Thursday, January 30, 2025
22.9 C
Bangkok

เมโมหลุดอาจเผยให้เห็นเป้าหมาย AI สองอย่างใหญ่ของ Apple ในปี 2025

มีข่าวเมาท์วงในมาแรงว่า Apple อาจกำลังวางแผนใหญ่ในด้าน AI สำหรับปี 2025 หลังมีรายงานเกี่ยวกับ “Leaked memo” ที่หลุดออกมาและระบุถึงสองเป้าหมายหลักที่ Apple ตั้งใจจะผลักดันเต็มสูบในอนาคตอันใกล้ พอได้ยินแบบนี้หลายคนก็ตื่นเต้นกันยกใหญ่ เพราะ Apple มักไม่ค่อยปริปากบอกล่วงหน้าเกี่ยวกับนโยบายหรือทิศทางเทคโนโลยีของตัวเองสักเท่าไหร่ แต่ถ้ามีข่าวหลุดมาทั้งที ก็มีแววว่าเป็นของจริงหรือน่าสนใจพอสมควร ไม่ใช่แค่ข่าวลือที่ใครก็ปล่อยกันง่าย ๆ แล้วในยุคที่คู่แข่งต่างงัดเทคโนโลยี AI มาสู้กันสนั่นโลก Apple เองจะพลาดได้ยังไง

วันนี้เราจะมาคุยกันแบบชิล ๆ และลองเดาว่าที่ว่าเป็นสองเป้าหมาย AI หลักของ Apple ในปี 2025 นั้นคืออะไร และมันจะส่งผลกระทบต่อผู้ใช้อย่างเรา ๆ ยังไงบ้าง แน่นอนว่าข้อมูลที่ได้อาจยังไม่คอนเฟิร์ม 100% แต่การพูดคุยคาดเดาจากความเป็นไปได้ต่าง ๆ ก็สนุกดี และมองได้ว่าหลาย ๆ อย่างอาจสอดคล้องกับเทรนด์ AI ที่ Apple เคยแย้ม ๆ ไว้ก่อนหน้านี้ด้วย


1. การพัฒนา Siri ให้ก้าวกระโดดด้วย Generative AI
สิ่งแรกที่หลายสื่อคาดเดาคือ Apple อาจจะให้ความสำคัญกับการพัฒนา Siri ในเชิง AI ยุคใหม่ โดยเฉพาะ Generative AI ซึ่งตอนนี้ก็กลายเป็นคลื่นลูกใหญ่ที่ทุกบริษัทพยายามคว้าให้อยู่หมัด ไม่ว่าจะเป็น ChatGPT ของ OpenAI, Bard ของ Google หรือ Bing AI ของ Microsoft ก็แข่งขันกันอย่างเผ็ดร้อน จุดหนึ่งที่ผู้ใช้หลายคนตัดพ้อ Siri คือรู้สึกว่ามันค่อนข้าง “ฉลาดน้อย” ไปสักหน่อยเมื่อเทียบกับ AI คู่แข่ง อย่างเช่น ไม่สามารถสนทนาโต้ตอบได้ยืดหยุ่นเท่า หรือยังขาดความสามารถในการประมวลผลเชิงลึก

ดังนั้น ถ้าข่าวหลุดนี้เป็นจริง Apple ก็น่าจะยกระดับ Siri ครั้งใหญ่อีกครั้ง เปลี่ยนจากแค่ผู้ช่วยสั่งงานเสียงหรือแจ้งตารางนัดหมาย มาเป็นผู้ช่วยส่วนตัวที่สามารถตอบคำถามหรือคำสั่งได้ในระดับสูง เก็บและวิเคราะห์ข้อมูลในเครื่องผู้ใช้แล้วโต้ตอบออกมาอย่างฉลาดขึ้น อาจจะเรียนรู้นิสัยใจคอของเรา รู้ว่าเราชอบเพลงแนวไหน กำลังสนใจจะไปเที่ยวที่ไหน หรือแนะนำสิ่งที่เหมาะกับเราโดยอัตโนมัติ เหมือนมีเลขาช่างพูดประจำตัวตลอด 24 ชั่วโมง

สิ่งที่ Apple คงจะเน้นมากเป็นพิเศษคือความเป็นส่วนตัว (Privacy) และความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้ ซึ่ง Apple ขึ้นชื่อเรื่องนี้อยู่แล้ว ถ้า Siri รุ่นใหม่จะมีสมอง AI ขนาดใหญ่อยู่เบื้องหลัง ก็น่าจะมาพร้อมกระบวนการทำงานแบบ On-device มากขึ้น ลดการดึงข้อมูลออกจากเครื่องผู้ใช้ไปยังเซิร์ฟเวอร์ส่วนกลางให้เหลือน้อยที่สุด อย่างที่ Apple เคยทำกับฟีเจอร์ด้าน Machine Learning หลายอย่างใน iOS เพื่อรักษาความไว้วางใจของผู้ใช้


