ช่วงนี้ถ้าใครเป็นสายตัดต่อวิดีโอ สายคอนเทนต์ครีเอเตอร์ หรือทำงานด้าน Production บ่อย ๆ ก็คงได้ยินข่าวดีจาก Adobe กันมาบ้างแล้ว เพราะล่าสุด Adobe เขาปล่อยอัปเดตใหม่ ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้เราค้นหาและจัดการวิดีโอคลิปในไลบรารีได้ง่ายและสะดวกขึ้น ซึ่งเป็นอะไรที่หลายคนเฝ้ารอคอย เพราะบอกเลยว่าบางทีมีฟุตเทจวิดีโออยู่เยอะ ๆ หาจนตาลายไปตาม ๆ กัน
อัปเดตตัวนี้ถือว่าดึงเอาพลังของ Adobe Sensei ซึ่งเป็นเทคโนโลยี AI สุดฉลาดของค่าย Adobe เอง มาทำงานแบบเต็มรูปแบบ (ใครที่เคยใช้เครื่องมือบางตัวของ Adobe อย่าง Content-Aware Fill หรือฟีเจอร์อื่น ๆ ที่ใช้ AI อยู่แล้ว จะรู้เลยว่า Adobe Sensei นั้นไม่ธรรมดา) ความสามารถหลักที่เป็นไฮไลต์ของอัปเดตครั้งนี้คือฟีเจอร์ค้นหาด้วยการวิเคราะห์คีย์เวิร์ดแบบอัตโนมัติ ทำให้เราพิมพ์คำสั้น ๆ ก็สามารถเจอคลิปที่ต้องการได้ทันใจ
ทีนี้หลายคนอาจจะสงสัยว่า “มันดีกว่าเดิมยังไง? แต่ก่อน Premiere Pro หรือโปรแกรมใน Adobe Creative Cloud ก็มีระบบ Search ใช่ไหม?” บอกเลยว่าอัปเดตครั้งนี้เปลี่ยนจากการค้นหาแบบเดิม ๆ ไปเยอะมาก เพราะนอกจากจะรองรับการค้นหาจากชื่อไฟล์แล้ว มันยังสามารถอิงตามข้อมูลอย่างเช่น Tag, Metadata, หรือแม้แต่เนื้อหาภายในคลิป เช่น มีวัตถุใดปรากฏอยู่ มีพื้นหลังเป็นฉากอะไร เป็นภาพในร่มหรือกลางแจ้ง ฯลฯ เรียกว่าขุดลึกได้แทบทุกมิติเลยทีเดียว
นอกจากเรื่องการค้นหาคลิปที่รวดเร็วขึ้นแล้ว ยังมีการปรับปรุงหน้าตา UI/UX ให้ใช้งานง่ายขึ้นอีกด้วย เช่น หน้าต่าง Libraries หรือการจัดระเบียบไฟล์ที่คุ้นเคย ก็มีการอัปเกรดให้ดูสะอาดตา กรองได้ง่ายขึ้น สามารถสร้างโฟลเดอร์ย่อยได้แบบยืดหยุ่น เราอาจจะตั้งกลุ่มคลิปตามโทนสี, ตามธีมหรือหมวดหมู่ หรือแม้กระทั่งสร้างโฟลเดอร์ตามโปรเจกต์เล็ก ๆ แล้วก็ค่อยมากรองด้วยคีย์เวิร์ดที่เรากำหนดได้อีกที
ใครที่สงสัยว่า “แล้วมันจะใช้ยากไหม ต้องไปตั้งค่าอะไรวุ่นวายหรือเปล่า?” สำหรับคนที่สมัคร Adobe Creative Cloud อยู่แล้ว ไม่ต้องห่วง เพราะเมื่อมีอัปเดตมา ฟีเจอร์เหล่านี้ก็จะค่อย ๆ ทยอย Roll out ให้กับผู้ใช้ตามเวอร์ชันที่รองรับ เพียงเราอัปเดตโปรแกรมให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด ก็จะเห็นเมนูใหม่ หรือฟังก์ชันค้นหาแบบใหม่ให้ใช้งานเลย โดยส่วนใหญ่การตั้งค่าจะอยู่ในหน้า Libraries หรือ Panel ที่เกี่ยวข้องกับ Project และ Media Browser ขึ้นอยู่กับโปรแกรมที่เราใช้ด้วย เช่น Adobe Premiere Pro หรือ Adobe After Effects ซึ่งก็จะต่างกันเล็กน้อย แต่หลัก ๆ คืออยู่ใน Adobe Ecosystem เหมือนกัน
ประโยชน์ที่ได้จากการค้นหาด้วย AI
