ช่วงนี้ใครเล็งจะซื้อโน้ตบุ๊คเกมมิ่งแบรนด์ Razer อาจต้องคิดหนักกันหน่อย เพราะล่าสุดมีรายงานจาก Engadget ว่า Razer กลายเป็นเหยื่อรายล่าสุดของมาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนที่ออกโดยรัฐบาล Donald Trump โดยผลกระทบที่ตามมาคือราคาของโน้ตบุ๊คหลายรุ่นของ Razer ในสหรัฐฯ พุ่งสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2018-2019 สหรัฐฯ ได้มีการประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในหลายหมวดหมู่ ซึ่งรวมถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ด้วย โดยตั้งเป้าเพื่อบีบให้จีนเจรจาทางการค้าใหม่ และลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากจีน ซึ่งผลกระทบก็ค่อย ๆ กระจายออกมา ไม่เว้นแม้แต่สินค้าเกมมิ่งไฮเอนด์อย่างโน้ตบุ๊ค Razer
บริษัท Razer ซึ่งมีฐานการผลิตหลักในประเทศจีน และส่งออกสินค้ามายังสหรัฐฯ จึงต้องเผชิญกับภาษีนำเข้าที่เพิ่มขึ้นจากเดิม 0% เป็นสูงสุดถึง 25% ส่งผลให้ราคาขายของโน้ตบุ๊คอย่างรุ่น Razer Blade และ Blade Stealth ปรับตัวขึ้นหลายร้อยดอลลาร์ในบางรุ่น ซึ่งก็แน่นอนว่าทางแบรนด์เองคงไม่สามารถแบกรับต้นทุนเพิ่มตรงนี้ไว้ได้ทั้งหมด ผู้บริโภคเลยต้องรับกรรมไปเต็ม ๆ
ประเด็นที่น่าสนใจคือ แม้รัฐบาลชุดใหม่จะเข้ามาแล้ว แต่หลายมาตรการภาษีในยุค Trump ยังไม่ถูกยกเลิก ทำให้ผลกระทบยังคงอยู่ ไม่ใช่แค่กับ Razer แต่ยังรวมถึงแบรนด์เทคโนโลยีอื่น ๆ ที่ผลิตสินค้าจากจีนด้วย ไม่ว่าจะเป็น Dell, HP หรือแม้แต่ Apple
สำหรับเกมเมอร์ในไทย แม้ราคาขายของ Razer ในบ้านเราจะไม่ได้ผูกกับตลาดอเมริกาตรง ๆ แต่ก็อาจเห็นราคาแพงขึ้นในอนาคต หากต้นทุนการผลิตสูงขึ้น หรือแบรนด์มีการปรับราคาตามตลาดโลก โดยเฉพาะในรุ่นใหม่ ๆ ที่กำลังจะเปิดตัว
หลายคนอาจมองว่านี่คือโอกาสของแบรนด์อื่นที่ผลิตนอกจีน เช่น ASUS หรือ Lenovo ที่มีฐานการผลิตในไต้หวันหรือเวียดนาม แต่ถึงอย่างนั้น ตลาดเกมมิ่งโน้ตบุ๊คก็ยังคงต้องระวังเรื่องสงครามการค้า ที่อาจกลับมาอีกครั้งเมื่อใดก็ได้
สรุปแล้ว…ถ้าใครกำลังเล็งซื้อ Razer อยู่ตอนนี้ อาจต้องเช็กราคาหลาย ๆ ที่ก่อน เพราะผลกระทบจากนโยบายภาษีของ Donald Trump ยังคงหลอกหลอนตลาดอยู่ แม้จะผ่านมาหลายปีแล้วก็ตาม ใครมีงบจำกัดอาจต้องพิจารณาแบรนด์อื่นที่ราคายังนิ่ง ๆ ไว้เป็นตัวเลือกสำรอง