ตลาดหุ้นเอเชียช่วงเช้าวันนี้เปิดตัวแรงตกต่ำกันถ้วนหน้า หลังจากอดีตประธานาธิบดีสหรัฐ Donald Trump ออกมาให้คำมั่นว่าหากเขากลับมารับตำแหน่งอีกครั้งจะเดินหน้าขึ้นภาษีนำเข้าจากจีนอีกระลอก ซึ่งการประกาศนี้ส่งแรงกดดันต่อนักลงทุนทั่วภูมิภาคทันที
ดัชนีหลักหลายประเทศในเอเชียเริ่มเปิดลบอย่างชัดเจน ทั้ง Nikkei 225 ของญี่ปุ่น, Hang Seng ของฮ่องกง และ Kospi ของเกาหลีใต้ ต่างก็ปรับตัวลงกันถ้วนหน้า ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการค้าระหว่างประเทศ
Trump กล่าวว่าจะเรียกเก็บภาษีศุลกากรสูงถึง 60% สำหรับสินค้านำเข้าจากจีน หากเขาได้รับเลือกอีกครั้งในปี 2024 ซึ่งท่าทีนี้ชัดเจนว่าเป็นการหวนคืนแนวทางการกีดกันทางการค้า (Protectionism) และเป็นการส่งสัญญาณไม่เป็นมิตรต่อเศรษฐกิจโลก
นอกจากประเด็น Trump กับจีนแล้ว นักลงทุนยังรอคอยผลการประชุมของธนาคารกลางอินเดีย (RBI) ที่กำลังจะประกาศการตัดสินใจอัตราดอกเบี้ยเร็วๆ นี้ โดยตลาดส่วนใหญ่มองว่า RBI จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม แต่ยังคงจับตามองแนวโน้มเงินเฟ้อและเศรษฐกิจอินเดียในระยะกลาง
ค่าเงินเอเชียหลายสกุลก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยเงินหยวนอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ขณะที่เงินบาทและรูปีอินเดียยังคงผันผวนตามทิศทางเงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้าไหลออก
ในฝั่งนักลงทุนไทยเองก็ต้องจับตาดูสถานการณ์นี้ใกล้ชิด เพราะการเปลี่ยนแปลงของนโยบายการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนมักส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อตลาดหุ้นในภูมิภาค และแน่นอนว่าเมื่อเศรษฐกิจใหญ่สั่นไหว ประเทศกำลังพัฒนาอย่างไทยก็หนีไม่พ้นผลกระทบ
นักวิเคราะห์บางรายแนะนำให้ติดตามท่าทีของธนาคารกลางต่างๆ โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาและอินเดียในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ เพราะอาจจะมีการปรับนโยบายทางการเงินที่ส่งผลต่อทิศทางของตลาดเงินและตลาดทุนในภาพรวม
ในระยะสั้น ตลาดยังคงต้องใช้เวลาในการดูดซับข่าวการเมืองจากสหรัฐ และรอดูท่าทีของจีนว่าจะมีมาตรการตอบโต้หรือไม่ แต่สิ่งที่ชัดเจนคือ “สงครามภาษี” กลับมาเป็นประเด็นอีกครั้ง และนี่คือสิ่งที่นักลงทุนทั่วโลกต่างไม่อยากให้เกิด