ทันทีที่ระฆังเปิดขายหุ้นครั้งแรกของเฟซบุ๊ก (Facebook) ถูกลั่นด้วยมือของผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊กอย่างมาร์ก ซัคเกอร์เบิร์ก หนุ่มมาร์กที่เพิ่งมีอายุครบ 28 ปีเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมาได้กลายเป็นมหาเศรษฐี 1.9 หมื่นล้านเหรียญ ตามมูลค่าหุ้นเฟซบุ๊กหุ้นละ 38 เหรียญที่ถืออยู่
เป็นไปตามกำหนดการ 9.30 น. ของวันศุกร์ที่ 18 พฤษภาคม 2555 (21.30 น. ตามเวลาประเทศไทย) มาร์ก ซัคเกอร์เบิร์กลั่นระฆังตามธรรมเนียมการเปิดขายหุ้นหรือ Nasdaq opening bell หน้าสำนักงานใหญ่เฟซบุ๊กในย่าน Menlo Park เมือง Palo Alto ย่านซิลิกอนวัลเลย์ ท่ามกลางพนักงานและผู้บริหารเฟซบุ๊กอย่างเชอร์รีล แซนเบิร์ก (Sheryl Sandberg) ถือเป็นการแหกธรรมเนียมปฎิบัติที่ผู้บริหารบริษัทส่วนใหญ่มักจะเดินทางไป เมืองนิวยอร์ก เพื่อลั่นระฆังจากระเบียงห้องโถงที่ทำการตลาดหุ้นนิวยอร์ก นักวิเคราะห์เชื่อกันว่า มูลค่าหุ้นของเฟซบุ๊กมีโอกาสเพิ่มขึ้นราว 50% ในวันแรกของการวางจำหน่าย โดย การเสนอขายหุ้นครั้งแรกหรือ IPO ของเฟซบุ๊กซึ่งบริษัทตั้งไว้ที่ 38 เหรียญสหรัต่อหุ้นนั้นทำให้มาร์ก ซัคเกอร์เบิร์กมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นเป็นมูลค่ากว่า 1.91 หมื่นล้านเหรียญ (ราว 5.9 แสนล้านบาท) เช่นเดียวกับผู้ร่วมก่อตั้งอย่าง Eduardo Saverin ซึ่งกลายเป็นผู้มีหุ้นเฟซบุ๊กเป็นมูลค่ามากกว่า 4 พันล้านเหรียญ อย่างไรก็ตาม หลายเสียงวิจารณ์ว่ามูลค่า IPO 38 เหรียญต่อหุ้นของเฟซบุ๊กนั้นเป็นมูลค่าที่สูงเกินไป โดยสูงกว่าเมื่อครั้งที่กูเกิล (Google) ยักษ์ใหญ่โลกออนไลน์เริ่มขาย IPO ถึง 4 เท่าตัว (กูเกิลเริ่มขาย IPO ในปี 2004) รวมหุ้นทั้งหมดของเฟซบุ๊ก 420 ล้านหุ้น จะทำให้ยักษ์ใหญ่เครือข่ายสังคมสามารถระดมทุนเพิ่มถึง 1.6 หมื่นล้านเหรียญในวันเดียว ซึ่งทำสถิติเป็นการขาย IPO ที่มีมูลค่าสูงที่สุดเป็นอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์หุ้นสหรัฐ โดยมูลค่าตลาดรวมของเฟซบุ๊กที่จะทยานขึ้นไปแตะระดับ 1.04 แสนล้านเหรียญนั้นทำให้เฟซบุ๊กกลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงกว่ายักษ์ใหญ่ อย่างอเมซอน (Amazon) รวมถึงดีสนีย์ (Disney) และคราฟท์ (Kraft)