สวัสดีเพื่อนๆ ชาว ไอทีเมามันส์ ทุกคน กลับมาพบกันเป็นประจำเช่นเคยกับเรื่องราวที่น่าสนใจด้านเทคโนโลยี สำหรับในครั้งนี้เราจะพาเพื่อนมารู้จัก “อแวนการ์ด” (Avangard) ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงระดับไฮเปอร์โซนิกจากทางรัสเซียซึ่งตอนนี้ประจำการเรียบร้อยแล้ว ว่ากันว่าอาวุธมหาประลัยตัวนี้อเมริกากลัวนักกลัวหนา เพราะอะไรลองมาหาคำตอบกันเลย พล.อ. เซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมของรัสเซียแถลงว่า ได้นำระบบขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงในระดับสูงหรือระดับไฮเปอร์โซนิก ที่เรียกว่า “อาวอนการ์ด” (Avangard) เข้าประจำการในกองทัพเพื่อพร้อมใช้งานเรียบร้อยแล้ว พล.อ. ชอยกู ระบุว่า “เหตุการณ์ประวัติศาสตร์” ครั้งนี้ เริ่มต้นขึ้นเมื่อเวลา 10.10 น. ของวันที่ 27 ธ.ค. ตามเวลาในกรุงมอสโก โดยไม่ได้ระบุตำแหน่งของฐานทัพที่นำขีปนาวุธเข้าประจำการ แต่คาดว่าอาจจะเป็นทางตอนใต้ของเทือกเขาอูราล (Ural) ตามที่มีกระแสข่าวไปก่อนหน้านี้ เมื่อวันอังคารที่ 24 ธ.ค. ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียแถลงว่า ระบบขีปนาวุธอาวอนการ์ดซึ่งเป็นขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีปที่บรรทุกหัวรบนิวเคลียร์ได้สูงสุด 2 เมกะตัน สามารถจะพุ่งทะยานด้วยความเร็วเหนือเสียงถึง 20เท่า และเจาะทะลวงผ่านระบบป้องกันขีปนาวุธทุกชนิดที่มีอยู่ในปัจจุบัน รวมทั้งที่กำลังจะพัฒนาขึ้นในอนาคต “ขณะนี้ไม่มีประเทศใดในโลกที่ได้ครอบครองอาวุธไฮเปอร์โซนิก ยังไม่ต้องไปพูดถึงขีปนาวุธข้ามทวีปที่เร็วระดับไฮเปอร์โซนิกให้เสียเวลา” นายปูตินกล่าว ปัจจุบันสหรัฐฯ และจีนมีโครงการพัฒนาขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกเช่นกัน โดยจีนได้เคยทำการทดสอบไปครั้งหนึ่งเมื่อปี 2014 ส่วนกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เคยออกมาแสดงความกังขาว่า ระบบขีปนาวุธอาวอนการ์ดอาจไม่ได้มีประสิทธิภาพยอดเยี่ยมเหมือนกับที่รัสเซียแถลงเอาไว้ หลังจากได้เห็นคลิปวิดีโอแสดงการทดสอบขีปนาวุธดังกล่าวเมื่อปลายปีที่แล้ว โจนาธาน มาร์คัส ผู้สื่อข่าวด้านการทหารของบีบีซีวิเคราะห์ว่า ยังไม่อาจจะสรุปได้แน่นอนว่าระบบขีปนาวุธอาวอนการ์ดนั้นผ่านการพัฒนาจนเสร็จสิ้นแล้ว และได้เข้าประจำการตามที่ทางการรัสเซียแถลง หรือยังอยู่ในกระบวนการทดสอบภาคสนามขั้นสูงกันแน่ แต่อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าสหรัฐฯยังคงล้าหลังรัสเซียและจีนอยู่มากในส่วนของเทคโนโลยีดังกล่าว ขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกนั้นมีความเร็วเหนือเสียงในระดับสูงเป็นพิเศษ กล่าวคือต้องมีความเร็วอย่างน้อยในระดับมัค 5 (Mach 5) หรือเร็วกว่าเสียง 5 เท่าขึ้นไป โดยระบบอาวอนการ์ดอาจจะเป็นได้ทั้งขีปนาวุธประเภทที่มีการจุดระเบิดขับดันไปตลอดทาง หรือเป็นหัวรบที่ติดตั้งบนขีปนาวุธข้ามทวีป ซึ่งจะแยกตัวออกและพุ่งเข้าหาเป้าหมายในภายหลัง ตามการนำวิถีของพาหนะนำร่อน (glide vehicle) ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ นอกจากนี้ ระบบ “ขับดัน-ร่อน” (boost-glide) ยังทำให้การยิงขีปนาวุธอาวอนการ์ดถึงเป้าหมายได้อย่างรวดเร็วขึ้นไปอีก โดยพาหนะนำกลับของขีปนาวุธจะถูกทำให้อยู่ในวิถีที่เกิดการตกกลับคืนสู่ชั้นบรรยากาศโลกได้เร็วขึ้น ก่อนที่ขีปนาวุธจะร่อนต่อไปโดยไม่ต้องใช้เชื้อเพลิงขับดันอีกหลายพันกิโลเมตร ผู้สื่อข่าวด้านการทหารของบีบีซีมองว่า การที่ระบบขีปนาวุธอาวอนการ์ดมีอานุภาพร้ายแรง ไม่ใช่แค่เพราะมีความเร็วเหนือเสียงในระดับสูงเป็นพิเศษเท่านั้น แต่ยังมีระบบควบคุมการร่อนเข้าหาเป้าหมายที่ทรงประสิทธิภาพอย่างยิ่งด้วย โดยจะมีวิถีการพุ่งทะยานไปตามแนวขอบของชั้นบรรยากาศโลก ทำให้ระบบป้องกันขีปนาวุธตรวจจับและยิงสกัดได้ยาก “หากคำกล่าวอ้างของรัสเซียเรื่องระบบขีปนาวุธอาวอนการ์ดเป็นจริง ก็เท่ากับว่าได้พัฒนาขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีปที่ไม่สามารถจะสกัดหรือต้านทานได้ขึ้นมาแล้ว” ผู้สื่อข่าวด้านการทหารของบีบีซีกล่าว “ถ้อยแถลงเรื่องการนำระบบขีปนาวุธอาวอนการ์ดเข้าประจำการ แท้ที่จริงก็คือคำประกาศเริ่มยุคการแข่งขันสะสมอาวุธนิวเคลียร์ครั้งใหม่ที่อันตรายอย่างยิ่ง รัสเซียอาจต้องการโต้ตอบโครงการพัฒนาระบบป้องกันขีปนาวุธของสหรัฐฯ แต่ข่าวคราวเช่นนี้ไม่เป็นผลดีในช่วงที่สนธิสัญญาจำกัดควบคุมนิวเคลียร์ต่าง ๆ ซึ่งทำขึ้นในยุคสงครามเย็นกำลังพังทลายลง”