ใครที่กำลังติดตามความตึงเครียดสงครามในภูมิภาคแปซิฟิกต้องมารวมกันทางนี้ เพราะครั้งนี้เรามีข่าวสำคัญจะแจ้งให้ทราบว่า ล่าสุดไต้หวันยืนกรานว่า ช่องแคบไต้หวันเป็นน่านน้ำสากล พร้อมสนับสนุนให้เรือรบสหรัฐฯ เดินทางผ่านช่องแคบไต้หวันได้ หลังรัฐบาลจีนยืนกรานว่า ช่องแคบไต้หวันเป็นอธิปไตยของจีน ซึ่งรายละเอียดเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร เรามาติดตามกันเลย
สรุปข้อมูลและรายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ ได้ดังนี้
- แถลงการณ์ตอบโต้ของไต้หวันมีขึ้น หลังไม่นานหลังกระทรวงการต่างประเทศจีนแถลงการณ์ว่า จีนมีอธิปไตยและสิทธิ รวมถึงอำนาจควบคุมเหนือช่องแคบไต้หวัน
- โดยนาย หวัง เหวินบิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ระบุว่า “การกล่าวอ้างของบางประเทศว่า ช่องแคบไต้หวันเป็นน่านน้ำสากล ไม่เป็นความจริง และเป็นการกระทำเพื่อใช้ประเด็นเกี่ยวกับไต้หวัน เพื่อบั่นทอนอธิปไตยและความมั่นคงของจีน”
- ต่อมา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศไต้หวันตอบโต้ว่า คำกล่าวของจีนเป็นความเชื่อที่ผิด เพราะ “ช่องแคบไต้หวันเป็นน่านน้ำสากล และน่านน้ำรอบนอกช่องแคบไต้หวัน อยู่ภายใต้หลักเสรีภาพการเดินเรือของกฎหมายสากล”
- ไต้หวันยังระบุว่า เข้าใจและสนับสนุนภารกิจเดินเรือของเรือรบสหรัฐฯ ในช่องแคบไต้หวัน โดยระบุว่า จะช่วยส่งเสริมสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค พร้อมยืนกรานว่า จีนไม่มีสิทธิอ้างกรรมสิทธิเหนือไต้หวัน เพราะชาวไต้หวันจะเลือกอนาคตของตนเอง
- จากนั้นที่ปรึกษาด้านความมั่นคงสหรัฐฯ เจค ซัลลิแวน และหยาง เจี๋ยฉือ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงและนักการทูตอาวุโสของจีน ได้หารือกันเป็นเวลานานในลักเซมเบิร์ก ในหลายประเด็นรวมถึงไต้หวัน
- หยาง ระบุว่า “คำถามเรื่องไต้หวันกระทบต่อรากฐานความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ ถ้าไม่ดำเนินการให้เหมาะสม จะส่งผลกระทบร้ายแรงได้” และ “สหรัฐฯ ไม่ควรตัดสินอะไรผิด ๆ หรือมีภาพลวงตาเกี่ยวกับไต้หวัน”
- ด้านเจค ซัลลิแวน ยืนกรานว่า สหรัฐฯ ยอมรับอธิปไตยของจีน แต่ก็แสดงความกังวลถึงพฤติการณ์ของจีนที่ดูยั่วยุและรุนแรงต่อช่องแคบไต้หวัน โดยเฉพาะในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ ที่จีนส่งเครื่องบินรบเข้าใกล้เขตแสดงตนเพื่อความปลอดภัยทางทหารของไต้หวันบ่อยมากขึ้น
- อย่างไรก็ดี การหารือระหว่างซัลลิแวนและหยาง เจี๋ยฉือ ถือว่ามีบรรยากาศผ่อนคลายมากกว่าตอนที่รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ลอยด์ ออสติน และรัฐมนตรีกลาโหมจีน หารือกันระหว่างการประชุมด้านความมั่นคงในสิงคโปร์ โดยรัฐมนตรีกลาโหมจีนเตือนสหรัฐฯ ว่า “จีนจะไม่ลังเลที่จะทำสงคราม” หากไต้หวันพยายามประกาศเอกราชแยกตัวออกจากจีน
- บรรยากาศที่ตึงเครียดเหล่านี้ ยังสืบเนื่องมาจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซึ่งเดินทางเยือนญี่ปุ่นเมื่อเดือนที่แล้ว ประกาศว่า สหรัฐฯ จะปกป้องไต้หวัน หากจีนดำเนินการใช้กำลังเข้าควบคุม
และนี่ก็คือข่าวความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจเกี่ยวกับวิกฤติความตึงเครียดในแปซิฟิกที่เราอยากแจ้งให้เพื่อนๆ ได้ทราบในครั้งนี้ ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อทุกคน ส่วนเหตุการณ์ต่อจากนี้จะเป็นเช่นไร เราจะเกาะติด และรีบนำมาอัพเดทให้ทุกท่านได้ทราบก่อนใครทันที