- ประหยัดเวลา: ลองจินตนาการดูว่าเรามีคลิปวิดีโออยู่ในฮาร์ดดิสก์เป็นพัน ๆ ไฟล์ แล้วต้องมาเปิดดูทีละไฟล์เพื่อหารายละเอียด ถ้าเราจัดการ Tag ไว้หรืออัปเดตตัว AI ให้มันวิเคราะห์คลิปไปเรื่อย ๆ เราก็แค่พิมพ์คำว่า “Nature” หรือ “Street Food” หรือ “Interview” เท่านี้ระบบจะไปดึงคลิปทั้งหมดที่เกี่ยวข้องมาให้แบบไม่ต้องเสียเวลาไล่หาเอง
- ลดข้อผิดพลาด: บางครั้งเราอาจจะเผลอตั้งชื่อไฟล์ไม่สื่อ หรือเป็นชื่อที่จำไม่ได้ว่าเป็นคลิปอะไร ฟีเจอร์ค้นหาของ Adobe จะช่วยมองเข้าไปในเนื้อหาของคลิป เพื่อลดโอกาสที่เราจะหาไฟล์ผิด หรือหลง ๆ ลืม ๆ ว่าเอาคลิปนั้นไปเก็บไว้ที่ไหน
- จัดระบบเป็นระเบียบ: เพราะเมื่อการค้นหามันง่าย การจัดกลุ่มไฟล์หรือสร้างเทมเพลตโปรเจกต์ต่าง ๆ ก็ดูเป็นเรื่องง่ายไปทันที ไม่ต้องนั่งจำว่าต้องวางไฟล์แต่ละตัวไว้ไหน ระบบ Tagging และ AI ก็ช่วยให้ทุกอย่างอยู่ในหมวดหมู่ที่ชัดเจน
ขั้นตอนการใช้งาน (ตัวอย่างเบื้องต้น):
- อัปเดต Adobe: ก่อนอื่นกดอัปเดต Adobe Premiere Pro, Adobe After Effects หรือโปรแกรมที่เราใช้อยู่ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด เพื่อให้ได้ฟีเจอร์ใหม่
- เปิด Libraries หรือ Media Browser: เมื่อเปิดโปรแกรมแล้ว ให้เราไปยังส่วน Libraries หรือ Media Browser (ขึ้นอยู่กับโปรแกรม)
- เปิดฟีเจอร์ค้นหา: ปกติจะมีช่อง Search หรือแถบค้นหาให้เราใส่คีย์เวิร์ดลงไปได้เลย เราอาจจะลองใส่คำง่าย ๆ อย่าง “Beach,” “City,” “Interview” เพื่อดูว่าระบบเจอคลิปอะไรบ้าง
- ใช้ Tag หรือ Metadata: อย่าลืมว่าเราสามารถเพิ่ม Tag หรือ Keyword ลงใน Metadata ของไฟล์แต่ละไฟล์ได้ หากต้องการความแม่นยำหรือเป็นคนจัดระเบียบอยู่แล้ว แนะนำให้ค่อย ๆ ใส่ข้อมูลเหล่านี้ตั้งแต่ตอน Import ฟุตเทจ เพราะจะยิ่งช่วยให้การค้นหาเฉพาะเจาะจงขึ้น
- เลือกและใช้งานคลิป: เมื่อเราค้นหาเจอคลิปที่ต้องการแล้ว ก็ลากเข้าไทม์ไลน์หรือเอาไปปรับแต่งต่อได้เลย สะดวกและรวดเร็วมาก
มีอะไรใหม่อีกบ้าง?
- Auto Tagging: Adobe ทำงานร่วมกับ Adobe Sensei ให้สามารถสร้าง Tag อัตโนมัติ จากการวิเคราะห์วัตถุและฉากที่ปรากฏในคลิป แม้เราจะขี้เกียจใส่ Tag เอง ระบบก็พร้อมช่วยอ่านภาพแล้วสร้างคีย์เวิร์ดให้แบบคร่าว ๆ ซึ่งเราสามารถไปแก้ไขภายหลังได้
- Smart Thumbnails: บางครั้งเราเลือกดูคลิปจากหน้าปก (Thumbnail) แต่ภาพนิ่งมันอาจไม่สื่อพอ ในอัปเดตใหม่บางเวอร์ชันจะมีการทำ Thumbnail แบบ “Smart” ที่ดึงเฟรมสำคัญหรือเฟรมที่มีวัตถุเด่นขึ้นมาโชว์ ทำให้เราเห็นเนื้อหาของคลิปได้ดีขึ้น โดยไม่ต้องกด Play เพื่อไล่ดูทุกเฟรม
- ประสิทธิภาพที่ดีขึ้น: นอกจากเรื่องการค้นหา ยังมีการปรับปรุงเรื่อง Performance ให้โปรแกรมรันได้ลื่นขึ้น รองรับฟอร์แมตไฟล์ใหม่ ๆ และลดการกระตุกขณะใช้งาน (ซึ่งเป็นปัญหาสุดคลาสสิกของการตัดต่อเหมือนกัน)
เคล็ดลับการจัดการไฟล์วิดีโอใน Adobe
