เอ็มไอเอช คอนซอร์เทียม (MIH Consortium) ได้เข้าร่วมงาน Auto Shanghai ประจำปี 2566 เพื่อนำเสนอความเชี่ยวชาญและนวัตกรรมด้านยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ในซัพพลายเชนภาคยานยนต์ โดยมุ่งสร้างซัพพลายเชนรถยนต์ไฟฟ้าที่ครอบคลุม ซึ่งให้ความสนใจเป็นพิเศษในการสร้างสมาร์ทซิตี้ให้กับผู้ให้บริการโมบิลิตี้และผู้ให้บริการยานพาหนะ
MIH Consortium คือความร่วมมือระหว่างหงไห่ เทคโนโลยี กรุ๊ป (Hon Hai Technology Group) หรือฟ็อกซ์คอนน์ (Foxconn) กับบริษัทรถยนต์รายใหญ่ชื่อดังอย่าง เอเซียน่า การ์ส (Yulon Group) และ จีอีมอเตอร์ (Gogoro) เพื่อพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าแบบ open platform ที่สามารถปรับแต่งและสร้างสรรค์ได้ตามความต้องการของผู้ใช้งาน
เอ็มไอเอชมีสมาชิกกว่า 2,600 รายใน 14 กลุ่มทำงาน โดยเน้นการพัฒนาโซลูชันรถยนต์ไฟฟ้าที่ปลอดภัยและเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตของสิ่งของ (IoT) รวมถึงให้บริการแพลตฟอร์มสำหรับธุรกิจรถยนต์โดยเฉพาะ นอกจากนี้ ทีมงานของเอ็มไอเอชยังมุ่งหวังที่จะสร้างสรรค์ความเป็นเลิศ
เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เอ็มไอเอชได้เปิดตัวโปรเจกต์ เอ็กซ์ (Project X) เพื่อเปิดโอกาสให้พันธมิตรที่สนใจบุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเลือกเซกเมนต์และสเป็กรถได้อย่างอิสระ ผ่านระบบที่มีลักษณะแยกส่วนและปรับแต่งได้ โดยได้ออกแบบรถยนต์ไฟฟ้า 3 ที่นั่งในเซกเมนต์เอไว้เป็นรุ่นสาธิต เพื่อแสดงให้เห็นความเปิดกว้างของโปรเจกต์ เอ็กซ์ และความก้าวหน้าทางเทคนิคจากกลุ่มทำงานของเอ็มไอเอช โปรเจกต์ดังกล่าวคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะเปิดตัวต้นแบบจากโปรเจกต์ เอ็กซ์ เป็นครั้งแรกได้ที่งานเจแปน โมบิลิตี้ โชว์ (Japan Mobility Show) ประจำปี 2566 ที่กรุงโตเกียว ในเดือนตุลาคมนี้ ทั้งยังคาดว่าจะเปิดตัวรถต้นแบบในขนาด 6 ที่นั่งและ 9 ที่นั่งได้ในอีก 2 ปีข้างหน้าด้วย
แจ็ค เฉิง (Jack Cheng) ซีอีโอของเอ็มไอเอช คอนซอร์เทียม ได้เน้นย้ำพันธสัญญาของเอ็มไอเอช คอนซอร์เทียม ในการเข้ามามีบทบาทขับเคลื่อนอนาคตของสมาร์ทซิตี้ทั่วโลก โดยมีบทบาทอย่างจริงจังในการให้บริการต่าง ๆ เช่น บริการเรียกรถ รวมกลุ่มใช้รถ แบ่งใช้รถ การจัดส่ง และกองรถขนส่ง คุณเฉิงยังเปิดเผยด้วยว่า ทางเอ็มไอเอชมีแผนเปิดตัวโปรเจกต์ทดสอบความเป็นไปได้ (POC) ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงไทยและญี่ปุ่นด้วย โดยใช้แนวทางแบบ B2B และใช้ “โปรเจกต์ เอ็กซ์” เป็นรากฐานในการคิดค้นผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฟฟ้าของเอ็มไอเอช นอกจากนี้ เอ็มไอเอชยังได้ประกาศความตั้งใจในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้ารูปแบบใหม่ ๆ รวมถึงรถตุ๊กตุ๊กและรถเพื่อการพาณิชย์ ทั้งมินิแวน รถบรรทุกขนาด 3.5 ตัน และ 5 ตัน
เอ็มไอเอชได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในมหกรรมสมาร์ทโมบิลิตี้ที่ใหญ่ที่สุดของไต้หวันอย่าง “2035 อี-โมบิลิตี้ ไต้หวัน แอนด์ ไทเป เอเอ็มพีเอ” (2035 E-Mobility Taiwan & Taipei AMPA) และต่อมาพันธมิตรของเอ็มไอเอชอย่างซีทูเอ ซิเคียวริตี (C2A Security) ดีปไดร์ฟ (DeepDrive) เอลาฟ (Elaphe) เอฟอีวี (FEV) ฟ็อกซ์คอนน์ อินดัสเทรียล อินเทอร์เน็ต (Foxconn Industrial Internet หรือ Fii) เอชซีเอ็มเอฟ กรุ๊ป (HCMF Group) ลองซิส (Longsys) ยูแอล โซลูชันส์ (UL Solutions) และวอยเอเจอร์ เทคโนโลยี (Voyager Technology) ก็กลับมาสร้างความประทับใจอีกครั้ง โดยพร้อมใจจัดแสดงโซลูชันเทคโนโลยีสุดล้ำหน้าที่งานเซี่ยงไฮ้ อินเตอร์เนชันแนล ออโต โชว์ (Shanghai International Auto Show) ประจำปี 2566
เอ็มไอเอชพร้อมผลักดันตลาดรถยนต์ไฟฟ้าและสมาร์ทโมบิลิตี้ให้พัฒนาก้าวหน้าต่อไปทั่วโลก โดยจะมีการเปิดตัวต้นแบบจากโปรเจกต์ เอ็กซ์ รวมถึงโครงการริเริ่มใหม่ ๆ ในภาคสมาร์ทซิตี้ที่งานเจแปน โมบิลิตี้ โชว์ ในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งเอ็มไอเอชมุ่งมั่นที่จะพัฒนาวงการสมาร์ทซิตี้ ไปจนถึงรถแบบแยกส่วนที่ปรับแต่งได้ และยินดีจับมือเป็นพันธมิตรทั่วโลก เพื่อนำเสนอตัวเลือกที่น่าสนใจให้กับธุรกิจที่มองหาโซลูชันรถยนต์ไฟฟ้าและโมบิลิตี้อัจฉริยะ