะของทีมเยือน อเล็กซานเดอร์-อาโนลด์ เปิดบอลวัดใจมาตกในกรอบเขตโทษ “โจ โรดอน” ถึงบอลก่อน แต่เหมือนลังเลไม่ยอมเคลียร์ ลูกไปโดนตัวแล้วไปเข้าทางมาเน่ แนวรุกเซเนกัลเลยได้ซัดเต็มข้อ บอลพุ่งแสกญอริสตุงตาข่าย 3-1
- เกมหลังจากนั้น หงส์แดงถอยไปแพ็คเกม ส่วนไก่เดือยทองครองบอลเยอะขึ้น แต่หาช่องเจาะลำบาก เรี่ยวแรงก็ถดถอย จบเกมทีมเยือนบุกมากำชัย 3-1 กลับมาชนะในลีกได้อีกหน ขยับอันดับแซงเวสต์แฮมกลับมาอยู่ที่ 4 สำเร็จ
และนี่ก็คือสรุปผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่ สเปอร์-ลิเวอร์พูลที่เราอยากแจ้งให้ทุกท่านได้ทราบในครั้งนี้ ก็หวังว่าจะเป็นที่ชื่นชอบของคอบอลทุกคน และนี่ก็คือการฟาดแข้งกันคู่เดียวในค่ำคืนนี้ ส่วนในแมทช์ของค่ำคืนต่อไป ผลการแข่งขันจะเป็นอย่างไร เราจะแจ้งให้คอบอลทุกคนได้ทราบอย่างแน่นอน