2. ขยาย AI สู่ Augmented Reality และ Apple Vision Pro
เป้าหมายถัดมาที่สื่อหลายสำนักตีความคือ Apple กำลังจะผนึกเทคโนโลยี AI เข้ากับโปรเจกต์ด้าน Augmented Reality (AR) หรือ Mixed Reality ของตัวเองอย่างเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะ Apple Vision Pro ที่เพิ่งเปิดตัวไปก่อนหน้านี้ (มีกำหนดวางขายในปี 2024) แน่นอนว่าผลิตภัณฑ์ล้ำ ๆ แบบนี้ มักจะยิ่งสมบูรณ์แบบขึ้นถ้า Apple ใส่เทคโนโลยี AI ระดับสูงเข้าไปด้วย เพื่อยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้ ไม่ว่าจะเป็นการจดจำสภาพแวดล้อม การทำงานร่วมกับแอปต่าง ๆ ด้วยคำสั่งเสียง หรือการสั่งงานด้วยท่าทาง (Gesture) ขั้นเทพ

ลองจินตนาการว่าเราสวม Apple Vision Pro แล้วยกมือชี้ไปที่วัตถุหรือสถานที่ต่าง ๆ รอบตัว แล้ว Siri หรือ AI ของ Apple สามารถให้ข้อมูลโดยละเอียดได้เลย ไม่ว่าจะเป็นประวัติความเป็นมา การท่องเที่ยว หรือร้านอาหารแนะนำ ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นแบบเรียลไทม์ และยังวิเคราะห์อารมณ์หรือความสนใจของเราได้อีกด้วย อาจจะคล้าย ๆ กับฟีเจอร์แปลภาษาในทันที หรือสแกนวัตถุแล้วให้ข้อมูลเชิงลึก หาก Apple ดึง AI เข้าไปผสมผสานแบบลงตัว ก็จะเป็นก้าวสำคัญในการขยายอาณาจักร AR/VR ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น


ความท้าทายของ Apple กับเทรนด์ AI โลก
Apple ไม่ได้แข่งเรื่องฟีเจอร์ที่จัดหนักแค่เพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องรักษาจุดขายเรื่องคุณภาพ ความปลอดภัย และภาพลักษณ์ระดับพรีเมียมให้ได้ด้วย ไม่ใช่ว่า Apple จะไม่อยากลองทำ AI สาย Generative เหมือนบริษัทอื่น ๆ แต่ด้วยนโยบายเรื่องความเป็นส่วนตัว ทำให้การวิจัยและพัฒนาอาจต้องใช้วิธีที่ซับซ้อนกว่า หรืออาจต้องลงทุนหนักด้านฮาร์ดแวร์ เช่น Neural Engine ในชิป Apple Silicon ให้ทรงพลังพอประมวลผล AI บนเครื่องได้สะดวก นอกจากนี้ Apple ยังขึ้นชื่อว่าชอบคัดกรองคุณสมบัติทุกอย่างอย่างถี่ถ้วนก่อนปล่อยให้ผู้ใช้ทั่วไปได้ลอง จึงทำให้ดูเหมือน “ตามหลัง” แต่ถ้าออกมาแล้วก็ต้อง “เป๊ะ” และมั่นใจว่าคนน่าจะปลื้ม

ขณะเดียวกัน บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่เจ้าอื่นก็ไม่หยุดนิ่ง Google มี Bard และระบบ AI ช่วยเสริม Search, Microsoft ก็ผูก Bing AI ไว้ในบริการของตัวเอง แถมยังร่วมมือกับ OpenAI อีกด้วย ความได้เปรียบของ Apple คือมีอุปกรณ์และระบบนิเวศ (Ecosystem) ที่ผู้ใช้จำนวนมากผูกพันอยู่แล้ว หากสามารถยกระดับ Siri หรือ AI ในอุปกรณ์ Apple ให้ “เข้าอกเข้าใจ” ผู้ใช้มากขึ้น ก็จะเป็นกำลังเสริมให้ Apple รักษาฐานลูกค้าเดิมและดึงลูกค้าใหม่ได้ไม่ยาก


