ในสัปดาห์ที่ผ่านมา, ตลาดหุ้นทั่วโลกได้แสดงออกถึงความผันผวนที่หลากหลายตามปัจจัยเฉพาะตัวและข้อมูลเศรษฐกิจที่อัปเดต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง, ดัชนีตลาดหุ้นในสหรัฐอเมริกา, ยุโรป, ญี่ปุ่น และจีน ต่างก็ได้แสดงการเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ ซึ่งสะท้อนถึงมุมมองต่าง ๆ ของนักลงทุนต่อเศรษฐกิจโลกในขณะนี้
ในสหรัฐอเมริกา, ดัชนี Nasdaq และ S&P500 ปรับตัวลดลงเล็กน้อย โดยได้รับแรงกดดันจากตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงกว่าคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนต้องประเมินทิศทางดอกเบี้ยใหม่ ขณะที่ตลาดแรงงานยังคงแสดงความแข็งแกร่ง สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจยังคงเติบโต แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงต่อการเงินเฟ้อที่อาจจะยังคงสูง
ในยุโรป, ดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากความคาดหวังที่ว่าธนาคารกลางอาจลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีต่อตลาดหลักทรัพย์ และแสดงถึงความมั่นใจในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
ในญี่ปุ่น, ดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวลดลง หลังจากมีการเรียกร้องให้ปรับขึ้นค่าจ้าง ซึ่งอาจส่งผลต่อค่าใช้จ่ายของบริษัทและนโยบายดอกเบี้ยของธนาคารกลาง ตัวเลข GDP ที่ดีกว่าคาดเป็นสัญญาณบวก แต่ก็มีความไม่แน่นอนในเรื่องนโยบายการเงิน
จีน, อย่างไรก็ตาม, ได้แสดงความแข็งแกร่งในตลาดหุ้นหลังจากมีข้อมูลเงินเฟ้อที่ดีกว่าคาด ซึ่งสะท้อนถึงการบริโภคที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้, การที่ธนาคารกลางจีนคงอัตราดอกเบี้ยและมาตรการเพื่อควบคุมสภาพคล่องที่เหมาะสม ก็ช่วยส่งเสริมความมั่นใจในตลาด
นอกจากนี้, ราคาน้ำมันในตลาดโลกได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งมีส่วนสำคัญมาจากการโจมตีโรงกลั่นน้ำมันและการลดลงของสต็อกน้ำมันดิบ ความต้องการน้ำมันที่เพิ่มขึ้นตามการคาดการณ์ของ IEA ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อราคาน้ำมันในระยะต่อไป