หลังจากที่เอเชี่ยนเกมส์ได้มีพิธีการปิดการแข่งขันเมื่อวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา
ผลการแข่งขันในทุกชนิดกีฬา ทีมชาติไทย จบในอันดับ 8 ได้มา 12 เหรียญทอง 14 เหรียญเงิน 32 เหรียญทองแดงรวม 58 เหรียญ ถือว่าอันดับดีขึ้นจากเอเชียนเกมส์ 2018 ซึ่งได้อันดับ 12 จากผลงาน 11 เหรียญทอง 16 เหรียญเงิน46 เหรียญทองแดง แต่เหรียญรวมครั้งที่แล้วทำได้มากกว่าที่ 73 เหรียญ.
โดย ทีมชาติไทยได้เหรียญทองจาก
- เทควันโด 2 เหรียญทอง จาก น้องเทนนิส พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ และ น้องหยู บัลลังก์ ทับทิมแดง
- กีฬาอีสปอร์ต จาก ธีเดช ทรงสายสกุล
- วินด์เซิร์ฟ จาก ศิริพร แก้วดวงงาม
- เรือใบ 2 เหรียญทอง จาก นพภัสสร ขุนบุญจันทร์ และ หม่อมหลวงเวฆา ภาณุพันธ์
- กอล์ฟ 2 เหรียญจาก อาภิชญา ยุบล และ ประเภททีม ประกอบไปด้วย อาภิชญา ยุบล , พัชรจุฑา คงกระพันธ์ , เอลล่า เกลิทสกี้
- เซปักตะกร้อ 2 เหรียญทอง จากประเภททีมชายและทีมหญิง
- เซปักตะกร้อ 2 เหรียญทอง จากประเภททีมเดี่ยวชายและทีมเดี่ยวหญิง
และทีมชาติไทยได้เหรียญทองมากกว่าทุกชาติ ในภูมิภาคอาเซี่ยน จากการวิเคราะห์ผลงานกีฬาโดนรวม
ในกลุ่มที่มีผลงานเกินเป้ามี 8 กีฬา คือ เทควันโด ,วินด์เซิร์ฟ , กอล์ฟ ,เทเบิลเทนนิส , เรือใบ , ขี่ม้า , จักรยานและยิงเป้าบิน
กลุ่มตามเป้าหมายมี 13 ชนิดกีฬา คือ ตะกร้อ แบดมินตัน, อีสปอร์ต ,เทนนิส ,คาราเต้โด ,ยิมนาสติก ,บริดจ์ , ยกน้ำหนัก ,หมากล้อม, หมากรุกจีน, หมากรุกสากล ไตรกีฬาและปัญจกีฬาสมัยใหม่
ส่วนกลุ่มกีฬาที่ผลงานต่ำกว่าเป้ามี 23 ชนิดกีฬา นำโดยมวยสากล, ฟุตบอล,วอลเลย์บอลและเรือพาย เป็นต้น โดยหัวหน้าคณะนักกีฬาไทย แม้จะพอใจภาพรวมในครั้งนี้ แต่ก็จะกลับไปถอดบทเรียนเพื่อแก้ไขโดยเฉพาะการคัดเลือกนักกีฬาที่จะต้องเข้มข้นกว่านี้ เเต่ถือว่าผลงานโดยรวมของทัพนักกีฬาไทยในเอเชียนเกมส์ครั้งนี้ ดีกว่าครั้งที่เเล้วในปี2018 ที่อินโดนีเซีย ซึ่งไทยทำไป 11 เหรียญทอง อยู่อันดับที่ 11 ในตารางเหรียญรวม
ส่วนเจ้าภาพจีน ยังคงครองเจ้าเหรียญทองคว้าถึง 201 เหรียญทอง ตามมาด้วย ญี่ปุ่น 52 ทอง และ เกาหลีใต้ 42 ทอง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
https://www.thaipbs.or.th/news/content/332604
https://www.tnews.co.th/sport/sport/598274
https://www.thairath.co.th/sport/worldsport/others/2731311
https://www.siamsport.co.th/asian-games/33694/