หลังจากกักตัวอยู่บ้านอยู่นานกับช่วงเวลาของโควิดที่ทุกคนนั้นทราบกันดีอยู่แล้ว ตอนนี้หลายๆพื้นที่กลับมาเปิดให้บริการสามารถนั่งทานอาหารในร้านได้ตามปกติ ภายใต้เงื่อนไขจากภาครัฐ
ตัวผมเองก็อยู่บ้านจนอ้วนกันเลย ไม่ได้ออกไปไหนมานานมาก วันนี้ได้ออกมาทำธุระแถวๆ กัลปพฤกษ์ ก็เลยขับรถไปต่อกันจังหวัดใกล้ๆกรุงเทพฯ อย่างนครปฐม เป็นช่วงเวลาใกล้เที่ยงพอดีที่มีความหิวเป็นผู้นำ ตกลงกับพี่สาวว่าร้านที่มีข้าวขายที่ไหนก็ได้บรรยาศโอเคหน่อยจิ้ม Google Maps ไปกันเลย
และจนในที่สุดของการฝ่ารถติดมาถึงร้าน แซ่บนัว ศาลายา ที่ร้านมีที่จอดรถเยอะมาก รองรับการมาเยื่อนของลูกค้าได้เยอะเลย มีการจัดการระบบคิวที่ดี หากใครที่ต้องการมุมสวยๆ ก็อาจจะรอนานหน่อย แต่ถ้าใครที่มาแค่กินข้าวแบบผมกับพพี่สาวแล้วละก็ โต๊ะไหนก็ได้เลยทำให้ได้โต๊ะเร็วหน่อยครับ
ร้านแซ่บนัวศาลายา
และไม่รอช้าที่จะเริ่มสั่งอาหารจากความหิวที่เป็นต้นทุนมา นี่เป็นเมนูอาหารต่างๆที่ได้สั่งมาทานในวันนี้ครับ หลังจากนั่งกินจนอิ่มแล้ว ก็เดินออกชมบรรยากาศรอบๆร้านกันครับ มีมุมต่างๆให้ถ่ายรูปเยอะเลยครับ
หลังจากจบที่ร้านอาหารก็ไปต่อกันที่คาเฟ่ Memory House Cafe สามพราน ติดกับริมแม่น้ำท่าจีน ซึ่งไม่ไกลจากที่ร้านเดิมมากนัก ไปถึงที่นี่ก็มีสถานที่จอดรถมากมายเช่นกัน ดูดีมีระดับมากสำหรับสไตล์การจัดร้านแบบโรงนา ที่นี่สายถ่ายรูปไม่ควรพลาดเลย เริ่มจากเมนูอาหารอย่างเช่นที่ผมสั่งมาก็จะมีเจ้าหมีน้อยอยู่ด้านบนแบบนี้ด้วย นอกจากนี้ยังมีโซนทุ่งหญ้าหลากสี ทุ่งดอกหญ้า
Memory House Cafe สามพราน
ทางร้านมีมุมให้นั่งได้หลายๆพื้นที่เลย ไม่ว่าจะเป็นนอกลาน หรือในตัวคาเฟ่ยังมีร้านอาหารแยกเป็นบ้านแต่ละหลังอีกด้วย ที่สำคัญแต่ละมุมสวยๆและมีพื้นที่ให้ถ่ายรูปกันอย่าจุใจกันไปเลย
หลังจากเต็มอิ่มกับวันนี้แล้วก็ได้เวลากลับละครับ เป็นวันที่อากาศเปลี่ยนแปลงมาทั้งวัน เช้าแดดออกและพอตกเย็นก็เป็นอย่างที่เห็นครับ ฝนตกจัดเต็มกันแบบนี้ ขับรถฝ่ารถติดเข้าเมืองกรุงฯกันต่อไป
มันอาจจะดูเป็นช่วงสั่นๆที่ของวันที่อยากจะให้เวลาเต็มที่ ก่อนหน้านี้เราต่างถูกจัดกัดด้วยโรคภัยต่างๆ แต่อย่างลืมว่าเวลาของคุณมีจำกัดเช่นกัน จงอย่าเสียเวลาไปกับการใช้ชีวิตในแบบของคนอื่น ขอบคุณครับ