- ตั้งชื่อไฟล์ให้สื่อ: แม้ว่าระบบ AI จะช่วยค้นหาได้ดีขึ้น แต่ถ้าเรายังตั้งชื่อไฟล์ไม่รู้เรื่อง AI ก็ทำงานได้เฉพาะกับภาพในคลิป แนะนำว่าอย่าลืมตั้งชื่อให้บอกประเภท, วันที่ถ่าย, โปรเจกต์ ฯลฯ จะเป็นประโยชน์มาก
- ใส่ Tag ด้วยตัวเอง: Auto Tagging ช่วยได้ก็จริง แต่ถ้าเราใส่ Tag เองด้วย จะทำให้ผลการค้นหาแม่นยำและหลากหลายขึ้น เพราะบางอย่าง AI ก็ยังแยกไม่ออก เช่น “สุนัขพันธุ์ชิวาวา” กับ “สุนัขพันธุ์อื่น”
- สร้างโฟลเดอร์ตามโปรเจกต์: พอมีหลายโปรเจกต์ เราอาจแบ่งโฟลเดอร์ตามธีม เช่น งานโฆษณา, งาน YouTube, งานอีเวนต์ แล้วใช้ระบบค้นหาแบบละเอียดเจาะลึกอีกทีก็ได้
- ลบไฟล์ที่ไม่ใช้แล้ว: บางครั้งการมีไฟล์เยอะเกินไปก็ทำให้เรางงหรือรกเกินความจำเป็น ลองเคลียร์ไฟล์ที่ไม่ใช้แล้วเป็นระยะ ช่วยให้ไลบรารีดูโปร่งขึ้น และโปรแกรมไม่ต้องประมวลผลมาก
อนาคตของการค้นหาคลิปใน Adobe
เทรนด์การใช้ AI ช่วยในการตัดต่อและค้นหาไฟล์ในอนาคตมีแนวโน้มจะยิ่งฉลาดขึ้น เพราะ Adobe ลงทุนด้าน AI ไปเยอะมากในช่วงหลัง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Adobe Firefly (AI สำหรับการสร้างและตกแต่งภาพ) หรือเครื่องมืออื่น ๆ ที่คอยช่วยงานกราฟิกและวิดีโอ ยิ่งไปกว่านั้น เชื่อว่าเราจะได้เห็นการค้นหาที่เป็นภาษาธรรมชาติ อย่างเช่น “คลิปที่มีผู้หญิงยืนกลางแจ้ง กับฉากหลังภูเขา” แล้ว Adobe จะไปค้นหาให้อัตโนมัติโดยไม่ต้องใส่คีย์เวิร์ดแยกเป็นคำ ๆ ก็เป็นได้
ใครที่ทำงานด้านคอนเทนต์ มือสมัครเล่นไปจนถึงมืออาชีพ น่าจะได้ประโยชน์จากอัปเดตนี้แบบเต็ม ๆ เพราะการค้นหาคลิปได้ไว แปลว่าทำงานได้ไวขึ้น แถมยังช่วยลดความผิดพลาดในการเลือกคลิปอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นงานวิดีโอทั่วไป หรืองานโปรดักชันใหญ่ ๆ การมีฟีเจอร์ Search ที่ชาญฉลาด เป็นอะไรที่ทำให้ชีวิตง่ายขึ้นโข
สุดท้ายแล้ว ใครที่อยากลองใช้ ก็อย่าลืมเช็กเวอร์ชัน Adobe Creative Cloud ของตัวเอง หรือหากใครยังไม่ได้สมัครก็ลองดูแพ็กเกจหรือตัวทดลอง (Free trial) ที่ Adobe มีให้ จะได้เปิดประตูสู่โลกของการตัดต่อแบบ AI ช่วยกันเต็มขั้นกันไปเลย
อัปเดตครั้งนี้เป็นสัญญาณว่า Adobe ตั้งใจจะก้าวไปอีกระดับในการพัฒนาเครื่องมือสร้างสรรค์สื่อ ไม่ว่าจะเป็นภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว หรืองานกราฟิกอื่น ๆ เมื่อการค้นหาวิดีโอในไลบรารีง่ายขึ้น ก็เท่ากับว่าความคิดสร้างสรรค์ของเราสามารถออกมาได้เต็มที่ โดยไม่ต้องเสียเวลาไปกับการคุ้ยหาไฟล์อีกต่อไป
เรียกได้ว่าอัปเดตใหม่ของ Adobe ครั้งนี้ ถูกใจสายคอนเทนต์ครีเอเตอร์แน่นอน เพราะช่วยทั้งย่นเวลา สร้างระบบระเบียบ และยกระดับการใช้งานโปรแกรมของ Adobe ให้เหนือกว่าโปรแกรมตัดต่อทั่ว ๆ ไปไปอีกขั้น ใครยังไม่อัปเดต ไปอัปเดตกันได้เลย รับรองว่าการค้นหาวิดีโอคลิปในไลบรารีจะกลายเป็นเรื่องง่ายซะยิ่งกว่าปอกกล้วยเลยล่ะ!