สวัสดีคอยานยนต์ทุกคน ครั้งนี้เรามีข่าวใหญ่จากแดนอาทิตย์อุทัยจะมาแจ้งให้ทุกท่านได้ทราบว่า ล่าสุด Nissan จับมือเมืองในญี่ปุ่น ใช้รถ EV เป็นแบตเตอรี่สำรองช่วงภัยพิบัติแล้ว ซึ่งรายละเอียดเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร เรามาติดตามกันเลย
สรุปข้อมูลและรายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ ได้ดังนี้
คงเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ต้องเผชิญกับภัยพิบัติทุกรูปแบบเสมอมา ไม่ว่าจะเป็น พายุ น้ำท่วม ภูเขาไฟระเบิด และแผ่นดินไหว ที่เป็นเช่นนั้นเพราะญี่ปุ่นเป็นประเทศหมู่เกาะที่ตั้งอยู่บนวนแหวนแห่งไฟ (Ring of Fire) หรือพูดง่ายๆ ก็คือตั้งอยู่บนรอยต่อของแผ่นเปลือกโลกหลักนั่นเอง
จากสถิติที่ผ่านมาเร็วๆ นี้ ญี่ปุ่นต้องเผชิญกับภัยพิบัติจนอ่วม แน่นอนว่าทุกครั้งต้องมีการอพยพผู้คนเพื่อความปลอดภัย สร้างความยากลำบากแก่ผู้ประสบภัยพิบัติไม่น้อย
เช่น เหตุการณ์ฝนตกหนักในญี่ปุ่นตอนกลาง และตอนใต้ในปี 2020 ที่มีระดับน้ำฝนสูงถึง 45 เซนติเมตรในระยะเวลาเพียง 6 ชั่วโมง ทำลายทรัพย์สินของผู้คนกว่า 4,000 ครัวเรือน และผู้คนกว่า 3,600,000 คนต้องอพยพจากครัวเรือน รวมถึงเหตุการณ์ฝนตกหนักในปี 2022 ที่ผู้คนกว่า 8 ล้านคนต้องอพยพไปยังศูนย์หลบภัย หลังจากมีการเตือนภัยพิบัติระดับ 5 จากพายุไต้ฝุ่นนันมาดอลที่เคลื่อนผ่านประเทศ
เพื่อเป็นต้นแบบในการบรรเทาทุกข์จากภัยพิบัติ ล่าสุด บริษัทนิสสัน (Nissan) ได้ประกาศบรรลุข้อตกลงกับเมืองโคโตฮิระ ในจังหวัดคากาวะ ทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น เพื่อใช้รถไฟฟ้ารุ่น Nissan LEAF เป็นแบตเตอรี่ฉุกเฉินสำหรับเหตุการณ์ภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
โดยในข้อตกลงมีการระบุไว้ว่า หากพลังงานในเมืองโคโตฮิระหมดลงจากเหตุการณ์ภัยพิบัติ บริษัทนิสสันจะส่งรถไฟฟ้ารุ่น ลีฟ ไปยังศูนย์อพยพ และสถานที่สำคัญอื่น ๆ ในเมือง เพื่อนำส่งกระแสไฟฟ้าไปส่งยังสถานที่ต่างๆ โดยนิสสันระบุว่า รถไฟฟ้า (EV) คือที่เก็บกักแบตเตอรี่ที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ และการนำรถไฟฟ้ามาใช้งานในด้านแก้ไขสถานการณ์ภัยพิบัติ ถือเป็นการใช้งานรถเหล่านี้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
แน่นอนว่าความร่วมมือนี้เกิดขึ้นได้ เพราะผู้บริหารเมืองโคโตฮิระได้วางรากฐานเกี่ยวกับการรับมือภัยพิบัติร่วมกับทางนิสสันมาก่อน โดยพวกเขาได้พยายามวางรากฐานของเมืองให้เป็นเมืองที่มีการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) เพื่อรองรับอนาคตไม่เพียงเท่านั้นเมืองแห่งนี้ยังใช้รถนิสสัน รุ่น ซากูระ (Sakura) เพื่อเป็นรถสาธารณะพลังงานไฟฟ้า อีกทั้งรถคันดังกล่าวยังสามารถเป็นแหล่งพลังงานแบบเคลื่อนย้ายได้ ถือเป็นรากฐานระบบความยั่งยืนทางพลังงานของเมืองอีกด้วย
และนี่ก็คือข่าวความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจในแวดวงยานยนต์ที่เราอยากแจ้งให้เพื่อนๆ ได้ทราบในครั้งนี้ ก็หวังว่าจะสร้างความตื่นเต้นกับทุกคน เพราะนี่ถือเป็นอีกหนึ่งต้นแบบดีๆ ที่ทุกเมืองทั่วโลกควรเอาเป็นตัวอย่าง