นายไคเซอร์ กัว ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารระหว่างประเทศ บริษัท ไป่ตู้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ไป่ตู้ เป็นเว็บเสิร์ชเอนจิ้นที่ใหญ่ที่สุดของจีน โดยปัจจุบันมีชาวจีนใช้อินเทอร์เน็ตว่า 500 ล้านคน และในจำนวนนั้น 87% ใช้เสิร์ชเอนจิ้นของไป่ตู้ ด้วยอัตราการใช้งาน 7 ครั้งต่อวัน หรือ รวมการเรียกข้อมูลกว่า 5,000 ล้านครั้ง อีกทั้งยังเป็นกุญแจในการเข้าสู่บริการโซเชียลเน็ตเวิร์กต่างๆ ของจีนผ่านทาง MyBaidu อีกด้วย และครั้งนี้ คิือ การเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทย ไป่ตู้อยากจะเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาสังคมออนไลน์ในประเทศไทย และเชื่อว่าการนำเสนอซอฟต์แวร์ฟรีที่ใช้งานง่าย แต่ทรงพลัง ปกป้องผู้ใช้อินเทอร์เน็ต รวมถึงเพิ่มพูนประสบการณ์ท่องโลกออนไลน์นั้น เป็นสิ่งสำคัญที่สนับสนุนได้ จากระยะเวลา 1 ปีที่ได้เข้ามาศึกษาผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตในประเทศไทย พบว่าปัญหาที่ผู้ใช้งานชาวไทยเจอมากที่สุด คือ คอมพิวเตอร์ติดไวรัส เครื่องทำงานช้า และขาดการอัพเดทระบบปฏิบัติการ ผอ.ฝ่ายสื่อสารระหว่างประเทศ บ.ไป่ตู้ฯ กล่าวต่อว่า ไป่ตู้จึงเปิดตัว Baidu PC Faster ได้ถูกออกแบบให้ตอบสนองความต้องการผู้ใช้อินเทอร์เน็ตชาวไทยโดยเฉพาะ เพื่อจะเข้าจัดการปัญหาที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตชาวไทย กว่า 25 ล้านคนกำลังเผชิญอยู่ โดยจะป้องกัน คอมพิวเตอร์จากการโจมตีของแฮกเกอร์ โทรจัน ไวรัสต่างๆ รวมถึงมัลแวร์ นอกจากนี้ยังช่วยกู้คืนพื้นที่ของ ฮาร์ดไดรฟ์ เร่งเวลาบูตเครื่องให้เร็วขึ้น ด้วยการจัดการโปรแกรมที่ไม่จำเป็น หรือ ไฟล์ขยะที่หน่วงเครื่อง และปกป้องข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้อีกด้วย ซอฟต์แวร์ Baidu PC Faster เวอร์ชั่นเบต้าในประเทศไทยเมื่อเดือนมิถุนายน 2555 และถึงปัจจุบันมีการดาวน์โหลดไปใช้แล้วกว่า 1 ล้านครั้งในระยะเวลาไม่ถึง 4 เดือน สำหรับ Version 2.0 นี้ Baidu PC Faster ได้เพิ่มฟังก์ชั่น Anti Virus, USB Guard (สแกน USB เพื่อปกป้อง คอมพิวเตอร์ จากมัลแวร์และต้านการติดไวรัส) และ Boot Time Manager (ตรวจสอบเวลาที่ใช้ในการเปิดเครื่องอัตโนมัติวิเคราะห์สาเหตุของปัญหาเครื่องช้า) และอินเตอร์เฟซภาษาไทยที่ง่ายต่อการใช้งาน นายไคเซอร์ กล่าวถึงแผนการดำเนินงานในปี 2012 ว่า ในเดือนกรกฎาคมปีนี้ ไป่ตู้และสำนักงานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการวิจัยแห่งสิงคโปร์ (เอสตาร์) ได้เปิดตัวศูนย์การวิจัยร่วมในประเทศสิงคโปร์โดยมุ่งเน้นศึกษาวิจัยภาษาไทยและเวียดนามและการประมวล ผลภาษาไป่ตู้เชื่อว่าความเข้าใจถึงความต้องการของผู้ใช้ในแต่ละตลาดและการศึกษาลักษณะเฉพาะทาง ภาษาไทย และภาษาเวียดนาม นั้นมี ความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จของไป่ตู้ เพื่อที่เราจะสามารถหาคำตอบจากคำค้นของผู้ใช้ได้ถูกต้องแม่นยำ ดั่งเช่นที่ไป่ตู้ประสบความสำเร็จในประเทศจีนจากความเชี่ยวชาญด้านภาษา รวมถึงการจับมือกับพันธมิตรในกลุ่มต่างๆ อาทิ ไทยแวร์ดอทคอม ทรูฮิตส์ และ เอเชียซอฟท์ เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจ ทั้งนี้ 1 ปีที่ไป่ตู้อยู่เมืองไทย เราได้เปิดสำนักงานอย่างเป็นทางการ มีพนักงานประจำ 6 คน และจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงมั่นใจได้ว่าไป่ตู้ยังมีพันธกิจระยะยาวกับเมืองไทยอย่างแน่นอน ผอ.ฝ่ายสื่อสารระหว่างประเทศ บ.ไป่ตู้ฯ กล่าวอีกว่า สำหรับไป่ตู้มองว่าประเทศไทยยังมีโอกาสในการทำธุรกิจอีกมาก เพราะประชากรไทยมี 75 ล้านคน แต่มีคนใช้อินเทอร์เน็ต 25 ล้านคน ยังมีผู้ใช้งานหน้าใหม่ ที่ไม่เคยเข้าถึงอินเทอร์เน็ต และเว็บไซต์เสิร์ชเอนจิ้นอีกมาก เมื่อปีที่แล้วไป่ตู้เปิดตัวเว็บไซต์ www.hao123.com ก็มีผู้ใช้งานถึง 8 ล้านราย นอกจากนี้ ในธุรกิจออนไลน์ไป่ตู้ก็มีบทบาทในการทำโฆษณาออนไลน์ทั่วโลก และเมืองไทยก็เป็นตลาดที่น่าจับตาเช่นกัน ส่วนการเปิดเสิร์ชเอนจิ้นภาษาไทยนั้นน่าจะประมาณปลายปีคงมีความคืบหน้า แต่หัวใจหลักของบริการยังอยู่ที่ การที่ใช้งานง่าย ให้ข้อมูลถูกต้องรวดเร็ว นายไคเซอร์ กล่าวด้วยว่า นอกจากแพลตฟอร์มพีซีแล้วไป่ตู้ยังมุ่งเน้นไปที่ตลาดโมบาย เพราะปัจจุบันในประเทศจีนมีผู้ใช้งานมือถือค้นหาข้อมูลแล้วถึง 20% ดังนั้น โมบายก็เป็นอีก 1 กุญแจสำคัญที่จะเข้าถึงตลาดทุกที่ที่ไป่ตู้จะไป ทำให้เรามีการวิจัยและพัฒนามากขึ้น มีเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาเพื่อสร้างแอพพลิเคชั่น อีกทั้งยังพัฒนาโอเพ่นแพลตฟอร์มที่สร้างบริการขึ้นมาร่วมกับพันธมิตร อาทิ พยากรณ์อากาศ จองตั๋วเครื่องบิน ที่จะช่วยให้ผู้ใช้ได้ข้อมูลที่ต้องการ ขณะที่พันธมิตรก็ได้ยอดทราฟฟิกผู้เข้าชม ทั้งนี้นอกจากการเข้ามาทำธุรกิจในไทยแล้ว ไปตู้ยังมองตลาดใหม่ๆ เช่น ตะวันออกกลาง แอฟฟิกาเหนือ เช่นอียิปต์ ที่มีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตมาก มีคอนเทนต์มาก รวมทั้งอเมริกาใต้ อย่าง บราซิล ก็น่าสนใจ