Apple GPT?
มีข่าวอีกกระแสว่าภายใน Apple เองอาจมีการซุ่มพัฒนาโมเดล AI ในสไตล์ Language Model เหมือนอย่าง ChatGPT และหลาย ๆ เจ้า ซึ่งสื่อเรียกเล่น ๆ ว่า “Apple GPT” ไม่ว่าจะใช้ชื่อนี้จริง ๆ หรือไม่ก็ยังเป็นเรื่องที่ต้องจับตา เพราะถ้า Apple จะสร้างโมเดลภาษาที่เข้าใจภาษาธรรมชาติได้ลึกซึ้งมากขึ้น ก็เป็นไปได้ว่าเจ้าตัวโมเดลนี้จะถูกฝังลงไปใน Siri หรือใช้เป็นส่วนหนึ่งของการประมวลผลบน Apple Vision Pro หรือแอปอื่น ๆ ในอนาคต

จุดเด่นของ Apple GPT ถ้าทำออกมาจริง ๆ น่าจะอยู่ที่การจัดการข้อมูลและประสบการณ์ผู้ใช้อย่างปลอดภัย ไร้รอยต่อ และเชื่อมโยงกับ Ecosystem ของ Apple แบบแนบแน่น เช่น ใช้กับ Apple Music, Apple TV+, หรือกระทั่งในงานเอกสารอย่าง Pages หรือ Keynote เพื่อช่วยแนะนำเนื้อหา ตรวจสอบไวยากรณ์ หรือสรุปเนื้อหาได้อย่างรวดเร็ว


AI กับบริการสุขภาพ
อีกด้านหนึ่งที่ Apple ดูจริงจังคือการนำ AI ไปใช้ใน Health & Wellness ซึ่งเป็นจุดขายหนึ่งของ Apple Watch และแอป Health อยู่แล้ว ในอนาคต AI อาจจะช่วยวิเคราะห์แนวโน้มสุขภาพของผู้ใช้ เป็นเสมือนที่ปรึกษาส่วนตัวว่าควรออกกำลังกายอย่างไร กินอาหารแบบไหน หรืออาจคาดการณ์ความเสี่ยงของโรคบางโรคได้ก่อนที่จะสายเกินแก้ โดยยังคงมีการเก็บข้อมูลในลักษณะ Privacy Focus ที่เน้นข้อมูลภายในเครื่องและแชร์เฉพาะข้อมูลที่อนุญาตเท่านั้น หาก Apple เชื่อมระบบนี้เข้ากับ Siri หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ก็เป็นไปได้ว่าเราอาจสั่งงานด้วยเสียงว่า “วันนี้แนะนำให้เราออกกำลังกายแบบไหนดี” หรือ “ตอนนี้อัตราการเต้นของหัวใจเป็นยังไงบ้าง” แล้ว Siri ก็จะรายงานพร้อมคำแนะนำเพิ่มเติมโดยอิงข้อมูล AI สุดฉลาดนั่นเอง


เมื่อเทคโนโลยีไม่หยุดเดินหน้า
ในขณะที่หลายคนอาจเคยได้ยินเสมอว่า Apple ดูตามหลังในด้าน AI แต่เอาเข้าจริง Apple ก็มีการลงทุนด้านนี้มานานเหมือนกัน เพียงแต่ไม่ค่อยโปรโมตโจ่งแจ้งเท่าคู่แข่ง ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะ Apple อยากรอให้ผลิตภัณฑ์ถึงจุดที่ “เวิร์ก” จริง ๆ แล้วค่อยเปิดตัวในภาพรวม เช่นเดียวกับที่ Apple เคยเข้าวงการสมาร์ทวอทช์ตอนที่มีเจ้าอื่นออกมาก่อนแล้ว แต่สุดท้าย Apple Watch ก็กลายเป็นหนึ่งในตัวท็อปของตลาด

การที่มีข่าวหลุดว่าเป้าหมาย AI สองอันดับแรกของ Apple คือ (1) ยกเครื่อง Siri ด้วย Generative AI และ (2) ขยาย AI สู่โลก AR และ Apple Vision Pro จึงถือเป็นแนวทางที่สมเหตุสมผล และต่อยอดความแข็งแกร่งจากฐานผู้ใช้ปัจจุบัน ตลอดจนตอบโจทย์เทรนด์เทคโนโลยีของโลก ทั้งในแง่การแข่งขันและความคาดหวังของผู้ใช้


