พนักงานไม่อยากกลับออฟฟิศกัน จนล่าสุด CEO สตาร์บัคส์วอนขอพนักงานกลับมาทำงานในออฟฟิศ ยอมคุกเข่าหรือทำอะไรก็ได้ รายละเอียดเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร เรามาติดตามกันเลย
สรุปข้อมูลและรายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ ได้ดังนี้
- ถึงแม้จะบอกว่ายอมทำ “ทุกอย่าง” เพื่อให้พนักงานกลับเข้ามาทำงานในออฟฟิศ แต่ โฮเวิร์ด ชูลท์ซ ผู้บริหารสูงสุดของสตาร์บัคส์ ร้านขายกาแฟเจ้าดังwfhออกมาเปิดเผยว่า พนักงานของพวกเขายังไม่กลับมาทำงานในออฟฟิศ “ตามระดับ” ที่เขาต้องการ
- “ผมไม่ประสบความสำเร็จ แม้ผมจะพยายามทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้ เพื่อให้คนของเรากลับมาทำงาน” ชูลท์ซให้สัมภาษณ์ในงานประชุมนโยบาย DealBook ของ The New York Times ในวอชิงตันดีซี “ผมขอร้องพวกเขา ผมบอกว่าผมยอมจะคุกเข่า ผมจะยอมดันพื้น อะไรก็ได้ที่คุณอยากให้ทำ กลับมาเถอะ”
- “ไม่เลย พวกเขาไม่ได้กลับมาในระดับที่ผมต้องการให้เขาทำกัน และคุณรู้ไหม เราเป็นกลุ่มที่ให้ความร่วมมือกัน และมีความคิดสร้างสรรค์มาก ผมตระหนักได้ว่าผมเป็นพวกคนรุ่นเก่า และนี่คือช่วงวัยที่แตกต่างกัน” ผู้บริหารสูงสุดของสตาร์บัคส์ยอมรับว่า แนวการทำงานจากที่ไหนก็ได้กลายเป็นเรื่องของยุคสมัยใหม่ หลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ผู้คนต้องกักตัวที่บ้าน จนนำมาสู่การหาหนทางในการทำงานที่มีความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้นแทนการเข้าออฟฟิศในทุกวันจันทร์ถึงศุกร์
- เว็บไซต์ของสตาร์บัคส์เปิดเผยว่า แต่ถึงแม้ว่าชูลท์ซจะออกมาพูดด้วยความสิ้นหวัง ในการหาหนทางให้พนักงานของสตาร์บัคส์กลับมาทำงานในออฟฟิศ แต่สตาร์บัคส์จะไม่มีการออกมาตรการบังคับให้พนักงานเดินทางกลับเข้ามาทำงานในออฟฟิศ ทั้งนี้ สตาร์บัคส์จะเสนอ “ตัวเลือกที่ยืดหยุ่นสำหรับบทบาทของผู้ที่ไม่ได้อยู่ในหน่วยขายปลีก” ในรูปแบบการทำงานแบบไฮบริดและการทำงานจากระยะไกล
- “ตัวเลือกสถานที่ทำงานแบบไฮบริด ขึ้นอยู่กับบทบาทของแต่ละบุคคล และจากการระบุเอาไว้ในประกาศรับสมัครงานของเรา” เว็บไซต์สตาร์บัคส์ระบุ “บทบาทที่ไม่จำเป็นต้องอยู่ในสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง จะถูกระบุว่าเป็นงาน ‘ระยะไกล’ ในขณะที่บทบาทที่สามารถทำได้ในหลายสถานที่ เช่น การผสมการทำงานระหว่างบ้านและที่ทำงาน จะถูกระบุว่าเป็น ‘ไฮบริด’”
- ทั้งนี้ สตาร์บัคส์ไม่ได้แสดงความเห็นใดๆ เพิ่มเติมต่อการออกมาพูดของชูลท์ซว่าเขายอมจะคุกเข่า หรือทำอะไรก็ได้เพื่อให้พนักงานของสตาร์บัคส์กลับมาทำงานในออฟฟิศ ความเห็นของชูลท์ซเกิดขึ้นหลังจากที่ อีลอน มัสก์ เจ้าของและผู้บริหารสูงสุดของเทสลาออกมาบังคับให้พนักงานกลับมาทำงานในออฟฟิศหรือไม่ก็ลาออกจากตำแหน่ง ทั้งนี้ มัสก์เป็นผู้บริหารไม่กี่คนที่วิจารณ์การทำงานระยะไกล และโจมตีว่าพนักงานที่ต่อต้านการทำงานในออฟฟิศ “ควรไปแสร้งว่าทำงานในที่อื่น” ความเห็นของมัสก์ถูกวิจารณ์ไปในหลายทิศทาง
- ในทางตรงกันข้าม ชูลท์ซยอมรับถึงความคิดในการทำงานแบบไฮบริดและระยะไกล ถึงแม้ว่าเขาจะยอมรับว่าตัวเองเป็นคนหัวสมัยเก่าและเลือกที่จะเข้าทำงานในออฟฟิศ ชูลท์ซเปิดเผยว่าเขาเดินทางมาทำงานในออฟฟิศของสตาร์บัคส์ในช่วงเช้าเวลา 00 น. ก่อนที่จะเลิกงานกลับบ้านในเวลา 19.00 น. พร้อมระบุว่าสถานที่ในการทำงาน ณ ปัจจุบันสามารถยืดหยุ่นได้ “อย่างที่มันเป็นอยู่” ในตอนนี้
- “ผมคิดว่าคนคงกลับมาสองถึงสามวันในแต่ละสัปดาห์ และนั่นคือหนทาง ทางอย่างที่มันเป็น” ชูลท์ซกล่าว “แต่สิ่งที่ผมกำลังประเมินคือ อะไรคือระดับของความสามารถในการผลิต และคุณรู้ไหม ดูเหมือนว่าคนจะเลือกทำงานกันที่บ้านนะ”
และนี่ก็คือข่าวความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจในแวดวงธุรกิจจากสตาร์บัคที่เราอยากแจ้งให้เพื่อนๆ ได้ทราบในครั้งนี้ ก็หวังว่าจะเป็นที่ชื่นชอบถูกในคอธุรกิจทุกคน เพราะจะเห็นได้ว่าด้วยวิถีชีวิตใหม่ ที่ทุกคนปรับตัวในช่วงโควิดไปแล้วนั้น ยากที่จะกลับคืนเป็นเหมือนก่อนหน้านี้ได้