นายเออิจิ คาโตะ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) กล่าวว่า หลังจากที่เอปสันเปิดตัวอิงก์เจ็ตพรินเตอร์แอล ซีรีส์ที่เป็นแทงค์แท้มาตั้งแต่ปีที่แล้ว เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่มองหาพรินเตอร์ที่คุ้มค่าทั้งในเรื่องหมึกพิมพ์และความเร็วในการพิมพ์เป็นหลัก ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ในปีนี้เอปสันจึงเปิดตัวพรินเตอร์ที่เป็นแอล ซีรีส์เพิ่มอีก 4 รุ่น ที่มีการปรับเพิ่มประสิทธิภาพในการพิมพ์ที่เร็วขึ้นกว่า 2 รุ่นแรกที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ 2-3 เท่า ในราคาที่คุ้มค่ายิ่งขึ้น โดยมีราคาถูกกว่ารุ่นเดิมถึง 30% ขณะที่ราคาหมึกพิมพ์ก็ยังคงเดิมส่งผลให้ต้นทุนการพิมพ์ต่อแผ่นของพรินเตอร์ในรุ่นนี้ถูกที่สุดในตลาดอิงก์เจ็ตพรินเตอร์ที่ผลิตโดยเจ้าของแบรนด์เอง โดยพิมพ์ได้ถึง 4,000 หน้าด้วยต้นทุนค่าหมึกเพียง 250 บาท นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) กล่าวว่า อิงก์เจ็ตพรินเตอร์ แอล ซีรีส์ เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เอปสันเป็นผู้นำตลาด โดยมูลค่าตลาดรวมของอิงก์เจ็ตพรินเตอร์ปีนี้จะมีประมาณ 2,500-3,000 ล้านบาท เอปสันมีส่วนแบ่งตลาด 30% ซึ่งแนวทางการทำตลาดเอปสันไม่ได้เน้นเรื่องของเครื่องราคาถูกเป็นหลัก แต่มองเรื่องความคุ้มค่ามากกว่า จะเห็นได้ว่าราคาเครื่องของเอปสันจะแพงกว่าแต่ราคาหมึกของเอปสันจะถูกกว่า โดยเป้าหมายในปีนี้เอปสันต้องการมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 33-35% อิงก์เจ็ตที่เปิดตัวในครั้งนี้ ประกอบไปด้วย รุ่นแอล110 มีราคาขายอยู่ที่ 3,990 บาท ถูกกว่ารุ่น แอล100 ที่ขายอยู่ 5,290 บาท ประมาณ 32% แต่มีความเร็วในการพิมพ์มากกว่า 2 เท่า ส่วนรุ่นแอล210 มีราคาที่เท่ากับแอล100 แต่มีฟีเจอร์และความเร็วที่เพิ่มขึ้น 3 เท่า ทั้ง 2 รุ่นนี้จึงเหมาะกับกลุ่มนักเรียนและโฮมออฟฟิศที่เน้นราคาประหยัด รองรับการพิมพ์งานจำนวนมากและพิมพ์ได้ต่อเนื่อง ส่วนรุ่นแอล300 ตั้งราคาขายไว้ที่ 4,990 บาท ราคาถูกกว่ารุ่นแอล200 ประมาณ 30% แต่มีความเร็วสูงขึ้น 2 เท่า และรุ่นแอล 350 มีราคาที่เท่ากับแอล 200 แต่มีความเร็วสูงกว่า 3 เท่า ส่วนสาเหตุที่ทำให้ราคาลดลงถึง 30% เนื่องจากทางเอปสันสามารถผลิตพรินเตอร์รุ่นดังกล่าวเป็นจำนวนมากทำให้ต้นทุนการผลิตมีราคาที่ลดลง ทั้งนี้พรินเตอร์แอลซีรีส์นี้เป็นพรินเตอร์ที่มีสเปกพิเศษต่างจากพรินเตอร์ที่วางขายปกติทั่วไป โดยเเฉพาะเรื่องของความเร็วในการพิมพ์ กับคุณภาพของการทำงานในส่วนแทงค์เติมหมึกที่ดีกว่า และยังได้รับประกันจากทางเอปสันเป็นเวลา 1 ปี ในส่วนแนวโน้มตลาดที่นำอิงก์เจ็ตพรินเตอร์ไปดัดแปลงติดตั้งแทงค์ที่ไม่ได้มาตรฐานจากบริษัทผู้ผลิตโดยตรงนั้นคิดเป็นประมาณ 50% การเปิดตัวพรินเตอร์รุ่นใหม่นี้ เอปสันไม่ได้คาดหวังว่าจะไปตีตลาดดังกล่าว แต่ต้องการให้ผู้บริโภคได้เห็นความคุ้มค่าที่จะได้รับจากพรินเตอร์ที่ติดตั้งแทงค์แท้ที่ได้มาตรฐานจากบริษัทผู้ผลิตพรินเตอร์โดยตรงมากกว่า ทั้งนี้เอปสันเตรียมงบการตลาดสำหรับพรินเตอร์รุ่นนี้ 20 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากที่เปิดตัวรุ่นแรกที่ใช้เพียง 10 ล้านบาท “ในปีที่แล้ว ยอดขายพรินเตอร์แอลซีรีส์คิดเป็น 10% ของรายได้พรินเตอร์ของเอปสัน แต่ในปีนี้คาดว่าจะมีสัดส่วนเพิ่มเป็น 15-20% ซึ่งเอปสันจะทยอยออกแอลซีรีส์ออกมาอีกหลายรุ่นตามมา”