ผลกระทบต่อผู้ใช้และวงการเทคโนโลยี
หาก Apple ทำได้อย่างที่ข่าวลือว่าไว้ เราอาจได้เห็น Siri ฉลาดขึ้นอย่างก้าวกระโดด กลายเป็นเพื่อนคุยรู้ใจที่ช่วยเราได้ตั้งแต่เรื่องเล็กน้อยในชีวิตประจำวันไปจนถึงการสร้างสรรค์ผลงาน มีความแม่นยำในการฟังและจดจำประวัติต่าง ๆ เพราะโมเดลภาษารุ่นใหม่ของ Apple เองก็อาจจะเข้าใจเราในระดับบุคคล (Personalization) ได้มากกว่าเดิม

ในส่วนของ Apple Vision Pro ก็จะได้ AI ตัวเดียวกันคอยสนับสนุน เบื้องหลังก็อาจมี Machine Learning ที่วิเคราะห์สิ่งรอบตัว หรือผสมผสานเทคโนโลยี Computer Vision ในระดับสูง ทำให้การใช้งาน AR ไม่ใช่แค่เอาภาพเสมือนมาซ้อนภาพจริง แต่มี AI ช่วยให้ข้อมูลอย่างลึกซึ้ง ซึ่งจะยกระดับประสบการณ์ที่เราไม่เคยสัมผัสมาก่อน หรือแม้แต่ในงานสายธุรกิจ การดีไซน์ หรือการศึกษา ก็จะก่อให้เกิดรูปแบบอินเทอร์แอคทีฟใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ

โดยรวมแล้ว ถ้า Apple ดึงศักยภาพ AI สุดล้ำมาใช้ได้ครบวงจร ทั้งใน iPhone, iPad, Apple Watch, Mac และ Apple Vision Pro โดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องกังวลเรื่องข้อมูลหลุดหรือความเป็นส่วนตัว ก็จะยิ่งล็อกฐานลูกค้าให้แน่นขึ้น รวมถึงเป็นแนวทางให้บริษัทอื่น ๆ ต้องตามรอยในเรื่องแนวคิด Data Privacy ซึ่ง Apple น่าจะตั้งใจยืนหยัดเป็นผู้นำในด้านนี้อย่างเต็มที่


สรุป
แม้ว่า “Leaked memo” ดังกล่าวจะยังไม่ยืนยันเป็นทางการ และเราอาจยังไม่ได้เห็นแถลงการณ์ตรง ๆ จาก Apple แต่ถ้าสองเป้าหมาย AI ที่ว่า “Generative AI สำหรับ Siri” กับ “AI สำหรับ Apple Vision Pro และ AR” เป็นเรื่องจริง ก็แปลว่า Apple กำลังจะก้าวเข้าสู่ยุค AI ที่เข้มข้นขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าอย่างแน่นอน

สำหรับแฟน Apple ก็คงตั้งตารอติดตามว่า Tim Cook และทีมวิจัยจะเผยโฉมเทคโนโลยีใหม่ ๆ ออกมาแบบไหน จะโค่นคู่แข่งได้หรือไม่ หรือจะสร้างเซอร์ไพรส์ให้โลกฮือฮาอีกครั้งได้หรือเปล่า เพราะ Apple คือหนึ่งในเจ้าใหญ่ที่ทุกคนจับตาอยู่ตลอด และด้วยความที่บริษัทแห่งนี้ชอบทำอะไรแบบเงียบ ๆ แล้วค่อยปล่อยหมัดฮุก บางทีสองเป้าหมาย AI นี้อาจเป็นแค่ยอดภูเขาน้ำแข็ง ส่วนข้างใต้ยังมีอีกเพียบที่รอเปิดตัวในปี 2025

สิ่งเดียวที่เรารู้แน่ ๆ คือโลกเทคโนโลยีไม่มีวันหยุดนิ่ง AI กำลังจะกลายเป็นเครื่องมือพื้นฐานที่ทุกคนเข้าถึงได้ง่ายขึ้น และ Apple ก็คงอยากเป็นผู้เล่นสำคัญในสมรภูมินี้ ไม่ว่าจะเป็นการพลิกโฉม Siri ให้สมาร์ทยิ่งขึ้น หรือดัน Apple Vision Pro ให้โลดแล่นได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เอาเป็นว่าเหล่าสาวก Apple ทั้งหลาย เตรียมตื่นเต้นรอฟีเจอร์ใหม่ ๆ และใครที่ยังไม่เคยใช้ Siri หรือไม่เคยคิดจะสวมแว่น AR ก็อาจเปลี่ยนใจในวันที่ Apple ปล่อยของ AI ชุดใหญ่นี้ออกมาในปี 2025 ก็เป็นได้

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

This field is required.

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

Hot this 48 hr.

