แคนนอนหวังขึ้นเป็นผู้นำตลาดมิร์เรอร์เลสช่วงต้นปีหน้า หลังเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ EOS M พร้อมวางขายช่วงเดือนตุลาคม คาดสัดส่วนตลาดระหว่าง DLSR กับมิร์เรอร์เลสจะอยู่ที่ 80% ต่อ 20% นายวาตารุ นิชิโอกะ ประธานบริษัท และประธานกรรมการบริหาร บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวถึงภาพรวมตลาดในช่วงครึ่งปีแรกของแคนนอนในส่วนของตลาดกล้อง DLSR มีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 40% ส่วนตลาดกล้องคอมแพกต์ก็ยังมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องแม้ว่าตลาดรวมจะลดลง โดยเนื่องจากครึ่งปีแรกกล้อง DLSR มีอัตราการเติบโตสูงทำให้ส่วนแบ่งตลาดของกล้อง DSLR ในช่วงครึ่งปีแรกขึ้นไปอยู่ที่ 70% ส่วนในครึ่งปีหลังคาดว่าจะเติบโตราว 30% ทำให้ท้ายที่สุดแล้วคาดว่าส่วนแบ่งตลาดจะอยู่ที่ราว 65% เนื่องจากมีปัจจัยหลายอย่างที่ต้องคำนึงถึง ขณะที่กล้องคอมแพกต์ครึ่งปีแรกอยู่ที่ 18-10% แต่เชื่อว่าถึงสิ้นปีจะปิดที่มากกว่า 20% ซึ่งยังต้องรอดูต่อไปว่าจะอยู่ในอันดับที่เท่าใด เพราะปัจจุบันส่วนแบ่งตลาดกล้องคอมแพกต์ระดับ 1-3 อยู่ใกล้เคียงกัน ทั้งนี้ เชื่อว่าตลาดรวมกล้อง DLSR ถึงสิ้นปีนี้จะอยู่ที่ 1.35 แสนตัว ส่วนกล้องคอมแพกต์อยู่ที่ 1.3 ล้านตัว สำหรับเป้าหมายรายได้ในปีนี้ของแคนนอนประเทศไทยอยู่ที่ 1.11 หมื่นล้านบาท โดยเป็นรายได้จากกลุ่มผลิตภัณฑ์อิมเมจจิ้งที่ 6.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 41% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ล่าสุดเปิดตัว 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างกล้อง DSLR EOS 650D ที่เริ่มวางจำหน่ายแล้ว และมิร์เรอร์เลส EOS M ที่จะเข้ามาทำตลาดในช่วงเดือนตุลาคม โดยตั้งเป้าว่าจะสามารถจำหน่ายมิร์เรอร์เลสปีนี้เดือนละ 2,000 ตัว “กล้องมิร์เรอร์เลสออกมาตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มที่ต้องการเครื่องขนาดเล็ก และเบาลง บนคุณภาพระดับใกล้เคียงกับกล้อง DSLR ซึ่งแคนนอนใช้เวลา 2 ปีในการศึกษาข้อบกพร่องของคู่แข่งและนำมาปรับปรุงในผลิตภัณฑ์ EOS M ให้ตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้ามากที่สุด” ทั้งนี้ คาดว่าสัดส่วนของกล้อง DSLR และมิร์เรอร์เลสหลังจากวางจำหน่าย EOS M แล้วจะอยู่ที่ 80% ต่อ 20% และคาดว่าจะขึ้นเป็นผู้นำตลาดมิร์เรอร์เลสได้ในช่วงต้นปีหน้าด้วยส่วนแบ่งตลาด 30-35% สำหรับจุดเด่นของกล้อง EOS 650D และ EOS M คือหน้าจอทัชสกรีนแบบ Capasitive ที่มาพร้อมกับระบบทัชโฟกัส ช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพเคลื่อนไหวพร้อมการโฟกัสเฉพาะจุดได้อย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันยังมาพร้อมหน่วยประมวลผลภาพ DIGIC 5 และเซ็นเซอร์ Hybrid CMOS AF System ช่วยเพิ่มความสามารถในการโฟกัสอย่างต่อเนื่อง โดยราคาจำหน่ายของ EOS 650D พร้อมเลนส์ EF-S18-55mm IS II อยู่ที่ 30,900 บาท และพร้อมเลนส์ EF-S18-135mm IS STM อยู่ที่ 40,900 บาท ส่วน EOS M แบ่งออกเป็น 3 ชุด คือ พร้อมเลนส์ EF-M18-55mm IS STM ที่ 28,900 บาท พร้อมเลนส์ EF-M22mm และ Mount Adapter ที่ 29,900 บาท สุดท้ายพร้อมเลนส์ EF-M18-55mm IS STM, EF-M22mm และแฟลช Speedlite 90EX ที่ราคา 32,900 บาท ที่มา : http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9550000099242