นายนิธิพัทธ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายบริหารการตลาด บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด กล่าวว่า การมาของวินโดวส์ 8 เข้ามาเปลี่ยนรูปแบบของการจำหน่ายสินค้าโดยสิ้นเชิง จากเดิมผู้บริโภคใช้งานผลิตภัณฑ์ไอทีตามที่ผู้ผลิตสรรสร้างออกมา แต่ปัจจุบันด้วยความหลากหลายของสินค้าทำให้ผู้บริโภคสามารถเลือกในอุปกรณ์ที่ตอบสนองความต้องการของตนเองมากที่สุดได้ “การมาของฟอร์มเฟคเตอร์ใหม่ๆ อย่างไฮบริดโน้ตบุ๊ก ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถพกอุปกรณ์เครื่องเดียว และใช้งานแบบเคลื่อนที่เป็นแท็บเล็ต หรือต่อฐานเพื่อใช้งานร่วมกับคีย์บอร์ด ช่วยลดความซ้ำซ้อนในการใช้งาน เพียงแต่ในเบื้องต้นความเปลี่ยนแปลงอาจยังไม่สุด เพราะยังมีการนำฟอร์มเฟคเตอร์เดิมๆมาใช้ด้วย” นายบุญชัย เงาวิศิษฎ์กุล รองผู้อำนวยการ ฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์โมบิลิตี้ บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด เชื่อว่า ผู้บริโภคจะเกิดการเปลี่ยนเครื่อง (Replacement) คอมพิวเตอร์มากขึ้น เพื่อให้มีความสามารถในการใช้งานระบบสัมผัส รวมถึงอุปกรณ์เสริมอย่างหน้าจอแบบสัมผัสก็จะกลับมาได้รับความนิยมมากขึ้น “ผู้ที่ซื้อเครื่องของเอเซอร์ไปในช่วงวันที่ 14 กันยายน – 4 พฤศจิกายน และตัวเครื่องยังทำงานบนระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 7 อยู่ สามารถนำเข้าไปที่ศูนย์บริการเอเซอร์เพื่ออัปเกรดเป็นวินโดวส์ 8 ได้ฟรี สำหรับรุ่นที่รองรับการใช้งานวินโดวส์ 8 ซึ่งทางเอเซอร์จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้”
สำหรับเอเซอร์ จะมีสินค้าที่ออกมาวางจำหน่ายพร้อมวินโดวส์ 8 ด้วยกันทั้งหมด 10 รุ่น โดยจะทยอยเข้ามาวางจำหน่ายภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งมีรุ่นที่น่าสนใจคือ Aspire S7 Touch Ultrabook อัลตร้าบุ๊กหน้าจอสัมผัส ราคาเริ่มต้นในรุ่น 11 นิ้ว ซีพียู Core i5 45,900 บาท รุ่น 13 นิ้ว เริ่มที่ 49,900 บาท สำหรับซีพียู Core i5 และ 59,900 บาทสำหรับ Core i7 นอกจากนี้ยังมี Iconia Tab W510 แท็บเล็ตหน้าจอขนาด 7 นิ้ว ที่ใช้หน่วยประมวลผล Intel Atom ราคา 16,900 บาท ที่สามารถต่อฐานคีย์บอร์ดพร้อมแบตเตอรีเสริม (ซื้อเพิ่มในราคาประมาณ 3,500 บาท) Aspire V5 Touch Series โน้ตบุ๊กรุ่นบาง ขนาด 15.6 นิ้ว และ 14 นิ้ว ที่รองรับระบบหน้าจอสัมผัส และคอมพิวเตอร์ออลอินวัน Aspire 7600U และ Aspire 5600U