ข่าวใหญ่ จีนค้นพบอารยธรรมที่เก่าแก่กว่าราชวงศ์เซี่ย ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่มีนักโบราณคดีคนไหนในโลกเชื่อว่าจีนจะมีอารยธรรมที่เก่าแก่กว่านี้อีกแล้ว

สวัสดีเพื่อนๆ ชาว ไอทีเมามันส์ ทุกคน พบกันเป็นประจำเช่นเคยกับการอัพเดทข่าวความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจรอบโลก สำหรับครั้งนี้เราก็มีข่าวสำคัญจะมาแจ้งให้ทุกท่านได้ทราบว่า ที่ประเทศจีนมีการค้นพบอารยธรรมที่เกิดขึ้นก่อนราชวงศ์เซี่ย ราชวงศ์แรกของจีนที่เกิดขึ้น 2,100...

ความหมายของไพ่ยิปซี ไพ่ทาโรต์ ไพ่ชุดเมเจอร์และไพ่ชุดไมเนอร์ อาร์คานา

ไพ่ทาโรต์ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ไพ่ชุดเมเจอร์ อาร์คานา มี 22...

Whoscall ผนึกกำลัง Viu ยกระดับการป้องกันภัยมิจฉาชีพออนไลน์ในอาเซียน

Whoscall และ Viu ร่วมมือกันยกระดับการต่อต้านภัยออนไลน์ บริษัท Gogolook ผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน Whoscall และ Viu...

Garmin GPS ค้างจอสามเหลี่ยมฟ้า! เกิดอะไรขึ้น แก้ยังไงดี?

Garmin GPS ค้างจอสามเหลี่ยมฟ้า! เกิดอะไรขึ้น แก้ยังไงดี? ถ้าใครใช้สมาร์ตวอทช์หรืออุปกรณ์ GPS ของ Garmin แล้วเจอปัญหาหน้าจอค้างเป็นสามเหลี่ยมสีฟ้า...

โตโยต้ายืนยัน! 4Runner เกียร์ธรรมดา “เป็นไปได้” แต่มีเงื่อนไข

โตโยต้า 4Runner หนึ่งในรถออฟโรดที่เป็นที่รักของสายลุยทั่วโลก กำลังเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง หลังจากที่มีการเปิดเผยว่ารุ่นเกียร์ธรรมดา "อาจเป็นไปได้" แต่ยังคงขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ทำไมโตโยต้าถึงพูดว่า "เป็นไปได้" แต่ยังไม่ทำ? ถึงแม้ว่าความต้องการของคนรักเกียร์ธรรมดาจะยังคงมีอยู่...

Topics

โตโยต้ายืนยัน! 4Runner เกียร์ธรรมดา “เป็นไปได้” แต่มีเงื่อนไข

โตโยต้า 4Runner หนึ่งในรถออฟโรดที่เป็นที่รักของสายลุยทั่วโลก กำลังเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง หลังจากที่มีการเปิดเผยว่ารุ่นเกียร์ธรรมดา "อาจเป็นไปได้" แต่ยังคงขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ทำไมโตโยต้าถึงพูดว่า "เป็นไปได้" แต่ยังไม่ทำ? ถึงแม้ว่าความต้องการของคนรักเกียร์ธรรมดาจะยังคงมีอยู่...

Philips เปิดตัวหูฟัง ANC สู้ Sony! แบตอึด 50 ชม. รองรับ Bluetooth ใหม่ล่าสุด แถมเปลี่ยนแบตได้

Philips เปิดตัวหูฟัง ANC รุ่นใหม่ สเปกโหด ชน Sony แบบตรง ๆ! ถ้าพูดถึงหูฟัง...

iOS 18.3 มาแล้ว! อัปเดตใหม่ที่เปิดใช้ Apple Intelligence อัตโนมัติ

สวัสดีเพื่อน ๆ ชาว iPhone ทุกคน! วันนี้เรามีข่าวอัปเดตที่น่าตื่นเต้นมาแชร์กัน นั่นก็คือการเปิดตัว iOS 18.3...

DeepSeek AI คืออะไร? คู่แข่ง ChatGPT ตัวใหม่ที่กำลังมาแรง พร้อมประเด็นความเป็นส่วนตัวที่ต้องจับตา

ช่วงนี้ชื่อของ DeepSeek AI เริ่มถูกพูดถึงกันมากขึ้นในแวดวงเทคโนโลยี โดยเฉพาะในฐานะคู่แข่งของ ChatGPT ที่พัฒนาโดย OpenAI ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งใน...

Related Articles

Popular Categories

spot_img